เมื่อวันที่ 2 เมษายน Microsoft จัดงานแถลงข่าว เพื่อให้ข้อมูลเรื่องการหยุดสนับสนุน Windows XP ในวันที่ 8 เมษายน 2557 นี้ พร้อมให้ข้อมูลว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังการหยุดให้การสนับสนุน และผู้ใช้ มีทางเลือกอย่างไรบ้าง
หากย้อนอดีตกลับไป จะพบว่า Microsoft เปิดตัว Windows Xp และ Office 2003 ออกสู่ตลาด ในปี 2544 และปี 2546 ตามลำดับ ในยุคสมัยที่ อินเทอร์เน็ต ยังคงเป็นเรื่องใหม่อยู่ และไม่มีการใช้ internet แพร่หลายนัก คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ ก็ไม่ค่อยต่อเชื่อม internet ตลอดเวลาเช่นทุกวันนี้ ในขณะที่ smart phone และคอมพิวเตอร์ มีความสามารถ ที่เทียบไม่ได้กับอุปกรณ์ในปัจจุบัน “เช่นเดียวกันกับวิถีชีวิตและรูปแบบการทำงานที่ทุกวันนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป จนแตกต่างจากเมื่อ 12 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ ไมโครซอฟจึงมองว่า ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ น่าจะหันมาใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น รองรับกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยไป เช่น วินโดวส์ 8.1 และ Office 365 ที่นอกจากจะมีข้อได้เปรียบในด้านของประสิทธิภาพและความคล่องตัวแล้ว ยังสามารถปกป้องข้อมูลของคุณจากภัยร้ายที่มีอยู่มากมายในโลกออนไลน์อีกด้วย เนื่องจากระบบไฟร์วอลล์และแอนตี้ไวรัสเพียงอย่างเดียวไม่อาจรับมือกับทุกความเสี่ยงได้อีกต่อไป เราจึงต้องการระบบปฏิบัติการที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยแข็งแกร่งกว่า” นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์และเซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ในส่วนสำหรับองค์กร ถ้าองค์กรไม่อัพเกรดมาเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ ธุรกิจของคุณหรือองค์กรก็อาจทำให้การทำงานสะดุด หยุดชะงัก ตกเป็นเป้านิ่งของเหล่าอาชญากรทางออนไลน์ และทำให้องค์กรเสียชื่อเสียงได้
คุณพิริยะ เดชนะ ผอ.ฝ่ายไอทีสารสนเทศ โรงพยาบาลปิยะเวท ได้แชร์ประสบการอัพเกรด จาก Windows XP ไประบบปฏิบัติการใหม่ว่า โรงพยาบาลตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงปัญหาต่างๆต้องไม่ให้เกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น ก็เป็นปัญหาใหญ่และเสียชื่อเสียงด้วย ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่อยากรับความเสี่ยงปัญหาใหญ่นี้จึงตัดสินใจอัพเกรดมาเป็น Windows 7 โดยก่อนหน้านี้นำซอฟต์แวร์เฉพาะของทางโรงพยาบาล มาทดสอบทั้ง Windows 7 และ Windows 8 .1 แต่คอร์แอพพลิเคชั่นของโรงพยาบาลยังทำงานได้กับ Windows 7 มากกว่า เลยให้อัพเกรดไปพักที่ Windows 7 ก่อน แล้วนำซอฟต์แวร์นี้มาให้ทีมนักพัฒนาแอพมาปรับปรุงให้สามารถทำงานบน Windows8 ของโรงพยาบาลมาทำงานให้ ทั้งนี้ใช้เวลาการทดสอบก่อนอัพเกรดทั้งองค์กร ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
คุณธัชชัย ปิยะกุลชัยเดช กรรมการผู้จัดการ บ.ยูไนเต็ด คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้าน packaging ได้แบ่งปันประสบการณ์ว่า บริษัทให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการข้อมูลต่างๆจำนวนมาก ซึ่งทุกอย่างต้องแม่นยำ การผลิตต้องถูกแบบ หากเกิดปัญหาผลิตไม่ทันทำมาผิดก็จะเกิดความสูญเสียได้ ซึ่งการอัพเกรดนี้คุ้มกว่าการให้เกิดการสูญเสีย และหลังอัพเกรดแล้วจัดอบรมให้พนักงานรู้จักกับคุณสมบัติใหม่บนระบบปฏิบัติการใหม่ด้วย
สำหรับใครที่ตัดสินใจจะ upgrade สู่ระบบปฎิบัติการที่ใหม่ขึ้นก็มีข้อแนะนำดังนี้
ข้อแนะนำการอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่ สำหรับผู้ใช้คอมทั่วไปที่ใช้ Windows XP
- ตรวจสอบคอมของตัวเองว่าใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows XP หรือไม่ ? โดยเช็คที่เว็บไซต์ amirunningxp.com ถ้าใช่ก็ถึงเวลาอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการอื่น
- ทั้งนี้ผู้ใช้งานคอมสามารถตัดสินใจได้ 2 อย่างคือ ซื้อคอมใหม่ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Windows 8 หรือ Windows 8.1 หรือถ้าสเปคคอมคุณไหวสามารถซื้อแผ่นอัพ Windows 7, windows 8 , windows 8.1 แผ่นแท้ได้
- จากนั้นก็ติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ และทำการถ่ายโอนข้อมูลจาก Windows XP ด้วยเครื่องมือ PC Mover Express สามารถดาวน์โหลดฟรีที่ windowsxp.com
สำหรับบริษัท องค์กร ที่จะอัพเกรดมาเป็นระบบปฏิบัติการใหม่
- อย่างแรกต้องประเมิน ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ว่ามีเครื่องไหนยังใช้ Windows XP และประเมินตรวจสอบเกี่ยวกับซอต์แวร์ที่จะต้องใช้ว่า ถ้าอยู่บนระบบปฏิบัติการใหม่ ตัวซอฟต์แวร์จะยังทำงานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าทำได้ ก็ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์นี้สามารถทำงานเข้ากันได้ทุกอย่างบนระบบปฏิบัติการใหม่ได้สมบูรณ์มั้ย ถ้าสมบูรณ์ก็ตัดสินใจอัพเกรดไปยังระปฏิบัติการรุ่นนั้น แต่ถ้าไม่ครบต้องปรึกษาผู้ให้บริการด้านไอทีมาช่วยแก้ไข ซึ่งทางเลือกที่จะอัพเกรดไประบบปฏิบัติการใหม่มี 3 รุ่นคือ windows 7 , windows 8 และ Windows 8.1
- จากนั้นเตรียมพร้อม ถ่ายข้อมูลบนคอมเก่า Windows XP ไปยังคอมใหม่ระบบปฏิบิติการใหม่ ทั้งนี้ทาง Microsoft ได้จัดเตรีบมเครื่องมือ PCmover Express ที่ช่วยถ่ายข้อมูลไปยังคอมใหม่ให้เร็วขึ้น
- แล้วทำการวางระบบไปยังคอมเครื่องใหม่ รวมทั้งชวนพนักงานหรือเพื่อนร่วมงานของคุณมาร่วมอบรมทำความเข้าใจกับระบบปฏิบัติการใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวการใช้โปรแกรมต่างๆบนระบบปฏิบัติการใหม่ได้
ทั้งนี้การอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่ อัพเกรดง่ายไม่ซับซ้อนเหมือนในอดีตแล้ว ซึ่งผู้ใช้คอมจะได้รับประสบการณ์ใหม่บนระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใหม่กว่า Windows XP ที่ใช้งานได้หลากหลาย แปลกใหม่ และปลอดภัยยิ่งขี้นด้วย
สรุปว่า ผู้ใช้งาน Windows XP เมื่อถึงวันที่ 8 เมษายน 2557 ก็ยังคงสามารถใช้งาน Windows XP ต่อไปได้อยู่ เพียงแต่จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น ยิ่งใช้ต่อไปนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเสี่ยงสูงขึ้นเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้รับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยอีกต่อไป (เพราะ Microsoft หยุดสนับสนุนแล้ว) ทำให้ตกเป็นเป้านิ่งของพวกไวรัส มัลแวร์ สายพันธุ์ใหม่ สปายแวร์ และซอฟต์แวร์อันตรายที่ สามารถเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับคอมพิวเตอร์และข้อมูลของคุณได้
(ซึ่งหากบางองค์กร หรือผูัใช้บางท่านจำเป็นที่จะยังคงต้องใช้ Windows XP ต่อไป ดูคำแนะนำได้ที่ ข้อแนะนำ สำหรับผู้ใช้ Windows XP ต่อไป หลัง Microsoft เลิกสนับสนุน 8 เมษายนนี้ )
ข้อแนะนำในการอัพเกรด สำหรับผู้ใช้ Windows XP
** อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง upgrade เป็น Windows ใน version ที่ใหม่กว่าก็ได้ ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนระบบปฎิบัติการไปเป็นของค่ายอื่นเลยก็ได้ถ้าหากโปรแกรมที่ใช้อยู่ หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถเข้ากันได้กับระบบปฎิบัติการอื่น หรือจะยังคงใช้ Windows XP ต่อไปก็ได้ เพียงแต่เครื่องของคุณ จะพบกับความเสี่ยง มากขึ้นทุกวัน และจะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากไมโครซอฟต่อไป ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใช้ หรือองค์กรเอง **