Cybersecurity วาระระดับโลก ประเด็นสหรัฐอเมริกาถูกล้วงตับเลือกตั้ง 2016
บทความโดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
ในการประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2016 ฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่ร่างกฎหมายได้รับหนังสือฉบับหนึ่งที่เขียนโดยวุฒิสภา ในเรื่องข้อสรุปการประเมินของหน่วยข่าวกรอง (CIA) ฉบับล่าสุดเกี่ยวกับบทบาทของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2016
ซึ่งในการประชุมดังกล่าว มีทั้งคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ (House Intelligence Committee) และเจ้าหน้าที่อาวุโสข่าวกรองของสำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) เข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีคำถามที่ทั้งฝ่ายรีพับลิกันและฝ่ายเดโมแครต ซึ่งต้องการฟังความเห็นว่า FBI เห็นด้วยกับข้อสรุปของ CIA ที่เพิ่งได้เปิดเผยต่อวุฒิสภาหรือไม่ว่า รัสเซียแสดงความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะช่วยให้พรรครีพับลิกันของนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
คำตอบของ FBI ทำให้พรรคเดโมแครตรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เช่นเดียวกันกับการบรรยายสรุปของคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความมั่นคงของสหรัฐ (Senate Intelligence Committee) เมื่อสัปดาห์ก่อน หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่าการแถลงของ CIA เกี่ยวกับความตั้งใจของรัสเซียที่จะช่วยนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น “ตรงไปตรงมา แต่ไม่ชัดเจน” และความเห็นอย่างเป็นทางการของ FBI ที่ให้ต่อฝ่ายนิติบัญญัติผู้มีหน้าที่ร่างกฎหมายในคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐคือ “คลุมเครือ” และ FBI ไม่เห็นด้วยกับ CIA
ข้อความที่แตกต่างกันระหว่างของ CIA และ FBI นำมาซึ่งความยากลำบากต่อเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายที่พวกเขาพยายามจะสรุปเกี่ยวกับแรงจูงใจของรัสเซียในการล้วงข้อมูลอีเมล์ของพรรคเดโมแครตในช่วงการแข่งขันเลือกตั้งในปี 2016 ซึ่งข้อความที่แตกต่างกันนั้นสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ต่างกันระหว่าง FBI และ CIA โดย FBI จะเน้นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นสำคัญ ต้องการข้อเท็จจริงและหลักฐานที่จับต้องได้ เพื่อพิสูจน์สิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ CIA ไม่เคร่งครัดขนาดนั้น โดยจะใช้วิธีการคาดการณ์จากพฤติกรรมที่สังเกตได้
FBI คิดในแง่ของมาตรฐานทางอาชญากรรมว่าจะสามารถพิสูจน์ในศาลได้อย่างไรบ้าง แต่ CIA นั้นให้น้ำหนักไปที่ความน่าเชื่อถือของข่าวกรองและจากนั้นจึงประเมินและช่วยผู้วางนโยบายในการตัดสินใจ ความมั่นใจสูงของ CIA หมายถึง “เราค่อนข้างแน่ใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำไปพิสูจน์ในชั้นศาลได้”
FBI ไม่ได้ยอมรับความคิดที่ว่ารัสเซียมีวัตถุประสงค์บางประการในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมา และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าความพยายามของรัสเซียมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงใดบ้าง โดยการประเมินที่ยังไม่ชัดเจนนี้ ทำให้ FBI ภายใต้การนำของ James B. Comey ถูกโจมตี จากการที่ปล่อยจดหมายออกมาก่อนวันเลือกตั้งไม่กี่วันว่าได้ค้นพบอีเมล์ใหม่ที่อาจเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของคลินตัน ซึ่งต่อมาอีเมล์เหล่านั้นมีการพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้เลย
ต่อมา วุฒิสภาผู้นำเสียงข้างน้อย Harry M. Reid (D-Nev.) ได้เรียกร้องให้ Comey ลาออก โดยกล่าวว่าผู้อำนวยการ FBI จงใจเก็บหลักฐานดังกล่าวไว้เกี่ยวกับแรงจูงใจของรัสเซียก่อนการเลือกตั้ง และด้วยหลักฐานมากมายเกี่ยวกับบทบาทของรัสเซียในการแทรกแซงการเลือกตั้ง ที่ถูกปกปิดเป็นความลับ เพราะกฎระเบียบที่เคร่งครัด
การแสดงความคิดเห็นจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ทางทำเนียบขาวประกาศว่าประธานาธิบดีโอบามา ได้มีคำสั่งให้พิจารณาแผนไซเบอร์ของรัสเซีย ระหว่างการรณรงค์เลือกตั้งปี 2016 ประธานาธิบดีต้องการให้รายงานเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะอำลาตำแหน่งในเดือนมกราคม 2017 ซึ่งโอบามาตั้งใจที่จะเปิดเผยรายงานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ในทางกลับกัน สำหรับฝ่ายนิติบัญญัตินั้นต้องการให้การพิจารณาร่วมกันกับสภาคองเกรส โดยวิธีนี้จะทำให้ประชาชนชาวอเมริกันได้รู้ถึงระดับการแทรกแซงโดยรัสเซีย และเพื่อพยายามป้องกันตัวเองจากการแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งรัสเซียเองได้มีความพยายามแทรกแซงการเมืองและการเลือกตั้งของยุโรปอยู่เป็นประจำเช่นกัน
Sen. Angus King (I-Maine) สมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภา กล่าวว่าข้อมูลข่าวกรองต้องมีการเปิดเผยสู่สาธารณชน ไม่ใช่จะไปตรวจสอบการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต เพราะความพยายามของรัสเซีย ไม่น่าที่จะสิ้นสุดในการเลือกตั้งของทรัมป์เพียงเท่านั้น แต่อาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้ หรืออาจจะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งต่อไป โดยทางรัสเซียได้แสดงให้เห็นว่ารัสเซียสามารถที่จะทำได้ ดังนั้นสหรัฐจึงไม่ควรละเลยที่จะเตรียมมาตรการในการรับมือ
ในขณะเดียวกัน พรรครีพับลิกันก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนของหลักฐาน ที่นำมาซึ่งคำถามว่ารัสเซียช่วยทรัมป์จริงหรือไม่ ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
ในการประชุมของคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FBI ได้แสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับบทบาทของรัสเซียในการเลือกตั้ง และ CIA แสดงให้เห็นว่ารัสเซียตั้งใจที่จะช่วยทรัมป์ให้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งคำแถลงของ CIA ครั้งก่อนต่อคณะกรรมการข่าวกรองในสภาคองเกรส กล่าวว่าเป้าหมายของรัสเซียคือการทำลายความเชื่อมั่นการเลือกตั้งของสหรัฐ แต่ก็ยังไม่ได้บอกว่าการโจมตีตั้งใจจะให้ผู้สมัครคนหนึ่งได้ประโยชน์มากกว่าอีกคนหนึ่ง ซึ่งในระหว่างการประชุม ทางฝ่ายนิติบัญญิติของเดโมแครตยังคงพยายามที่จะบังคับให้ FBI ตัดสินใจว่าควรที่จะเชื่อว่ารัสเซียมีส่วนในการทำให้คนใดคนหนึ่งชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
ฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันจำนวนมากยอมรับคำเตือนของ FBI โดยพวกเขาไม่คิดว่า CIA จะมีข้อมูลที่สามารถสรุปต่อวุฒิสภาได้ สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนคิดว่าจะมีเหตุผลมากกว่าที่ CIA จะสรุปว่ารัสเซียเข้าข้างคลินตันเพราะว่าเธอเป็นที่รู้จักมากกว่า และเพราะทรัมป์ได้ปราศรัยระหว่างการหาเสียงว่าจะมีการขยายกองกำลังทหาร ซึ่งอาจจะถือเป็นภัยคุกตามต่อรัสเซียได้
ประเด็นหนึ่งระหว่างการประชุม ก็คือฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันได้พูดเปรียบเทียบกับคนจากพรรคเดโมแครตว่า เราต่างกำลังหาหลักฐานเหมือนกันแต่มีบทสรุปที่แตกต่างกันอย่างมาก
Reference
https://www.washingtonpost.com/world/national-security/fbi-and-cia-give-differing-accounts-to-lawmakers-on-russias-motives-in-2016-hacks/2016/12/10/c6dfadfa-bef0-11e6-94ac-3d324840106c_story.html?hpid=hp_hp-top-table-main_russiahack816pm%3Ahomepage%2Fstory&utm_term=.32dfa32ac045
—————-
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
www.เศรษฐพงค์.com
16 มกราคม 2560 12:00
—————–
หากท่านสนใจความรู้ด้านดิจิทัล
เข้าร่วมกับเราและทักเข้ามาที่
LINE id : @march4g
——————