เฟสบุ๊คโดนปรับ หนัก 110 ล้านยูโร (หรือ 4พันล้านบาท) ข้อหาทำให้เกิดความเข้าใจผิด หลังจากที่เพิ่งซื้อกิจการ Whatsapp ไปในราคา 19 พันล้านดอลล่าร์เมื่อสองปีที่ผ่านมา
เมื่อปี 2015 ทางเฟสบุ๊คได้ซื้อกิจการของ Whatsapp ไปในราคา 19 พันล้านดอลล่าร์ (หรือ 6 แสนล้านกว่าบาท) นักวิเคราะห์หลายคนก็มองว่า การตัดสินใจของทางเฟสบุ๊คนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องกระตุกก็คือ ราคาที่ซื้อดีลมานั้นสูงลิบลิ่ว หลายคนเห็นแล้วก็ต้องตกใจว่าราคาเท่านี้จะสามารถทำให้เฟสบุ๊คคุ้มทุนในระยะยาวได้อย่างไร
มาปีนี้ทางเฟสบุ๊คก็มีเรื่องให้ทุกคนต้องตะลึงอีกเช่นกัน เมื่อครั้งที่ซื้อกิจการ Whatsapp ทางเฟสบุ๊คได้ให้ข้อมูลไว้ว่าจะไม่เชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้งานของ Whatsapp กับบัญชีผู้ใช้ของเฟสบุ๊ค สองปีถัดมา เฟสบุ๊คโดนปรับ งานนี้ก็ต้องควักเงินค่าปรับไป 110 ล้านยูโรทันทีหลังจากปล่อยฟีเจอร์ใหม่ออกมา เพราะตัวฟีเจอร์นี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับบัญชีของ Whatsapp ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้งนี้คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) เข้าตรวจสอบทันทีและพบว่าเฟสบุ๊คทำผิดตามระเบียบของทางอียู แต่การปรับครั้งนี้ก็ไม่ได้มีผลกับการควบกิจการกับ Whatsapp แต่อย่างใด ทางคณะกรรมธิการอียูได้กล่าวว่า “ขอให้ทุกบริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด”
การปรับครั้งนี้นับเป็นบทลงโทษที่โหดของเฟสบุ๊ค เพราะทางเฟสบุ๊คได้เป็นผู้กล่าวกับคณะกรรมาธิการของทางอียูว่า จะไม่มีการเอาข้อมูลของทั้งสองบริษัทคือ Facebook มารวมกับ Whatsapp อย่างแน่นอน แต่เฟสบุ๊คได้ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับทางอียูตั้งแต่ตอนควบกิจการเมื่อสองปีที่แล้ว โดยการเอาความได้เปรียบจากการซื้อแอปฯคู่แข่งที่มีผู้ใช้มากกว่าพันล้านคนมาใช้ประโยชน์กับการโฆษณาทางธุรกิจออนไลน์
อ่านต่อ >> นอกจากนี้เฟสบุ๊คออกกฎใหม่ลด Clickbait เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อลดการเข้าใจผิดในกรณีผู้ใช้โพสหัวข่าวหรือข้อความอะไรที่ล่อให้คนคลิกเข้ามาในโพสของตัวเองเยอะๆ เช่น แฉ, ปังมาก, ช็อคนี้ตาย ฯลฯ
ที่มา www.nytimes.com