เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา Dell จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับทิศทางของบริษัทต่อสื่อมวลชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี DELL โดยมีผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศ มาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งปีนี้ DELL จะโฟกัสไปที่ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น เน้นการตอบสนองต่อองค์กรในการใช้ไอที โดยเฉพาะพนักงานที่เริ่มปรับรูปแบบการทำงานมาทำงานนอกออฟฟิศกันมากขึ้น
Mr.James Johnston กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายโซลูชันไคลเอนด์ เดลล์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เผยข้อมูลสถิติที่น่าสนใจว่า จากผลการสำรวจพนักงาน จาก 12 ประเทศในปี 2014 เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีกับการทำงาน พบว่า 1 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมดใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการทำงาน โดย 61% บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของพนักงาน จะพบแอพที่ใช้ช่วยในการทำงานอยู่ด้วย หากรวมจำนวน Mobile Device ที่นำมาใช้ในองค์กรต่างๆ จะมี Mobile Device มากถึง 20,000-28,000 ตัว ต่อ 1 บริษัทเลยทีเดียว แต่การรักษาด้านความปลอดภัยข้อมูลในบริษัทก็ยังไม่เพียงพอ โดยบริษัทส่วนใหญ่ยังไม่มีระบบสนับสนุนความปลอดภัยบนอุปกรณ์พกพา
41% ของพนักงานในประเทศที่พัฒนาแล้ว และ 82% ของตลาดเกิดใหม่ เชื่อว่า การที่เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำงาน ทั้งบริการคลาวด์และระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆนั้น สร้างความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงาน และแนวโน้มการนำดีไวซ์ส่วนตัวมาใช้งาน หรือ BYOD ก็เป็นเทรนด์ใหม่ที่มีการใช้จริงในบริษัทมากขึ้น บริษัทและองค์กรจำเป็นต้องลงทุนเพื่อจัดการเรื่องนี้ เพราะความปลอดภัยของข้อมูลบนมือถือและแท็บเล็ตนั้น ต่ำมาก ถ้าเทียบกับ Desktop และ Laptop
หากเทียบสถิติการใช้อุปกรณ์ไอทีในการทำงานของพนักงานหรือคนทำงานมาเทียบกันระหว่างปี 2011 และ 2014 ปรากฎว่า การใช้งาน desktop ลดลง แต่การใช้งานบน Mobile Device เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Smart Phone และ Tabet มีการเติบโตขึ้นมากแบบก้าวกระโดด ส่วน Labtop โตขึ้นด้วยเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2011 ทั้งนี้คนที่ใช้อุปกรณ์ Mobile Device อื่นๆที่ไม่ใช่ desktop นั้น มีเปอร์เซ็นน้อยมากที่จะไม่ใช้อุปกรณ์อื่นร่วมด้วยเลย
Dell มองว่า แท็บเล็ต มีอัตราการใช้สูงขึ้น ซึ่งพบว่า 29% มีการแท็บเล็ตนำมาใช้ในการทำงานมาก ในตลาดใหม่ โดยเฉพาะประเทศจีน โดย 35% แท็บเล็ตนำมาใช้โดยกลุ่มผู้บริหารระดับสูง และ 29% มีการนำแท็บเล็ตนำมาใช้ทำงานที่สูงขึ้นในอัฟริกาใต้
ส่วน Labtop กลุ่ม 2 In 1 นั้น จะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง และนำมาใช้ทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นมีส่วนที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
Mr. Rekhi Harjeet ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายโซลูชันไคลเอนด์ เดลล์ ภาคเอเชียใต้ เผยข้อมูลโฟกัสเทรนด์เทคโนโลยี ว่า
- ปัจจุบันคน 3,000 ล้านคนทั่วโลก เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ต่างๆ และเข้าถึงบริการ Social Media
- โดย 86% มีแนวโน้มทำงานแบบ Virtualized มากขึ้น ในปี 2016
- ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีมากถึง 350 ล้านคนทั่วโลก โดยมีพนักงานกว่า 250 ล้านคน นำอุปกรณ์ส่วนตัวของพวกเขาไปใช้ในการทำงาน (BYOD)
- น้อยกว่า 50% ของบริษัทในตลาดกลาง ใช้ Cloud ในการดำเนินธุรกิจ ( โดยเฉพาะเรื่อง SaaS ให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น)
- คาดว่าจะมีการดาวน์โหลดแอพมากถึง 58,000 ล้านครั้งภายในปี 2015 นี้
- ข้อมูล 5 Quintillion byte ถูกสร้างโดยผู้ใช้จากทั่วโลก คุณมีแผนจัดการข้อมูลเหล่านี้อย่างไรให้เกิดประโยชน์
DELL มั่นใจว่า ในปี 2015 นี้ แต่ละบริษัทจะหันมาตัดสินใจลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์ และระบบไอทีในองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และ มีความน่าเชื่อถือด้วย
ทั้งนี้ คุณอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) เผยว่า คาดว่าจะมียอดซื้อโน๊ตบุ๊ค เติบโตขึ้นเท่ากับปี 2012 ซึ่งมากกว่ายอดขายในรอบปี 2013 และ 2014 ที่ลดลงจากปี 2012 อันเนื่องมาจากเหตุการเมือง และการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภค จึงคาดการณ์ว่า 2015 ยอดขายโน๊คบุ๊คจะมีมากขึ้นอันเนื่องมาจาก ผู้บริโภคใช้เงินจับจ่ายซื้อไอทีรุ่นใหม่มากขึ้น การเปลี่ยน Notebook ใหม่ที่ปลอดภัยสเปคแรงขึ้น เน้นตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิง ตลอดจนเรื่อง Windows 10 เป็นปัจจัยสำคัญในการซื้อโน๊ตบุ๊คและ IT Solution รุ่นใหม่ด้วย