มีข้อมูลที่น่าสนใจที่การนำเทคโนโลยีไอทีมาใช้ในด้านนวัตกรรมยานยนต์ มีมากขึ้น โดยผลการสำรวจของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก พบว่า ผู้บริโภคเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีได้ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยในการวางแผนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัว รถยนต์สาธารณะ หรือการเลือกใช้ทั้งสองรูปแบบ
จากข้อมูลจากผู้ทำแบบสอบถามชาวไทย พบว่า มีอัตราการใช้วิธีการสัญจรแบบคละรูปแบบสูง โดยมากกว่าครึ่งได้ใช้วิธีการสัญจรมากกว่า 1 รูปแบบในการเดินทางหนึ่งครั้ง หรือมากกว่าสองครั้งในแต่ละอาทิตย์ มีแค่ 8 % ที่กล่าวว่า พวกเขาไม่เคยใช้มากกว่าหนึ่งรูปแบบการสัญจรในการเดินทาง นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า การใช้รถยนต์ส่วนตัวมีอัตราเพิ่มขึ้น 40% และเป็นรูปแบบการสัญจรที่ผู้ทำแบบสอบถามเลือกใช้มากที่สุด นอกจากนี้การใช้แอพบริการรถรับ-ส่ง ยังมีแนวโน้มเติบขึ้นถึง 17 %
โดยผลการสำรวจการเดินทางของผู้ทำแบบสอบถามชาวไทยในปีนี้มีดังนี้
- ใช้รถยนต์ส่วนตัว: 77 %
- รถไฟฟ้าใต้ดิน รถราง หรือ รถไฟ: 32 %
- รถประจำทาง: 32 %
- รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง: 29 %
- รถแท็กซี่: 28 %
- สกูตเตอร์ไฟฟ้า หรือ มอเตอร์ไซค์ส่วนตัว: 17 %
- การใช้แอพบริการรถรับ-ส่ง: 15 %
- การแชร์รถ 9 %
จอห์น ลาร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายแผนการสัญจรอัจฉริยะของฟอร์ด ประจำฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “สมาร์ทโฟนได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเพื่อให้เข้าถึงชีวิตประจำวันของเราบนท้องถนน และแผนการสัญจรอัจฉริยะของฟอร์ดก็เกี่ยวกับการค้นหาวิธีการสัญจรที่สร้างสรรค์เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของประชากร โดยมอบทางเลือกอันชาญฉลาดและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ทางฟอร์ด ได้นำเทคโนโลยี แผนการสัญจรอัจฉริยะ เพื่อพัฒนาผู้นำในเรื่องการเชื่อมต่อสื่อสาร การสัญจร รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ การสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ขับขี่ รวมทั้งการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล โดยฟอร์ดมุ่งศึกษาค้นคว้าและพัฒนาตั้งแต่เทคโนโลยี โครงสร้างกายภาพทางการสัญจร การเชื่อมต่ออัจฉริยะภายในรถยนต์ ความยืดหยุ่นในการเป็นเจ้าของและการแชร์รถ นวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และอื่นๆ อีกหลายโครงการ
เทคโนโลยีบนท้องถนน
จากผลการสำรวจในแต่ละประเทศพบว่า 1 ใน 4 ของผู้ทำแบบสอบถามใช้แอพบริการรถรับ-ส่งมากกว่า 1 ครั้งต่ออาทิตย์ในการเดินทาง
ชาวจีนและอินเดีย เป็นผู้ที่ใช้แอพบริการรถรับ-ส่งมากที่สุด อยู่ที่ 28% ส่วนออสเตรเลีย มีผู้ใช้แอพบริการรถรับ-ส่งเป็นประจำเพียง 5% และนิวซีแลนด์มีผู้ใช้แอพบริการรถรับ-ส่ง เพียง 3% และเมื่อดูผลสำรวจทั่วทั้งภูมิภาค อัตราการใช้แอพดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 32 %
โปรแกรมการแชร์รถได้กลายเป็นอีกหนึ่งแอพยอดนิยม โดย ผลสำรวจพบว่ามีการแชร์รถเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยผลจากแบบสอบถามพบว่า ชาวอินเดียมีอัตราการแชร์รถสูงที่สุด อยู่ที่ 33 % ตามด้วยชาวจีน (19 %) และชาวมาเลเซีย (16 %) ซึ่งฟอร์ด กำลังศึกษาระบบการแชร์รถในประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เพื่อค้นหาวิธีที่จะพัฒนาระบบการแชร์รถให้ดียิ่งขึ้น และกำลังนำร่องทดลองใช้แผนการสัญจรอัจฉริยะของฟอร์ดเพื่อค้นหาระบบการแชร์รถในหมู่คนใกล้ชิด เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานในประเทศอินเดีย
นวัตกรรมของฟอร์ดเพื่อพลิกโฉมการสัญจรในอนาคต
แรงบันดาลใจเบื้องหลังของแผนการสัญจรอัจฉริยะ คือ แนวโน้มใหญ่ระดับโลกทั้ง 4 ประการที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ได้แก่
- จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
- การขยายตัวของชนชั้นกลาง
- การให้ความสนใจด้านสุขภาพและคุณภาพอากาศ
- การเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดและการจัดลำดับความสำคัญต่างๆ ของผู้บริโภค
แผนการสัญจรอัจฉริยะของฟอร์ดยังได้รวบรวมนวัตกรรมต่างๆ ที่มีในรถยนต์ฟอร์ดทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน เช่นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถยนต์ ซิงค์ (SYNC) และฟีเจอร์ช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติอย่างเช่นระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และโครงการวิจัยรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ ภายในสิ้นปีนี้ ฟอร์ดจะมีจำนวนรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจำนวนมากที่สุดในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมด โดยมีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจำนวน 30 คันที่ได้รับการทดสอบในสภาพอากาศที่แตกต่างกันในสหรัฐอเมริกา การทดสอบล่าสุดได้ใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ขับเคลื่อนในความมืดโดยไม่เปิดไฟหน้าและยังได้ส่งรถยนต์ดังกล่าวไปทดลองขับเคลื่อนในสภาพอากาศที่มีหิมะปกคลุมเป็นครั้งแรกของวงการรถยนต์
ฟอร์ดถือเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อสื่อสารภายในรถยนต์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เมื่อฟอร์ดได้เปิดตัวระบบซิงค์ในรถยนต์เป็นครั้งแรก ระบบซิงค์รุ่นแรกมอบการสั่งการด้วยเสียงง่ายๆ สำหรับการโทรออกและรับสาย รวมถึงควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น เพลงและวิทยุ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละมือจากพวงมาลัยหรือละสายตาจากท้องถนน สำหรับระบบซิงค์ 3 รุ่นล่าสุด ฟอร์ดมอบการสั่งงานด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นและยังผสานการทำงานกับ SYNC AppLink ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมรถ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้
ข้อมูลจาก: ฟอร์ด ประเทศไทย
** หมายเหตุ ** รายละเอียดผลสำรวจออนไลน์นี้ จัดทำขึ้นโดย GlobalWebIndex โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด 12,619 คน จาก 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย (1,053 คน) จีน (1,058 คน) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ( 1,047 คน) อินเดีย (1,050 คน) อินโดนีเซีย (1,052 คน) มาเลเซีย (1,050 คน) นิวซีแลนด์ (1,050 คน) ฟิลิปปินส์ (1,052 คน) เกาหลีใต้ (1,057 คน) เกาะไต้หวัน (1,050 คน) ไทย (1,049 คน) และเวียดนาม (1,051 คน) โดยได้ทำการสำรวจเสร็จสิ้นลงเมื่อเดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมา