สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)(สดร.) เผย 4 เมษายน 2558 เกิด “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าในไทย ปรากฏช่วงหัวค่ำ ตั้งแต่ดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก เวลาประมาณ 18.57-19.02 น. นาน 5 นาที
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ เปิดเผยว่า “วันที่ 4 เมษายน 2558 ที่จะถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” สามารถสังเกตได้เกือบทุกพื้นที่ของเอเชีย รวมถึงทางด้านตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย (ตรงกับเวลาเช้ามืดของวันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น) ด้านตะวันตกของอเมริกาใต้ และด้านตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก
สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 4 เมษายน 2558 เกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำและตรงกับคืนเดือนเพ็ญ ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลาประมาณ 16.01 น. และจากนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 17.15 น. แต่ในวันดังกล่าวในประเทศไทยดวงจันทร์จะโผล่พ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.25 น. ทำให้เราไม่สามารถเห็นช่วงแรกของการเกิดจันทรุปราคาได้ หลังจากนั้นดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ตั้งแต่เวลา 18.57 – 19.02 น. คิดเป็นระยะเวลาของจันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ประมาณ 5 นาที ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่สูงจากขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 7 องศา และช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวงจนสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางด้านทิศตะวันออกในทุกภูมิภาคของประเทศ เมื่อสิ้นสุดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงหลังเวลา 19.03 น. ไปแล้ว ดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกเข้าสู่การเป็นช่วงจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกทั้งดวงในเวลา 20.44 น. แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งการสังเกตทำได้ยากเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงความสว่างของดวงจันทร์จากเงามืดของโลกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงท้ายสุดดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 21.58 น. ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของปรากฏการณ์จันทรุปราคาแบบเต็มดวงครั้งนี้โดยสมบูรณ์ โดยมีมุมเงย 31 องศา จากขอบฟ้าทางทิศด้านตะวันออก”
ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่สนใจชมจันทรุปราคาเต็มดวงช่วงหัวค่ำในวันดังกล่าว ให้หันหน้าไปทางทางทิศตะวันออก และควรอยู่ในที่โล่งหรือที่สูงจะสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเวลาที่ดวงจันทร์ยังอยู่ใกล้ขอบฟ้ามาก นับเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกของปี 2558 ครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557 และจะเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงเพียงครั้งเดียวที่จะเห็นได้ในประเทศไทย ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 กันยายน 2558 ซึ่งตรงกับช่วงเวลากลางวันทำให้ประเทศไทยไม่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้
ปรากฏการณ์จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปทีละน้อยจนดวงจันทร์เข้าไปอยู่เงามืดทั้งดวง และเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก ช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกบางส่วนจะเรียกว่า “จันทรุปราคาบางส่วน” และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง เรียกว่า “จันทรุปราคาเต็มดวง” จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ เนื่องจากได้รับแสงสีแดงซึ่งเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด หักเหผ่านบรรยากาศโลกไปกระทบกับดวงจันทร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับหน่วยงานเครือข่าย และหอดูดาวสิรินธร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมสังเกตการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง 4 จุด ได้แก่ ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ตั้งกล้องโทรทรรศน์สังเกตปรากฏการณ์พร้อมถ่ายทอดสดผ่านจอภาพขนาดใหญ่ภายในบริเวณงานให้ชมกันอย่างเต็มตา รวมถึงกิจกรรมทางดาราศาสตร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ แนะนำการดูดาวเบื้องต้น เรียนรู้ท้องฟ้าและกลุ่มดาวต่าง ๆ สังเกตวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวพฤหัสบดี เป็นต้น นอกจากนี้ผู้สนใจยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์จาก ปทุมธานี นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ผ่านเว็บไซต์ www.narit.or.th ตั้งแต่เวลา 17:00 – 22:00 น. ได้อีกทางหนึ่งด้วย