“เอ็ตด้า” (ETDA) ขานรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล-ไทยแลนด์ 4.0 จัด “Thailand e-Commerce Week” 7-9 ต.ค. นี้ หวังยกระดับผู้ประกอบการ-คนทั่วไป สามารถใช้อีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางและโอกาสในการสร้างรายได้ พร้อมดึงกูรูร่วมจุดประกายความคิดธุรกิจออนไลน์ ด้านกระทรวง “ดีอี” เชิญชวนทุกภาคส่วนกำหนดทิศทางและแผนยุทธศาสตร์ “จากนี้อีคอมเมิร์ซของประเทศใน 5 ปี ควรเป็นอย่างไร”
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กสทช. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ สภาหอการค้าไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สมาคมธนาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ธนาคารกรุงเทพ AIS LINE ประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงาน “Thailand e-Commerce Week” ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ ภายใต้แนวคิด “e-Commerce is all around you” อีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมทางออนไลน์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในเชิงรุก ยกระดับผู้ประกอบการไปถึงคนทั่วไปให้สามารถทำอีคอมเมิร์ซได้ดีและเก่ง ตลอดจนเพิ่มความเชื่อมั่นในการซื้อขายทางออนไลน์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพื่อรองรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล และไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล
ทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานเปิดงาน กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนไทยมีจำนวนกว่า 85 ล้านเลขหมาย ขณะที่ มูลค่าอีคอมเมิร์ซ เพิ่มขึ้นทุกปี ล่าสุดการสำรวจของเอ็ตด้าในปี 2558 มีมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10.41% โดยเฉพาะมูลค่าอีคอมเมิร์ซแบบ B2C (Business to Customer – ธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค) ที่สูงที่สุดในอาเซียน ตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยที่จะเติบโตได้อีกมากในระยะยาว
“ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิดแล้วว่า วันนี้จะทำอย่างไรในการพัฒนาสู่ประเทศไทย 4.0 โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ และก้าวผ่านกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยการผลักดันให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและทำอีคอมเมิร์ซเป็น ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลัก หรือเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้จากงานประจำ โดยทุกคนสามารถใช้สมาร์ตโฟนทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้”
ทรงพร กล่าวว่า งานนี้จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน มาร่วมกันกำหนดทิศทางและยุทธศาสตร์ และร่วมแสดงความคิดเห็นกับ (ร่าง) แผนอีคอมเมิร์ซของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2560-2564)
ด้าน สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สพธอ. (ETDA) กล่าวว่า “งาน Thailand e-Commerce Week ได้รวบรวมกูรูระดับประเทศ ทั้งจากหน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจ และผู้คนที่มีชื่อเสียงหลากหลายมุมมอง มาร่วมแชร์ข้อมูล ความรู้ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำอีคอมเมิร์ซอย่างเข้มข้น ผ่านเวทีสัมมนา พร้อมดึงกูรูมืออาชีพร่วมจุดประกายความคิดทางธุรกิจออนไลน์ ทั้งการสร้างแบรนด์ การทำตลาด การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ทั้งระบบ ตลอดจนให้คำแนะนำสำหรับผู้มีทุนน้อยแต่อยากเริ่มมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาสหรือหนทางสร้างรายได้ด้วยอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งมีนักธุรกิจออนไลน์ที่ขายสินค้าได้ฮิตติดลมบน คนที่อยู่ในสนามจริง คนที่ทำอีคอมเมิร์ซ ทั้งที่ประสบความสำเร็จ หรือที่เคยล้มเหลวมาก่อน มาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก ซึ่งจะ ‘คนรุ่นใหม่’ หรือ ‘คนรุ่นเก่า’ หรือจะเป็น ‘คนรุ่นไหน ๆ’ ก็ไม่ควรพลาด”
สำหรับงาน “Thailand e-Commerce Week” มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ผ่าน 3 โซนกิจกรรม อาทิ การอบรมสัมมนาทางวิชาการ การปาฐกถาพิเศษจากผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากภาครัฐ และเอกชน การถ่ายทอดประสบการณ์จากวิทยากรจากหลากหลายอาชีพสาขา ความก้าวหน้า และประโยชน์จากเทคโนโลยี จากผู้ประกอบการและคนรุ่นใหม่ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวในมิติต่าง ๆ ทั้งการสร้างร้านค้าออนไลน์ เคล็ดลับการตลาดดิจิทัล การสร้างแบรนด์ การสร้างแรงบันดาลใจทำอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ จะได้พบกับกูรูธุรกิจชั้นนำ อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ กูเกิล ฯลฯ ที่จะมาร่วมจุดประกายความคิด ตลอดจนเน็ตไอดอลยอดนักขาย ที่จะร่วมแชร์ทางลัดการทำธุรกิจด้วย พร้อมจัดโซนพื้นที่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีคอมเมิรซ์ ทั้งเว็บไซต์ (Website) อีเพย์เมนต์ (e-Payment) และโลจิสติกส์ (Logistics) ทั้งนี้ คาดว่า ตลอด 3 วันของการจัดงาน จะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 คน ซึ่งจะได้รับความรู้และเคล็ดลับการทำธุรกิจอย่างเต็มอิ่ม