Kaspersky Lab’s บริษัทผู้ให้บริการ Antivirus และด้านรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ จากรัสเซีย ได้คาดการณ์ว่า Hacker จะโจมตีพุ่งไปที่ธนาคาร โดยมีการพัฒนามัลแวร์เพื่อฉกเงินสดจากตู้เอทีเอ็มโดยตรงด้วย นอกจากนี้ ภัยไซเบอร์ทางการเงินในปี 2015 จะเพิ่มความสนใจไปยังประเด็นการรักษาความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
เทรนด์ภัยอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ปี 2015
- การโจมตีระบบจ่ายเงินเวอร์ชวล ซึ่งอาจขยายผลไปยังระบบ Apple Pay แบบใหม่
- การโจมตีตู้เอทีเอ็มโดยตรง
- เหตุการณ์มัลแวร์รุกล้ำความปลอดภัยธนาคาร โดยใช้วิธีโจมตีไซเบอร์โดยตรง
- เหตุการณ์ช่องโหว่ทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น จะพบช่องโหว่อันตรายในโค้ดเก่าซุ่มโจมตีโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต
- การโจมตีผ่านเครื่องปริ้นเตอร์ในเครือข่ายและดีไวซ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย ซึ่งจะเปิดช่องทางให้แฮกเกอร์ขั้นสูงซุ่มอยู่ในเครือข่ายองค์กรได้นานยิ่งขึ้น
- ซอฟต์แวร์มุ่งร้ายที่ออกแบบเพื่อระบบ OSX จะฝังตัวในซอฟต์แวร์เถื่อนและการดาวน์โหลดทอร์เร็นต์
- การโจมตีโดยแฮกเกอร์รายใหญ่ที่ปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นหน่วยย่อยๆ ทำงานแยกจาการเป็นอิสระ ซึ่งจะทำให้เกิดการโจมตีในวงกว้างยิ่งขึ้น
ตู้ ATM ถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น
ในปี 2015 นี้ การโจมตีตู้กดเงินสดหรือเอทีเอ็มจะเริ่มระบาดมากขึ้น หน่วยงานรักษากฎหมายต่างๆ จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อรับมือกับวิกฤตินี้ เพราะด้วยระบบธนาคารส่วนมากยังใช้ Windows XP และมีปัญหาความปลอดภัยด้านฟิสิกคอล จึงกลายเป็นจุดเปราะบางของระบบ คาดว่าจะเห็นการโจมตีตู้เอทีเอ็มที่มีการปฏิวัติใหม่ โดยใช้เทคนิคเจาะเข้าไปยังสมองของตู้กดเงินโดยตรง Hacker เข้าไปก่อกวนเครือข่ายของธนาคารและบงการตู้เอทีเอ็มได้แบบเรียลไทม์”
การโจมตีระบบการจ่ายเงินเวอร์ชวล
อาชญากรไซเบอร์จะพยายามเสาะหาช่องทางเข้าระบบการจ่ายเงิน ที่น่าจะขยายผลไปยังระบบ Apple Pay ใหม่ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communications) ในการจัดการธุรกรรมแบบไร้สาย รวมถึงระบบ Virtual Wallet (กระเป๋าเงินออนไลน์ ) และระบบจ่ายเงินแบบอื่นๆ