ช่วงนี้การแข่งขันเรื่อง 4G เริ่มขึ้นแล้ว โดย AIS เพิ่งเริ่มให้บริการ 4G ก็ปล่อยโปรโมชั่นเล่นเน็ตจุใจไม่ติดไม่ติด FUP ด้วย โดยโปรใหม่นี้เน้นใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าต้องระมัดระวังในการใช้ data มากขึ้นเพราะหากโหลดมากไป ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หากจำได้ตอนให้บริการยุค 3G 2100 MHz นั้น จะมีโปรที่สามารถใช้ Mobile Internet บนมือถือไม่จำกัด ตามปริมาณที่กำหนด แต่หลังจากใช้ data เกินกำหนดแล้ว ก็ยังสามารถใช้เน็ตบนมือถือได้โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม แต่จะลดความเร็วเน็ตบนมือถือลงเหลือ 128-256 Kbps เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้มือถือส่วนใหญ่จะไม่พอใจ เพราะใช้ 3GB ครบแล้ว ก็มาทนเล่นเน็ตช้าๆ ยิ่งหากใช้ 4G โอกาสติด FUP ก็ง่ายขึ้น เพราะใช้ data มากขึ้น เน็ตหมดเร็วขึ้น
Fair Usage Policy ( FUP ) คืออะไร?
Fair Usage Policy เป็นนโยบายสากลที่ผู้ให้บริการมือถือทุกรายใช้กันทั่วโลก เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการเน็ตบนมือถือ 3G 4G ป้องกันการใช้ Mobile Internet ในการดาวน์โหลดข้อมูลปริมาณมากๆเช่น โหลด Bittorrent , โหลดหนัง , ส่งคลิปขนาดใหญ่มาก เป็นต้น หากใช้งานจนเกินโปร 3G 4G แล้ว จะได้รับ SMS เตือนว่าคุณใช้แพคเก็จความเร็วสูงสุดครบแล้ว และจะถูกปรับลดความเร็วเน็ตลง แต่สามารถใช้เน็ตได้ต่อเนื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หากคุณสมัครเน็ตโปร unlimit ในราคาไม่สูง เช่นใช้เน็ตเร็วสูง 3GB แล้วใช้ครบ 3GB แล้วก็ยังสามารถใช้เน็ตต่อได้ด้วยความเร็วที่ช้า เพราะติด FUP เลยหลายท่านบ่นกันใหญ่ว่าเน็ตช้า
ซึ่งทางเลือกอื่นที่ดีกว่าส่งคลิปผ่าน 4G ก็คือทาง WiFi ที่ทางผู้ให้บริการมือถือ ได้แถมไว้กับโปร 3G , 4G ในบางแพ็กเกจ หากไม่มี WiFi แถมมา ก็ซื้อแพ็กเกจ WiFi เพื่อใช้ได้เป็นรายเดือนในราคาไม่เกิน 100 บาท ต่อเดือนด้วยดังนั้นแพ็คเกจส่วนใหญ่ราคาระดับกลางๆ จะมี wi-fi ไม่จำกัดแถมมาให้ด้วย
ตัวอย่างแพ็กเกจ ไม่มี FUP
ตลอดการให้บริการ 3G 2100 MHz มีผู้ให้บริการบางรายที่ให้บริการ 3G แบบไม่ติด FUP แต่จะเน้นจำกัดความเร็วการรับ-ส่งข้อมูลให้อยู่ในระดับขีดจำกัดตลอดการใช้งาน อย่างเช่น แพ็กเกจ TOT3G ที่ให้บริการด้วยความเร็ว 1-2 Mbps แบบไม่ติด FUP แต่ต้องจ่ายค่าบริการประมาณ 1,250 และ 1,590 บาท ต่อเดือน หรือ MY BY CAT โปรเน็ตเน้นๆ 384 / 512 ที่เล่นเน็ตได้ไม่จำกัดปริมาณ แต่จำกัดความเร็ว 384 Kbps 512 Kbps เป็นต้น ซึ่งต่างจากแพ็กเกจ 3G รายอื่นๆทั่วไปที่ให้ความเร็วการโหลดสูงถึง 42 Mbps ทันทีจนครบปริมาณที่กำหนดถึงจะดำเนินติด FUP ลดความเร็วเน็ตให้อยู่ในในระดับ 128-256 Kbps
แต่ตอนนี้มีบางค่ายออกโปรใหม่ที่ให้ปริมาณ DATA 4G มากกว่าตอน 3G และใช้เน็ตเร็วสูงเต็ม Speed แบบ ไม่มี FUP เพื่อให้คุณสามารถใช้เน็ตเร็วแบบ 4G ได้ตลอด ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ( Pay Per Use ) ตามที่คุณเลือกโปรไว้ แต่หากคุณใช้เกินปริมาณเกินที่กำหนด ระบบก็จะคิดราคาตามจริงออกมา ทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เบื้องต้นหากใช้ data ใกล้ครบปริมาณที่กำหนด ( อีก 50 MB จะเกินโปร ) จะมี SMS แจ้งเตือน ก่อนคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นราย 1 GB ( 1024MB) ถ้าคุณใช้ data แบบไม่ยั้งเช่น ดูหนัง โหลดไฟล์ใหญ่มากเกินไป โดยไม่ตรวจสอบปริมาณการใช้งานก็เสี่ยงที่จะถูกบิลช็อคได้
วิธีป้องกันไม่ให้จ่ายเงินเพิ่มหลังสมัครโปร คือ
- ติดตั้งแอพตรวจสอบปริมาณการใช้ data และหมั่นตรวจสอบการใช้งาน data ทุกครั้ง ว่าใกล้หมดแพ็ก 4G หรือยัง
- ในกรณีลูกค้า AIS ให้ติดตั้ง ais app เช็คผ่าน e-service จะมีบอกปริมาณการใช้งาน data ของเราอยู่ ส่วน true ก็เช็คผ่านแอพ true iService หรือ hlife.truecorp.co.th หรือกด #123# โทรออก ส่วน dtac กด *101# โทรออก หรือเช็คผ่านทางแอพ dtac
- ตั้งค่าจำกัดการใช้ data บนตัวสมาร์ทโฟนของคุณไม่ให้ใช้ data เกินกำหนด
- เลือกแพ็กเกจให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเรา ใช้ 4G อย่างพอดี
- ในกรณีใช้แบบรายเดือน ให้โทรหา callcenter ในการแจ้งขอจำกัดยอดวงเงินรายเดือน ก็ช่วยป้องกันบิลช็อคได้
- หากคุณต้องใช้ data ปริมาณมากในกาาส่งคลิป ส่งรูป หรือดูหนังออนไลน์ ให้ใช้เน็ตผ่านทาง WiFi แทนการใช้ 3G 4G ซึ่งโปร 4G ของทุกค่ายส่วนใหญ่จะแถม Wifi ฟรีให้ด้วย