การศึกษาจะถูกเปลี่ยนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
บทความโดย : พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และได้เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของเราได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้การเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ทำได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม แม้ว่าข้อมูลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและหลากหลายประเภทมากขึ้น
โดยที่ขณะนี้โลกของเรามีการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีไร้สาย โดยการเชื่อมต่อได้เข้าไปถึงระดับบุคคล และจำนวนการเชื่อมต่อเข้าใกล้จำนวนประชากรโลกเข้าทุกขณะ อีกทั้งอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพในการคำนวณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (มีแนวโน้มเข้าใกล้ประสิทธิภาพของ supercomputer) สามารถเชื่อมต่อผู้คนจำนวนมหาศาลในเวลาเดียวกัน ประกอบกับความสามารถในการส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะถึงจุดอิ่มตัวเลยแม้แต่น้อย
เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่กำลังทำให้สิ่งของทุกสรรพสิ่งบนโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้ นั้นคือ Internet of Everything (IoE) ซึ่งจะเข้ามาเปลื่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ โดยจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมีการคาดว่า IoE จะทำให้เกิดโอกาสมากมาย ด้วยมูลค่าที่สูงถึงระดับล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการนำ IoE มาใช้ในการปฏิวัติการศึกษา เพื่อสร้างรูปแบบของการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ จะยิ่งทำให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ความเร็วในการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้น และราคาอุปกรณ์ต่างๆที่ลดลง ทำให้สามารถยืนยันได้ว่า IoE จะสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ ที่มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอนมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เช่น นักศึกษาที่อาศัยอยู่ในลอนดอนสามารถร่วมรับฟังการบรรยายจากสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกาได้ โดยอาศัยอุปกรณ์สื่อสารที่ทำให้ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน โดยข้อมูลการเรียนรู้และข้อมูลทั้งหมดจะพร้อมให้นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลา
ข้อมูลและสื่อการสอนต่างๆ ที่มีอยู่จะถูกนำมาใช้ร่วมกันในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะส่งผลกระทบต่อ “วิธีการ” และ “สถานที่” ที่ใช้ในการเรียนรู้ ดังนั้นนักเรียนจะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูทำให้ IoE มีความจำเป็นมากกว่าทักษะและจำนวนของผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นโดย IoE จะทำให้อุปกรณ์สามารถนำมาใช้ประเมินประสิทธิภาพของผู้เรียน สามารถออกแบบแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบเพื่อทดสอบจุดอ่อนและจุดแข็งของนักเรียน และนักเรียนสามารถประเมินศักยภาพได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ IoE ยังสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของผู้มีความบกพร่องทางร่างกายและทางสติปัญญา เช่น ในประเทศออสเตรเลีย นำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ไปใช้ในโรงเรียนสอนผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย โดยเซ็นเซอร์จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ภาษามือของนักเรียน และใช้ในการปรับปรุงการเรียนรู้สำหรับนักเรียนสมาธิสั้น โดยการตรวจเช็คการทำงานของสมองและการให้รางวัลสำหรับนักเรียนที่มีพัฒนาการเรียนที่ดีขึ้น
การเชื่อมต่อระหว่างองค์ประกอบที่สำคัญของ IoE ซึ่งได้แก่ คน กระบวนการ ข้อมูล และสิ่งต่างๆ จะทำให้เกิดกระบวนการที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แม้ว่าการเข้าไปนั่งเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยยังคงเป็นบรรทัดฐานของระบบการศึกษาปัจจุบัน แต่อีกไม่นานคาดว่าจะมีการเรียนการสอนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ และผู้เรียนก็สามารถเรียนได้จากทุกที่ ไม่จำเป็นต้องไปนั่งเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งในต่างประเทศมีการคาดการณ์ว่าในปี 2018 เทคโนโลยี IoE จะสามารถเข้ามาช่วยในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน และสามารถพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และสามารถเน้นในประเด็นที่สนใจเป็นพิเศษ ทำให้ผู้เรียนสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับตัวเองโดยเฉพาะด้านได้ ซึ่งจะทำให้เกิดหลักสูตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมายและง่ายดาย
ในปัจจุบันมีการเปิดหลักสูตรออนไลน์จำนวนมาก โดยหลักสูตรดังกล่าวต่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในการนำเสนอการเข้าถึงการศึกษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แนวคิดนี้ทำให้เกิดการสร้างรูปแบบการศึกษาที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การเติบโตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงองค์ความรู้และข้อมูลต่างๆ ที่เคยมีข้อจำกัดต่างๆ เป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อทำให้ช่องว่างลดลง ไม่เพียงแต่ช่องว่างระหว่างครูผู้สอนและนักเรียนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงช่องว่างระหว่างภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาด้วย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปี 2018 ผู้เรียนจะกลายเป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน ทั้งในเรื่องการศึกษาของตัวเอง และยังรวมถึงการศึกษาของคนรุ่นต่อไปด้วย โดยในปี 2018 เราจะเห็นแนวทางใหม่ๆ ในการเรียนรู้ การศึกษาจะกลายเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง (self-directed) โดยอาศัยการเชื่อมต่อ การประเมิน และการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแท้จริง
รูปแบบการเรียนการสอนนับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีกระบวนการและวิธีการศึกษาที่มีรูปแบบไม่ต่างกันมากนัก โดยมีการเรียนการสอน ให้การบ้าน มีแบบทดสอบเพื่อประเมินว่านักเรียนมีความเข้าใจบทเรียนหรือไม่ กล่าวคือเป็นการเรียนการสอนในห้องเรียนโดยใช้หนังสือเรียน แต่ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และรวดเร็วรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้นับจากนี้ไปในภาคการศึกษาควรจะได้เวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ภาคการศึกษาสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้เกิดโอกาสในการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากขึ้น และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา
เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้ระดับการสอน ความสามารถ และเนื้อหาความรู้ สามารถมีวิธีการใหม่ๆในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการศึกษา สร้างความยืดหยุ่นให้กับรูปแบบการเรียนการสอนมากขึ้น ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยจะเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์ใดก็ได้ที่มีอยู่
เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น IoE เข้ามาทำให้เกิดความท้าทายต่อรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิมๆ ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จนสามารถทำให้อุปสรรคด้านสถานที่ และเวลาหมดไปได้ โดย IoE ทำให้เกิดการศึกษารูปแบบใหม่ สามารถสร้างมูลค่าทางการศึกษาได้มากขึ้น สามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญได้ง่าย ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ขยายไปทั่วโลกโดยไม่จำกัดสถานที่ และสามารถลดค่าใช้จ่ายในเรื่องตำราเรียนได้ ผู้เรียนสามารถค้นหาตำราเรียนอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามต้องการ
IoE ทำให้เกิดการเชื่อมต่อแบบ Person-to-person และ machine-to-machine ทำให้เกิดรูปแบบการศึกษาส่วนบุคคลและเฉพาะทางมากขึ้น อีกทั้งสร้างความสามารถด้านการเชื่อมต่อ วิดีโอ, mobility, อุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด, เครื่องมือในการสร้างความร่วมมือ และระบบความปลอดภัย เข้าด้วยกันได้
การขับเคลื่อนด้วย IoE จะทำให้สถาบันการศึกษาสามารถยกระดับการเรียนการสอน และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิม แม้ว่าสื่อออนไลน์ และวิดีโอ จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่เพื่อการศึกษา แต่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น IoE จะทำให้เกิดความสามารถใหม่ๆที่โดดเด่น เพื่อการปรับปรุงทั้งผลที่ได้จากการศึกษา และการขยายการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
IoE จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะมีการสร้างหลักสูตรใหม่ ที่มีการผสมผสานภาคส่วนการศึกษากับภาคส่วนอื่นๆเข้าด้วยกัน เช่น สื่อ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการร่วมทุน ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมาก
ในยุคดิจิทัล การเรียนรู้และการเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างอิสระ ความพร้อมในการเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และการเข้าถึงการศึกษาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในบทบาทของมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มและผู้เก็บรักษาองค์ความรู้
เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสื่อ การค้าปลีก บันเทิง และในอุตสาหกรรมต่างๆ สำหรับการศึกษาจะเป็นภาคส่วนต่อไปที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่เทคโนโลยีดิจิทัล จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทางการศึกษา เช่น การส่งมอบและการเข้าถึงองค์ความรู้ ตลอดจนวิธีการสร้างคุณค่าสำหรับมหาวิทยาลัยเอกชนให้เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยของรัฐบาล
การเข้ามาของยุค Mobility หรือสังคมข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่ ในยุคที่เรียกว่า Mobility นี้ ได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้คนต่างๆทั่วโลก แม้กระทั่งในภาคการศึกษา นักเรียน หรือมหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดโอกาสต่างๆ เช่น ความร่วมมือ การเข้าถึงได้อย่างแพร่หลาย และความสามารถทางวิชาการ
IoE จะทำให้เกิดการบูรณาการภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมหาวิทยาลัยจะต้องมีการสร้างความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับภาคอุตสาหรรม เพื่อให้เกิดการวิจัยและพัฒนา อีกทั้งเสริมสร้างบทบาทของมหาวิทยาลัยให้เป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตของอุตสาหกรรมที่สำคัญ
เทคโนโลยีดิจิทัล จะส่งผล ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่กับระบบและรูปแบบการศึกษาในมหาวิทยาลัย และจะยิ่งส่งผลกระทบมากกว่าต่อการศึกษาต่อเนื่องของ Knowledge Workers ในแบบที่เรียกว่า Anywhere Anytime Anyone
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ความรู้และเทคโนโลยีจะทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดดังนั้น…หน้าที่ของรัฐที่สำคัญที่สุดคือ การดึงดูดคนเก่งเอาไว้ไม่ให้ไหลออกไปอยู่กับประเทศที่เสนอผลประโยชน์ที่สูงกว่า…THAILAND จงเจริญ!!!
————————–
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
25 พฤศจิกายน 2559 10:30