พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. แถลงว่าจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา และเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อาคารบ้านเรือนในบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวและบริเวณใกล้เคียง เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในวงกว้าง ประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ประสบปัญหาอย่างหนัก.. ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาดและอาหาร ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในการนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ณ ประเทศเนปาล
ซึ่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติดังกล่าว เป็นผู้อุทิศตน เสียสละ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ดังนั้นการเปิด Roaming ในประเทศเนปาลและยกเว้นค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทีมปฏิบัติงานแล้ว เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานดังกล่าวยังสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้ และสามารถประสานกับหน่วยงานในประเทศไทยได้อีกด้วย หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ทันท่วงที
ในการนี้ ประธาน กทค. ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการเครือข่าย 3 รายใหญ่ เพื่อขอให้เปิดใช้บริการ roaming ในประเทศเนปาล และขอให้ยกเว้นค่าโทรต่างประเทศ ให้แก่ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ กระทรวงสาธารณสุข ในระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ ประเทศเนปาล ด้วย
ด้วยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ( กทค. ) มีความตระหนักถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทาง กสทช. จึงได้ดำเนินการจัดทำแผนโทรคมนาคมเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อซักซ้อมหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้น และเพื่อให้ระบบโทรคมนาคมของประเทศสามารถรองรับกรณีเกิดเหตุสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากประเทศไทยมีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมที่สามารถรองรับเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉินหรือสถานการณ์ภัยพิบัติได้ รวมทั้งมีการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ภาคประชาชนในการใช้งานโทรคมนาคมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีโทรคมนาคมสื่อสารมาใช้ประโยชน์ เพื่อความปลอดภัยของสาธารณะได้มากขึ้น และสามารถเตรียมความพร้อมหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้น