พูดถึงงาน Motor Expo ละก็ ส่วนใหญ่จะนึกถึงงานแสดงด้านรถยนต์ หรือไม่ก็มาดูพริ๊ตตี้สวยๆภายในงาน แต่ในปีนี้มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่นอกเหนือจากรถยนต์ และพริ๊ตตี้ในงานคือ ระบบวัดเสียง เพราะทางผู้จัดได้ติดตั้งเครื่องวัดเสียงภายในงาน เพื่อควบคุมระดับเสียงภายในงานให้อยู่ในระดับเหมาะสม ไม่ดังจนเกินไป
โดยทางผู้จัดได้เผยข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์งาน Motor Expo ครั้งนี้ว่า “ หลังจากการไปดูมหกรรมยานยนต์ระดับโลกที่ต่างประเทศหลายครั้ง ทางผู้จัดงานพบว่าแทบทุกที่ก็มีการควบคุมเสียงเช่นกัน เราจึงริเริ่มนำระบบควบคุมเสียงมาใช้ในงานของเราบ้าง แม้ตอนนี้ในบ้านเราจะยังไม่มีกฎบังคับอย่างชัดเจนออกมาก็ตาม แต่เราก็กำหนดระดับเสียงเอาไว้ที่ db A – 85 (เสียงแหลม เสียงทั่วไป) และ db C – 95 (เสียงทุ้ม เสียงเบส สำหรับส่วนแสดงเครื่องเสียง) ระดับเสียงที่เหมาะสม ย่อมเป็นผลประโยชน์ของทั้งผู้ร่วมชมงานที่ไม่ต้องทนเสียงดังอึกกระทึกเกินเหตุ และผู้ค้ารถในแต่ละบูธด้วย”
โดยระบบวัดเสียงนี้ จะแขวนไว้ใกล้ลำโพงของบูธต่างๆ ทุกจุดภายในงานไม่บดบังสายตา มีหน้าจอบอกสถานะด้วย โดยหากขึ้นสีเขียวแสดงว่าเสียงอยู่ในระดับเหมาะสม แต่เมื่อบูธใช้เสียงดังมากเกินมาตรฐานที่จัดงาน หน้าจอจะขึ้นเป็นสีแดง
ซึ่งระบบวัดเสียง จะส่งข้อมูลมายังศูนย์ควบคุมแบบ REALTIME แสดงค่าออกมาตามแนวบูธ และก็แสดงภายในเว็บไซต์ของผู้จัดงานด้วย
หากระดับเสียงดังเกินไป ทีมผู้จัดงานจะส่งเจ้าหน้าภาคสนามไปตรวจสอบด้วยอุปกรณ์มือถือ (ซ้ายมือ) นี้อีกครั้ง โดยหากมีเสียงดังเกินก็จะมีการตัดเตือนหรือลงโทษตามลำดับต่อไป
ระบบวัดเสียงภายในงานนี้ เป็นผลงานของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
จากเทคโนโลยีการวัดเสียงภายในงานนี้ ช่วยได้มากในเรื่่องลดมลพิษทางเสียง ซึ่งเป็นปัญหาต่อผู้ชมงาน event ต่างๆ มานานและผู้จัดงานในงานอื่นๆส่วนใหญ่จะละเลย แต่หากมีการควบคุมระดับเสียงนี้ได้ละก็ จะได้รับประโยชน์มากทั้งผู้ชมงาน และผู้ออกบูธภายในงานด้วย ทำให้บรรยากาศการชมงานดีขึ้น
ข้อมูลและภาพประกอบ จากเว็บไซต์ motorexpo.co.th