บริษัท SAMART i-mobile ประกาศเปิดตัวโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยแยกสายงานแบ่งเป็น กลุ่มมือถือ (Mobile) และไม่ใช่มือถือ (Non Mobile) เน้นธุรกิจงานบริการมากขึ้น รวมไปถึงการทำการค้า (Trading) ในสินค้าแนวใหม่ที่เป็น Life Style ตั้งเป้าจะขยายไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย
นายจักรกฤช จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สามารถ ไอ – โมบาย เปิดเผยว่า “ SAMART i-mobile เปิดดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นหนึ่งในสายธุรกิจการสื่อสารข้อมูลและอุปกรณ์สื่อสารไอที (Mobile Multimedia) และเพื่อรับมือกับการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้น ผนวกกับแนวทางเทคโนโลยีที่เข้าสู่ยุค Internet of Things อย่างแท้จริง จึงปรับทิศทางตลอดจนโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทาง นับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัทฯ ในการก้าวสู่จุดหมายที่ใหญ่และยั่งยืนยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Open”
ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งต่อยอดจากธุรกิจเดิม เน้นการสร้างรายได้ประจำด้วยการรุกธุรกิจค้าปลีกในชื่อ “Open Shop” ร้านไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งมือถือ Gadget และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย เพื่อการสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆที่ติดตัวไปได้ทุกที่ภายใต้แบรนด์ “O’Life”
ซึ่งนอกจากจะสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัยแล้ว ในร้านยังมีบริการอื่นๆที่ตรงใจผู้บริโภค อาทิ “O’Fix” ศูนย์ซ่อมมือถือสารพัดแบรนด์ “O’Pay” ศูนย์รับชำระบิลทุกประเภท “O’Top UP” ตู้เติมเงินที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น และ “O’ Café” พร้อมบริการกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และยังมีสินค้า “O’Sport & Health and Smart Home” อีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้าน i-mobile เดิม จำนวน 28 สาขา เป็นร้าน Open Shop รูปแบบใหม่ ภายในสิ้นปี 2559 นี้ พร้อมรุกขยายไปในทุกจังหวัด เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้ให้บริการได้รวดเร็วครอบคลุม ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้วาง Roadmap ในการขยายร้านไว้ทั้งในลักษณะ COCO (Company Own Company Operate) และขาย Franchise ในรูปแบบร้านใหม่ไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจ MVNO ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในการสร้างรายได้ประจำ บริษัทฯเตรียมที่จะเปิดตัว Open MVNO ที่ให้บริการบนเครือข่ายของ CAT โดยจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้
สำหรับด้านธุรกิจบริการ บริษัท ฯ ได้มีการขยายภาคธุรกิจจากเดิม SAMART Multimedia ที่ให้บริการแต่ส่วนข้อมูล (Content Business) ในชื่อ BUG, EDT, i – Sport นั้น ในปีนี้ได้เพิ่มธุรกิจขึ้นอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจ“E-commerce” โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป เช่น Thailandmall เจาะกลุ่มค้าส่งต่างชาติ WappWapp เจาะกลุ่มในประเทศ SME Siam เจาะกลุ่มในประเทศและ Thailand Check-in ที่จะมุ่งให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
และล่าสุด SAMART ได้เข้าไปซื้อธุรกิจ Digital Advertising ชื่อ Phoinikas ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Marketing เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำสายงานธุรกิจในด้าน ธุรกิจ Digital Commerce ครบวงจร โดยในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้สายธุรกิจมัลติมีเดีย มีความแข็งแกร่ง และครบวงจรยิ่งขึ้น และมีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาด Digital ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดว่าจะมีรายได้ในสัดส่วน 20 % จากรายได้ทั้งหมด และจะขยายเป็น 40–50 % ภายในเวลา 3 ปี