หากพูดถึงการออกกำลังกายโดยใช้อุปกรณ์ไอทีเป็นตัวช่วยคือกลุ่มอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ ( wearable ) เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ ( Smartwatch ) หรืออุปกรณ์ติดตามออกกำลังกาย ( Fitness Band ) ซึ่งหลายท่านมทีามีเงินก็มักซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เพื่อจับอัตราก้าวเดิน ดูการเผาผลาญแคลอรี่ ในการออกกำลังกาย แต่ถ้าคุณไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ Wearable นี้ในการติดตามออกกำลังกายละก็ อย่าลืมว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของคุณ ก็สามารถใช้แทน Wearable ในการติดตามออกกำลังกายได้
การใช้สมาร์ทโฟนติดตามอัตราก้าวเดินสำหรับผู้ใช้ Android
คุณอาจยังไม่รู้ว่าสมาร์ทโฟนยุคใหม่มีเซนเซอร์ที่จับการเคลื่อนไหวของเรา ( Motion Tracking ) บนตัวเครื่องอยู่แล้ว โดยสำหรับผูัใช้ Android เพียงแค่ติดตั้งแอพ Google Fit โหลดฟรีผ่านทาง Play Store และบางยี่ห้อก็มีแอพ Google Fit ติดตั้งไว้แล้วด้วย
จากนั้นรันแอพ Fit แล้วตอบ I Agree เพื่อเข้าสู่หน้ากรอกข้อมูลโปรไฟล์ของเรา ซึ่งสิ่งสำคัญที่แอพนี้ต้องการให้คุณกรอกคือ น้ำหนัก ส่วนสูง เพศ เพื่อสามารถวิเคราะห์การออกกำลังกาย การเผาผลาญแคลอรี่ได้
และต้องตอบ I Agree ตกลงให้แอพ Google Fit ให้เข้าถึงอุปกรณ์เซนเซอร์มือถือ และ เข้าถึง Location ในการจับการออกกำลังกายของคุณ
ปัดตรงวงกลมไปที่รายการที่ 4 เพื่อดูอัตราก้าวเดิน ซึ่งแอพ Google Fit นี้จะอัพเดตจำนวนก้าวเดินทันทีที่คุณได้ก้าวสักระยะนึง โดยจะแสดงจำนวนก้าวเดินล่าสุด แต่ Google จะไม่ใช้ GPS ในการเดินเพื่อประหยัดแบต
หากกรณีวิ่ง หรือปั่นจักรยาน Google Fit จะปรับโหมดให้รับกับ GPS เพื่อจับความเร็วและวัดอัตราการวิ่งหรืออัตราการปั่นจักรยานด้วย
ซึ่งทุกกิจกรรมการออกกำลังกายที่เกิดขึ้นกับ Google Fit จะ sync ไปยัง cloud คุณสามารถติดตามผลการออกกำลังกายได้ผ่านทางเว็บไซต์ fit.google.com ได้ด้วย
เรียกได้ว่าใครมีสมาร์ทโฟน Android ทั้งแบบราคาแพง และราคาถูกก็สามารถลงแอพ Google Fit เพื่อติดตามก้าวเดินในการออกกำลังกายได้ แต่คุณก็จะต้องชาร์จแบตให้เต็มก่อนใช้งาน เพราะแอพ Google Fit มีการใช้ GPS หรือ Location ซึ่งต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มาก แต่สมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ล่าสุด เริ่มมีการใช้เซนเซอร์ที่กินพลังงานแบตต่ำแล้ว
การใช้สมาร์ทโฟนติดตามอัตราก้าวเดินสำหรับผู้ใช้ iPhone
ผู้ที่ใช้ iPhone ก็มีแอพสุขภาพอย่าง Health ติดมากับเครื่องด้วย แนะนำให้อัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดผ่านทาง App Store อย่างไรก็ตามแอพนี้จะทำงานได้ตั้งแต่ iPhone 5S ขึ้นไปเท่านั้น รุ่นที่เก่ากว่าตั้งแต่ iPhone 5 ลงมา จะไม่มีฟีเจอร์สำหรับการติดตามการนับก้าวเดิน และการออกกำลังกาย
วิธีดูข้อมูลอัตราก้าวเดินบน iOS นั้น ให้รันแอพ Health ซึ่งค่า default ของแอพ Health ก็แสดงอัตราก้าวเดือน Steps เป็นส่วนแรกผ่านทางหน้า Dashboard โดยแสดงทั้งตัวเลขจำนวนก้าว และเป็นกราฟ นอกจากนี้ยังแสดงในส่วนอื่นๆเช่น Walking + Running Distance และ Flight Climbed ด้วย
อย่างไรก็ตามเงื่อนไขที่คุณสามารถติดตามจำนวนก้าวเดินได้ โดยไม่ต้องพึ่งพวก Wearable นี้ ก็จะต้องถือมือถือสมาร์ทโฟน หรือใส่กระเป๋ากางเกง หรือไม่ก็รัดกางเกงติดตัวตลอดเวลา หากลืมมือถือไว้ก็ไม่สามารถติดตามการนับก้าวเดินได้
แต่ถ้าอยากให้การติดตามการนับก้าวเดินอย่างแม่นยำมากขึ้น ก็ต้องหาซื้อ Wearable ที่สามารถ sync กับแอพ google fit หรือ health เพิ่มเติม เช่น นาฬิกา Android Wear สำหรับ Android และนาฬิกา Apple Watch สำหรับเชื่อมกับ iPhone เป็นต้น แต่ถ้าไม่มีเงินเยอะก็หาอุปกรณ์เสริมให้ สมาร์ทโฟนแนบยึดติดกับตัวได้ เช่นเข็มขัดรัดเอว เป็นต้น
ข้อมูลจาก Howtogeek