เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 พันเอก เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และรองประธาน กสทช. แถลงว่าที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 8/2558 ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ. ….และจะนำร่างประกาศดังกล่าว ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลทางกฎหมายต่อไป
ในร่างประกาศ กสทช. ดังกล่าว จะมีผลทำให้ผู้บริโภคมีสิทธิและอำนาจ ในการต่อรองกับผู้ประกอบการเครือข่ายโทรคมนาคมมากขึ้น โดยผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายมีสิทธิร้องเรียนต่อ กสทช.เพื่อให้ กสทช.ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นการยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างแท้จริง ลักษณะของการดำเนินการที่ถือเป็นการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ได้แก่ การไม่แจ้งรายละเอียดเงื่อนไขการให้บริการแก่ผู้บริโภคอย่างครบถ้วนชัดเจน การถูกคิดค่าบริการเสริมจากการได้รับข่าวสารบันเทิงและข้อความโฆษณาต่างๆ ผ่านทาง SMS โดยที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ การคิดค่าบริการที่ไม่เป็นจริงตามการใช้งาน การที่ผู้บริโภคได้รับซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่แจกฟรี แต่ถูกเรียกเก็บการใช้บริการทั้งที่ยังไม่ได้ใช้บริการ เป็นต้น และในกรณีที่ กสทช. เห็นว่าผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายใดดำเนินการในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ให้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมระงับการดำเนินการนั้นได้ทันที หากผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ กสทช.มีอำนาจปรับทางปกครองได้ ไม่เกิน 5,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 100,000 บาท ตลอดเวลาที่ยัง มิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ทั้งนี้ ตามมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรฯ พ.ศ.2553
ทั้งนี้ ร่างประกาศ กสทช. ดังกล่าว เป็นการออกตามความในมาตรา 31 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรฯ พ.ศ. 2553 ซึ่งได้กำหนดไว้ว่า ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคมดำเนินการใดๆ ในการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนด ให้ กสทช. มีอำนาจสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวได้
การคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าจะได้รับการให้บริการที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรม และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากบริการโทรคมนาคม และไม่ให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมคมดำเนินการใดๆ ในการที่จะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ โดยมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มข้นและเป็นธรรมนี้ จะก่อให้เกิดผลดีต่อการพัฒนากิจการโทรคมนาคมของประเทศไทย ที่มีความทันสมัย สอดคล้องกับวิวัฒนาการของโลก ควบคู่ไปกับสิทธิของผู้บริโภค เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง