Facebook หนีไม่พ้นเป็น “สื่อมวลชน” เต็มตัว
บทความโดย : พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
Facebook เป็นเครือข่ายของสื่อสังคมออนไลน์ระดับโลก ที่ทำให้คนนับล้านทั่วโลกสามารถสื่อสาร สนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้ซึ่ง Facebook ได้หันมาจัดการอย่างจริงจังกับการปราบปราม และกำจัดข่าวลวงที่กระจายอยู่ใน Facebook อย่างมากเพื่อรักษาระบบนิเวศที่ดีของข่าวสารต่างๆ
รวมทั้งการรวบรวมวิเคราะห์ข่าวสารต่างๆ ใน Facebook ด้วย
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา Facebook ประสบความยุ่งยากในการบริหารจัดการข่าวหลอกลวงที่กระจายส่งต่อบน Facebook ทั้งการแช์การแสดงความเห็น และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร อย่างรวดเร็ว ดังนั้น Facebook จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสื่อมวลชน และต้องทำหน้าที่แยกแยะข่าวจริงและเท็จออกจากกัน ดังนั้น Facebook จึงตัดสินใจเปิดตัวโครงการ “The Facebook Journalism Project” เพื่อการสร้างความแข็งแกร่งและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook และอุตสาหกรรมสื่อ โดย Facebook ได้สร้างความร่วมมือกับองค์กรทางด้านข่าวและสื่อ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Facebook เอง ด้วยการทำงานร่วมกับผู้สื่อข่าวเพื่อการเป็นพันธมิตรที่ดี และมีการทำงานร่วมกับสำนักพิมพ์และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการสร้างเครื่องมือและหาวิธีเตือนสติผู้อ่านข่าวสารต่างๆ ที่ได้รับในยุคดิจิทัล
สาระสำคัญในการดำเนินการโครงการนี้ ได้แก่
(1) การสร้างความร่วมมือ
Facebook สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดีขึ้นโดยการสร้างพันธมิตร อย่างเช่น การทำงานร่วมกับ Live, 360, Instant Articles เป็นต้น เพื่อสร้างรูปแบบการนำเสนอข่าวสารใหม่ๆ โดยบรรณาธิการสามารถนำเสนอเรื่องราวเพื่อให้ผู้อ่านได้มีส่วนร่วมมากที่สุด บน Facbook ซึ่ง Facebook ให้ความสำคัญกับการเป็นสมาชิก เช่น ทีมวิศวกรขององค์กรข่าว BILD จากเยอรมนี ได้มีการทดสอบด้วยการเสนอให้ผู้อ่านได้มีส่วนร่วมมีสิทธิในการใช้งาน Instant Articles ได้ฟรี นอกจากนี้ Facebook ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่คู่ค้าได้อีก เช่น การมีโฆษณาคั่นระหว่างดูวิดีโอ เป็นต้น ในการค้นหาผู้ร่วมงานที่มีความสามารถทางเทคนิคนั้น Facebook ได้ใช้วิธีคัดบุคลากรเข้าทำงานด้วยวิธี Hackathon (Hack + Marathon) เพื่อเฟ้นหาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาทางเทคนิค และทำงานด้วยการให้เขียนโปรแกรมไปด้วยแฮ็คไปด้วย ซึ่งอาจจะใช้ช่วงเวลาในขณะที่อยู่ในช่วงพักเบรก เพื่อทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหา
(2) การฝึกอบรมและสร้างเครื่องมือให้แก่สื่อมวลชน
เพื่อช่วยให้ผู้สื่อข่าวสามารถใช้งาน Facebook Live ในการค้นหาและแชร์ข่าวสาร และเชื่อมต่อสื่อมวลชนกับผู้ชม ซึ่งในปัจจุบัน Facebook Page เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือผู้สนใจอ่านข่าว และสามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน เช่น การกด Like, คอมเมนต์ และ share โดยใช้การตั้งคำถาม รวมถึงนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการดึงดูดความสนใจ
3) การฝึกอบรมและสร้างเครื่องมือแก่สาธารณะ
นอกจาก Facebook จะมีการสนับสนุนสื่อมวลชนแล้ว ยังจะทำให้สามารถทำงานในแนวทางใหม่ในการให้ข้อมูลข่าวสาร ผู้อ่านสามารถมีทางเลือกที่ดีเกี่ยวกับข่าวสารที่กำลังอ่าน และอาจจะมีการสนทนาในหัวข้อข่าวที่สนใจ นอกจากนี้ ความพยายามเพื่อลดข่าวลวงอย่างต่อเนื่องของ Facebook ด้วยการพยายามปรับปรุงแพลตฟอร์มเพื่อลดการแพร่กระจายข่าวลวง รวมถึงการมีวิธีการที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้รายงานความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ผู้ดูแลระบบทราบ และความพยายามที่จะทำลายแรงจูงใจด้านการเงินของผู้ส่ง spam นอกจากนี้การเปิดตัวโปรแกรมที่ทำงานร่วมกับองค์กรภายนอก ในการตรวจสอบการลงนามเพื่อทดสอบการหลอกลวงบน facebook ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ
โครงการ The Facebook Journalism Project นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการแก้ปัญหาข้างต้น ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลก และเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อจำกัดขอบเขตของข่าวลวง และปราบปรามไม่ให้ข่าวลวงแพร่ออกไป อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนวงการสื่อมวลชนบน Facebook ซึ่งเสมือนว่า Facebook ได้กลายเป็นสื่อมวลชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Reference
https://media.fb.com/2017/01/11/facebook-journalism-project/
—————-
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
www.เศรษฐพงค์.com
11 มกราคม 2560 08:30
—————–
หากท่านสนใจความรู้ด้านดิจิทัล
เข้าร่วมกับเราและทักเข้ามาที่
LINE id : @march4g