เมื่อเวลา 15.50น. ของวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2559 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงมติเห็นชอบ ประกาศให้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมาย ด้วยองค์ประชุม 172 ผลการลงมติ 168 เสียงเห็นด้วย ในขณะที่เสียงไม่เห็นด้วยนััน 0 เสียง แม้ว่าจะมีประชาชนยื่นหนังสือคัดค้านพร้อมรายชื่อ 3 แสนกว่ารายเมื่อ 15 ธันวาคม 2559 ก็ตาม
โดย พรบ.คอมพิวเตอร์ จะมีผลบังคับใช้ใน 120 วันหลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
จากการรายงานของเพจ เครือข่ายพลเมืองเน็ต ที่นำรายชื่อผู้ร่วมคัดค้าน พรบ.คอม ผ่านทาง Change.org กว่า 3 แสนราย ได้โพสต์ facebook รายงานว่า “ หลังจากนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะออกประกาศกระทรวงดิจิทัลอีก 5 ฉบับซึ่งเป็นกฎหมายลูกของมาตรา 11, 15, 17/1, 20 และ 20/1 ต่อไป “
ในขณะที่ Hashtag twitter พรบ.คอม มีคนจำนวนมากแสดงความเห็นในประเด็นที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงมติเห็นชอบ อย่างกว้างขวาง
และทางด้านเพจ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway ก็ได้ออกคำแถลงการณ์ ผ่านทาง facebook เมื่อเวลา 19.00น. ความว่า
แถลงการณ์ กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway และพันธมิตร
เรื่อง จุดยืนการต่อต้านต่อไป
จุดยืนต่อไปของกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway คือจะขอต่อต้าน กฎหมายว่าด้วยคอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ ในทุกรูปแบบ ต่อไปจนถึงที่สุด
ถึงแม้ในวันนี้จะเป็นวันพิสูจน์ให้เห็นว่า ในสายตาของคณะ คสช. ประชาชนที่ประกาศตัวชัดเจนกว่า 350,000 คนไม่ได้มีความหมายและมีคุณค่าใดๆเลย
แต่ในฐานะพลเมืองที่เป็นเจ้าของประเทศ ของประชาชนชาวไทยจำนวนมากกว่า 350,000 ชีวิต ที่ได้ลงชื่อใน กิจกรรม ของ Change.org ที่ได้ประกาศตัวชัดเจนว่า
“…พวกเราไม่เห็นด้วย ใน(ร่าง)กฎหมายดังกล่าว และไม่ขอยอมรับกฎหมายที่ออกมา ริดรอน สิทธิ เสรีภาพของประชาชนมากขนาดนี้”
พวกเราจะขอต่อต้านต่อไป ในทุกๆช่องทางต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ และขอสงวนสิทธิในการไม่ยอมรับ กฎหมายที่ไม่ได้ผ่านตัวแทนประชาชน และไม่ฟังเสียงของประชาชน ในครั้งนี้…”
ถึงแม้ในวันนี้ กระบวนการและขั้นตอนทางกฎหมาย อาจจะลุล่วงไปในความเห็นของ คณะคสช. แต่พวกเราก็จะยังคงเดินหน้าคัดค้านเรื่องนี้ต่อไปในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
1.) องค์การระหว่างประเทศ หรือ รัฐบาลที่ให้ความสนใจต่อเรื่อง สิทธิ เสรีภาพของมนุษย์
เนื่องจาก การที่่หากกฎหมายนี้ ได้ละเมิด สนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรือ กฎบัตรสหประชาชาติ ในหลายข้อ ที่รัฐไทย ไปลงนามเอาไว้ ดังนั้นพวกเราก็จะใช้ช่องทางผ่านองค์การระหว่างประเทศ และรัฐบาลนานาชาติ ให้แสดงบทบาท หน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือ กดดันให้ คสช.ดำเนินตามครรลองสากลที่พึงจะเป็น
2.) การส่งเรื่องไปยัง สำนักราชเลขาธิการ
เพื่อให้ กราบบังคมทูล พระเจ้าอยุ่หัว ให้ทรงทราบ ถึงความเดือดร้อนของพสกนิกรของพระองค์ เพื่อให้ทรงยับยั้งกฎหมายนี้ โดยจะเสนอไปก่อนที่พระองค์จะทรงลง พระปรมาภิไธย ให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้พวกเราก็จะทำในทุกช่องทาง เพราะพวกเราถือว่า ยังอยู่ในข้นตอนและกระบวนการอยู่ และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนในการปกป้องสิทธิของตน
3.) ขอเรียกร้องไปยังองค์กรต่างๆ องค์ตัวแทนวิชาชีพ สื่อมวลชน ให้ร่วมคัดค้านต่อไป จนถึงที่สุด
ให้องค์กรทั้งหลายได้ทำหน้าที่ของตน ในการปกป้อง เสรีภาพของ สมาชิกองค์กรและของประชาชนชาวไทย ตามหน้าที่อันพึงมีของพวกเขาเหล่านั้นต่อไป โดยอย่ายอมศิโรราป ให้กับ อำนาจเผด็จการ
4.) ขอให้เพื่อนๆ เตรียมตัวเป็น พลเมืองไซเบอร์เสรี
ที่ยังสามารถเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ได้อย่างเสรี มีอิสรภาพและปลอดภัย โดยการเรียนรู้ร่วมกันกับพวกเราต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม พวกเราก็ยังคงเป็น พลเมืองไซเบอร์เสรี ตลอดไป
5.) พวกเราขอสงวนสิทธิในการแสดงออกในการคัดค้านในทุกรูปแบบ
พวกเราจะไม่ยอมยุติการต่อต้าน ตราบใดที่ยังมีหนทางที่สามารถทำได้
ทั้งนี้ พวกเราในฐานะที่พวกเราเป็นมนุษย์ที่มีเสรีภาพติดตัวมาตั้งแต่เกิด และได้รับการรับรองสิทธินี้มา จะไม่ยอมให้ใครมาพรากเอา เสรีภาพที่เป็นคุณค่าของมนุษย์ ไปจากพวกเรา
ประกาศ ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2559
กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway