พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระอัจฉริยภาพทุกสาขาวิชาที่ทรงสนพระราชหฤทัย ทรงศึกษาและทดลองปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริง พระอัจฉริยภาพด้านวิทยุสื่อสาร ก็เป็นพระอัจฉริยภาพหนึ่งในหลายด้าน ที่สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อการสื่อสารของชาติอย่างหาที่สุดไม่ได้ โดยมีพระนามเรียกขานทางวิทยุว่า VR 009
“มนัส ทรงแสง” อดีตรองอธิบดีกรมไปรณีย์โทรเลข และอดีตรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ผู้ใช้รหัสนักวิทยุสมัครเล่น VR 019 เล่าเรื่องราวประทับใจถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านการสื่อสารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้สัญญาณเรียกขาน VR 009 ยกย่องว่าพระอัจฉริยภาพทางด้านการสื่อสาร
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยด้านการสื่อสารตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารอย่างมาก เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับประชาชน ตลอดจนการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของพสกนิกรชาวไทย ที่ประสบภัยพิบัติด้วย
จุดเริ่มต้นกำเนิดวิทยุสมัครเล่นในไทย ก่อตั้งและผลักดันตั้งแต่เมื่อปี 2507 มีเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกา ทหารที่ปฏิบัติงานในประเทศไทย ร่วมกับ ข้าราชการพลเรือน ตั้งเป็นสมาคมนักวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย แต่ไม่อนุญาตให้ใช้วิทยุได้ เพราะเหตุด้วยภัยความมั่นคง
หลังจากนั้นปี 2524 พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข กราบบังคมทูลสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชวินิจฉัย ให้ใช้วิทยุสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้ถูกกฎหมาย ไม่ต้องแอบใช้กัน
พระองค์ท่านก็รับสั่งว่า “ก็ดีสิ ที่เค้าจะได้ภาคภูมิใจ”
จากนั้น พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ก็ได้ตั้ง ชมรมชมรมวิทยุอาสาสมัคร ( Volunteer Radio = VR ) ทำให้วิทยุสมัครเล่นเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ซึ่งขั้นตอนคนที่จะเป็นสมาชิกชมรมได้นั้น
1. ต้องสอบรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น
2. สอบประวัติ ที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และที่ตำรวจสันติบาล
จึงจะได้สัญญาณเรียกขาน VR
โดยรหัส VR 001 คือ พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ พร้อมการนั้นถวายควอไซท์ VR 009 เมื่อถวายแล้ว ท่านใช้วิทยุทำโครงการหลายโครงการในการแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน เช่น รถหาย รายงานอุบัติเหตุต่างๆ และชมรมวิทยุสมัครเล่นทำโครงการร่วมกับตำรวจ ในการเป็นสายตรวจร่วมตระเวณภาคกลางคืน
ปี 2530 คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่ วิทยุแห่งชาติ ก็ยอมให้เปิดวิทยุสมัครเล่น เป็นกฎระเบียบขึ้นมา
เรื่องราวประทับใจของในหลวง ในวงการวิทยุ
พระองค์ท่านได้รับ จากการทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายควอไซท์ VR 009 จาก พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ในวันที่ 5 ธันวาคม ที่เป็นวันเปิดศูนย์ฯ และตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา พล.ต.ต.สุชาติ เป็นคนนำพิธีถวายพระพรชัยมงคลทางวิทยุด้วย จนจบ โดยพล.ต.ต.สุชาติ ได้กล่าวรายงานสรุปว่า มีผู้มาถวายพระพรกี่คน จากนั้นก็เงียบ แต่พระองค์ท่านทรงติดต่อเข้ามาว่า “ขอบใจ VR 001 (พล.ต.ต.สุชาติ) ที่มาอวยพรวันเกิดให้กับ VR 009 ในวันนี้” ซึ่งทุกคนตื่นเต้นดีใจที่พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการวิทยุสมัครเล่น
พระองค์ท่านทรงใช้วิทยุในการติดต่อสื่อสารถึงวิทยุสมัครเล่น มากๆ ในช่วงปี 2528 เรื่องแนะนำการใช้เครื่องวิทยุ การเข้าไปช่วยเรื่องภัยพิบัติต่างๆ กลุ่มวิทยุสมัครเล่นก็ดำเนินตามรอยพระยุคลบาท ตามพระองค์ท่านมีพระบรมราโชวาท ที่พระราชทานให้ในวันสื่อสารแห่งชาติ ในช่วงไปรษณีย์โทรเลข 100 ปี ในตอนนั้นว่า
“การสื่อสารเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศด้วย ยิ่งในสมัยปัจจุบันที่สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ย่อมมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ทุกฝ่ายและทุกหน่ายงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของประเทศ จึงควรจะได้ร่วมมือกันดำเนินงานและประสานผลงานกันอย่างใกล้ชิดและสอดคล้อง สำคัญที่สุด ควรจะได้พยายามศึกษาค้นคว้าวิชาการและเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ลึกและกว้างขวาง แล้วพิจารณาเลือกเฟ้นส่วนที่ดี มีประสิทธิภาพแน่นอนมาปรับปรุงใช้ด้วยความฉลาดริเริ่ม ให้พอเหมาะพอสมกับฐานะและสภาพบ้านเมืองของเรา เพื่อให้กิจการสื่อสารของชาติได้พัฒนาอย่างเต็มที่ และสามารถอำนวยประโยชน์แก่การสร้างเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเสถียรภาพของบ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง”
ในปี 2528 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดที่ กรุงเทพและชลบุรี ซึ่งในตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีโทรศัพท์มือถือเครือข่าย cellular เลย ก็ใช้วิทยุ VR ย่าน VHF กรมไปรษณีย์โทรเลข ก็รับบทบาทหน้าที่ในการวางระบบสื่อสาร เพื่อใช้ประสานงานและรายงานผลการแข่งขัน ปัญหาคือส่งสัญญาณจากกรุงเทพไปไม่ถึงจังหวัดชลบุรี ต้องติดตั้งอุปกรณ์ทวนสัญญาณที่เขาฉลาก ก็พบปัญหาสัญญาณรบกวนอีก
ในยามที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้วิธีแก้ปัญหา พระองค์ท่าน (VR 009) ได้ติดต่อเข้ามายัง VR 019 ( มนัส ทรงแสง ) ทรงรับฟังปัญหาและพระราชทานคำแนะนำ พระองค์ท่านทรงมีพระเมตตาให้ใช้ถ้อยคำแบบกันเอง จนแก้ปัญหาสัญญาณรบกวนได้สำเร็จ
มีช่วงนึง พระองค์ถามเข้ามาในข่ายสายของศูนย์สายลม ที่เป็นเครือข่ายราชการว่า “พระองค์ท่านสามารถใช้ข่าย “VR 009” ในการติดต่อสื่อสารนั้นถูกต้องหรือไม่?” พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวว่า ทางศูนย์สายลม ซึ่งได้เตรียมการไว้ให้ท่านแล้ว ก็ได้ถวายให้พระองค์ท่านใช้ข่าย “สายลม 09” ในการติดต่อผ่านข่ายราชการแทนได้
และมีอีกช่วงหนึ่ง พระองค์ทรงใช้ VR 009 คุยกับ VR 019 ( มนัส ทรงแสง ) พูดถึงเรื่องของเล่น พระองค์ท่านถามมาว่า “ยังจำความได้มั้ยเมื่อสมัยเด็กๆ VR019 มีของเล่น ระหว่างของเล่นที่ซื้อ กับของเล่นที่ประกอบเอง อันไหนมีความหมายมากกว่ากัน…?” ก็ยังไม่ทันได้ตอบ พระองค์ท่านก็ตอบมาว่า “ของที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ถึงแม้ว่ามันจะไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่มันมีความหมายมาก.. “
รหัส VR 241 หรือ สนั่น นภาศักดิ์ นักวิทยุสมัครเล่น ซื้อเครื่อง FT-726R เข้ามาในประเทศไทย 3 เครื่อง โดยเครื่องแรกได้ทูลเกล้าถวายพระองค์ท่าน เครื่องที่สองได้ส่งมอบให้แก่ศูนย์วิทยุสายลม และเครื่องที่สามแก่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ซึ่งสุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่ศูนย์สายลมจากเหตุผลที่ว่า มีปุ่มเยอะเกินไป ไม่เหมาะกับการใช้ในศูนย์ราชการ
เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้ไม่ถูก พระองค์ท่านได้ติดต่อเข้ามา และทรงแนะนำการใช้วิทยุ เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มีปุ่มเยอะมาก โดยอธิบายว่า ปรับปุ่มไปยังทิศกี่นาฬิกา ดูมิเตอร์หน้าเครื่อง อ่านค่าความเบี่ยงเบน ทรงแนะนำตลอด และรู้แทบทุกอย่าง
พระองค์ตรัสอีกว่า “เครื่องของสายลม และเครื่องของ VR 009 เป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน เครื่องพี่เครื่องน้องกัน”
ที่พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถเกี่ยวกับเครื่องวิทยุขนาดนี้ พระองค์ได้ทรงศึกษา ตำราต่างประเทศอย่างลึกซึ้ง สังเกตจากคู่มือภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการใช้เครื่อง FT-726R ซึ่งมีปุ่มเยอะมาก
ในช่วงเหตุวาตภัยที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เมื่อปี 2539 ซึ่งมีนักวิทยุสมัครเล่นอยากออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน และติดต่อเข้ามายังศูนย์สายลม เพื่อขอความช่วยเหลือ ต้องเตรียมการอย่างไร ขณะนั้น พระองค์ท่านติดต่อเข้ามา เพื่อแนะนำวิธีที่ถูกต้องให้อาสาสมัครในการออกไปช่วยเหลือประชาชน กล่าวว่า
“สิ่งสำคัญ คือ การไม่เข้าไปเป็นภาระของคนในพื้นที่ พร้อมเตรียมระบบเครื่องมือสื่อสารที่มีความพร้อม ด้วยการนำวิทยุในรถยนต์ไปติดตั้งในตัวเมือง โดยให้หาพื้นที่สูงติดกับเสาสัญญาณ เพื่อให้นักวิทยุที่เข้าไปในพื้นที่สามารถติดต่อออกมาได้”
และยังละเอียดถึงขั้นต้องเตรียมเรื่องแบตเตอรี่สำรอง ต้องมีฉนวนหุ้มแบตเตอรี่ป้องกันไม่ให้โดนโลหะ หรือเศษสตางค์ทำให้ช็อตขั้ว และไม่มีพลังงานใช้
พระองค์ท่านทรงมีระเบียบวินัย เคร่งครัดต่อระเบียบและใส่ใจรายละเอียดทุกเรื่องมาก และทรงใช้วิทยุอย่างคล่องแคล่ว คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัคร ยังได้มีการเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นสูง และสัญญาณเรียกขาน HS1A
นับว่าพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านสื่อสาร ที่ไม่มีใครเทียบท่านได้ และเชื่อว่าพระองค์ท่านไม่ได้ไปไหน และยังอยู่ในหัวใจนักวิทยุสมัครเล่นกว่า 2-3 แสนคนทั่วประเทศ