ETDA เผยปี 2561 คนไทยใช้เน็ต เพิ่ม 10 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน Gen Y ครองแชมป์ใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยการใช้ Facebook, Instagram, Twitter และ Pantip สูงถึง 3 ชม. 30 นาทีต่อวัน
ทีมงานไอที24ชั่วโมง ได้ไปร่วมงาน ETDA จัดงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 Future Economy and Internet Governance : Big Change to Big Chance ภายในงานมีการจัดแสดงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมากมาย อย่าง ETDA ได้มีการจัดโซน ETDA Pavilion เพื่อแสดงผลงาน และโครงการที่สำคัญของ ETDA ในระดับประเทศ ได้แก่ Cybersecurity Park, e-Commerce Park, Digital Tourism, Durian Platform, Digital Content และ National Digital ID
ส่วนโซนของผู้สนับสนุน และพาร์ทเนอร์ทั้งจากไทยและต่างประเทศ ได้เตรียมนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ทั้งด้าน Cybersecurity, e-Commerce, และ Digital Technology ร่วมไปถึงโซน Digital job matching ที่ผู้ร่วมงานสามารถสมัครงานกับบริษัท หน่วยงาน องค์กรที่น่าสนใจภายในงานนี้ได้เลย
ภายในมีการจัดเวทีสัมมนาระดับนานาชาติที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ทั้งวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับชั้นนำของประเทศไทย และต่างประเทศกับหัวข้อเพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคตกว่า 30 หัวข้อ ซึ่ง 1 ในหัวข้อสัมมนาที่หลายๆวงการต่างจับตามองนั้น คือ “แถลงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา”
คุณสุรางคณา วายุภาพ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยข้อมูล ว่า ผลสํารวจพฤติกรรม คนไทยใช้เน็ต ปี 2561 พบพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตยัง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยนานขึ้นเป็น 10 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 ชั่วโมง 41 นาทีต่อวัน โดย Gen Y (อายุระหว่าง 18 – 37 ปี) ครองแชมป์การใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดติดกันเป็นปีที่ 4 เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านชีวิตไปสู่ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งยังพบข้อมูลคนไทยยังนิยมใช้โซเชียลมีเดีย อาทิ
- Facebook, Instagram, Twitter และ Pantip สูงมากถึง 3 ชม. 30 นาทีต่อวัน
- การรับชมวีดีโอสตรีมมิ่ง เช่น YouTube หรือ Line TV มีชั่วโมงการใช้ งานเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ชม. 35 นาทีต่อวัน
- การใช้แอปพลิเคชันเพื่อพูดคุย เช่น Messenger และ LINE เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ชม. ต่อวัน
- การเล่นเกมออนไลน์อยู่ที่ 1 ชม. 51 นาทีต่อวัน
- การอ่านบทความหรือหนังสือทาง ออนไลน์อยู่ที่ 1 ชม. 31 นาทีต่อวัน
เมื่อดูการเปลี่ยนผ่านการใช้ชีวิตประจําวันไปสู่ชีวิตดิจิทัล จะเห็นได้ ว่า 5 อันดับแรกที่ผู้ใช้ อินเทอร์เน็ตทํากิจกรรมทางออนไลน์มากกว่าแบบดั้งเดิม ได้แก่
- การส่งข้อความ 5%
- การจองโรงแรม 2%
- การจอง/ซื้อตั๋วโดยสาร 0%
- การชําระค่าสินค้าและบริการ 8%
- การดูหนังฟังเพลง 5%
นอกจากนี้ผลสํารวจยังพบ ว่า มีหลากหลายกิจกรรมที่คนไทยยังมีความสุ่มเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากพฤติกรรม ดังนี้
- ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านทุก ๆ 3 เดือน 45.34%
- การให้วันเดือนปี เกิดที่แท้จริงผ่าน สื่อสังคมออนไลน์ 45.04%
- เมื่อทําธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ธนาคารก็ละเลยที่จะสังเกตว่าเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https:// หรือไม่ 44.48%
- เปิดอีเมล หรือ คลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก 43.36%
- อัปโหลดรูปถ่ายหรือวิดีโอทันทีหลังถ่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 35.70%
สําหรับ คนไทยใช้เน็ต กลุ่ม Baby Boomer (อายุระหว่าง 54 – 72 ปี) เป็นกลุ่มที่น่ากังวลมากที่สุด เช่น
- เมื่อทําธุรกรรมทางการเงินผ่าน เว็บไซต์ธนาคารก็จะละเลยที่จะสังเกตว่าเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https:// หรือไม่ 55.94%
- เมื่อสิ้นสุด การใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ/อุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้อื่นก็ไม่ลบประวัติการใช้งาน 46.96%
- ไม่ลง ชื่อออกจากการใช้งานจากเครื่องดังกล่าว 26.14%
- ไม่ได้ล็อกหน้าจออัตโนมัติ 29.71%
ขณะที่ คนไทยใช้เน็ต กลุ่ม Gen Z (อายุน้อยกว่า 18 ปี) จะมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องของ
- การให้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 55.97%
- การไม่เปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3 เดือน 53.73%
- เปิดอีเมล/คลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก 51.49%
- ใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ / อุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้อื่นมักตั้งค่าให้อุปกรณ์ดังกล่าวจดจํารหัสผ่าน เพื่อจะ ได้ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง 28.36%
- คลิกลิงก์ของธนาคารที่ได้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ธนาคารโดยตรง 16.42%
ส่วน คนไทยใช้เน็ต รุ่น Gen Y (อายุระหว่าง 18 – 37 ปี) มักจะชอบทํากิจกรรมเสี่ยงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ เช่น
- การอัปโหลดรูปถ่ายวิดีโอทันทีหลังถ่าย 90%
- การอัพโหลดภาพตั๋วเครื่องบิน/Boarding pass ก่อนการเดินทาง 77%
- การแชร์ตําแหน่ง (Location) แบบ Real time 13.57%
ซึ่งพฤติกรรมคนไทยใช้เน็ตเหล่านี้ถือ เป็นการสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับเจ้าของข้อมูล ดังนั้น จึงควรตั้งค่าดังกล่าวเป็นส่วนตัว เปิดให้เฉพาะ เพื่อน หรือญาติพี่น้อง หรือคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น
อีก 1 ของแจกที่น่าเก็บไว้ในมือถือนั้นคือ ETDA E-BOOK ที่ทาง ETDA รวบรวมข้อมูลทำเป็นเอกสารเผยแพร่ สนใจ E-BOOK เล่มไหน ก็สแกน QR code ดาวน์โหลดเห็บไว้ในมือถือได้เลย หรือสามารถตามอ่านต่อได้ที่ etda.or.th/documents-for-download.html
ยังมีหัวข้อสัมมนาจาก งาน 8 ปี ETDA Future Economy and Internet Governance : Big Change to Big Chance สามารถดูย้อนหลังได้ที่ facebook.com/ETDA.Thailand และ etda.or.th/bigchange2018