ในปัจจุบันลักษณะการทำงานนั่งโต๊ะของเราทุกคนเปลี่ยนไป จากที่ใช้คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ก็มีอุปกรณ์อย่างเช่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตมาเพิ่มดังนั้น เราจึงไม่ได้แค่ใช้งานจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าอย่างเดียวแล้วแต่บนโต๊ะของเรา ยังจะมีอุปกรณ์หลากหลาย ปัญหาที่ตามมาในยุคของการทำงานที่เปลี่ยนไปสำหรับคนทำงานก็คืออาการปวดเมื่อยต่างๆที่อาจรบกวนการทำงาน จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพ ซึ่งเราไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการทำงานนั่งโต๊ะแบบนี้ได้เลย แล้วเราจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร?
วิธีแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่คุณหมอแนะนำสำหรับการทำงานนั่งโต๊ะก็คือการเปลี่ยนท่านั่ง ว่านั่งอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ หรือนั่งอย่างไรจึงจะไม่เมื่อยแต่ในที่สุดแล้วเมื่อนั่งทำงานไปนานๆเราก็มักจะเปลี่ยนท่านั่งกลับไปแบบเดิมๆเสมอ อีกทางเลือกหนึ่งคือการเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีผลกระทบโดยตรงกับการนั่งของเรา ให้พบเจอกับอาการเมื่อย ปวดหลัง ปวดคอ หรือปัญหาสุขภาพต่างๆน้อยที่สุดแล้วมีเก้าอี้แบบไหนบ้างหล่ะ ที่สามารถรองรับการใช้งานเทคโนโลยีในปัจจุบัน?
รู้จักกับเก้าอี้ Gesture
Gesture คือเก้าอี้ใช้ในสำนักงานและที่บ้านออกแบบและผลิตโดย Steelcase มีจุดเด่นคือ เก้าอี้สามารถรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีในปัจจุบันทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตโดย Steelcase ได้ทำการวิจัยท่านั่งของมนุษย์ขณะทำงาน จากผู้ทดลอง 2,000 คน และค้นพบ 9 ท่านั่งใหม่ จากการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่หลากหลายซึ่งท่านั่งดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและอาการปวดที่รบกวนการทำงาน เพราะท่านั่งใหม่ๆไม่ได้ถูกการรองรับจากเก้าอี้ที่ดีพอ Gesture จึงถูกออกแบบขึ้นมาให้ตรงกับสรีระมนุษย์มากที่สุด เพื่อช่วยตอบสนองผู้ใช้งานยุคใหม่
สัมผัสกับเก้าอี้ Gesture แล้วเป็นอย่างไร?
เมื่อแรกเห็นเก้าอี้ Gestureก็รู้ได้ว่าเข้ากับยุคใหม่มากๆ เพราะรูปทรงมีความทันสมัย ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าพนักพิงมีความโค้งเว้ากว่าเก้าอี้ทั่วไปที่เราเคยเห็นวัสดุอุปกรณ์ดูคงทน
เมื่อลองนั่งบนเก้าอี้ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ตัวเบาะมีความนุ่มสบายเบาะนั่งจะมีลักษณะโค้งซึ่งรองรับกับการนั่งของเรา บริเวณด้านข้างของเบาะยังมีตัวหมุนให้เราสามารถปรับเบาะเลื่อนไปด้านหน้าและหลังได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ บางคนชอบนั่งชิดโต๊ะ ก็สามารถเลื่อนเบาะมาด้านหน้าเยอะๆได้
พนักพิงที่มีความโค้งเว้าต่างจากปกติที่เราเคยเห็น โดยสามารถรองรับกับหลังของผู้นั่งได้อย่างดีมาก มีความนิ่มสบายเช่นเดียวกับเบาะ หากเป็นเก้าอี้ปกติเราอาจต้องหาหมอนหรืออุปกรณ์อื่นๆมารองด้านหลัง แต่เมื่อนั่งบน Gesture เราไม่ต้องหาอะไรมารองเพิ่มเลย นั่งไปนานๆก็ไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยหลัง และเมื่อทดลองเอนหลัง ก็สามารถเอียงได้เยอะเท่าที่เราสามารถนั่งทำงานได้ โดยสามารถเอียงได้ 116 องศา
บริเวณที่รองแขน มีความพิเศษตรงที่สามารถปรับยกได้ตามต้องการ ทั้งจากด้านล่างขึ้นบน ซึ่งสามารถปรับให้ความสูงต่ำแต่ละข้างไม่เท่ากันก็ได้ และสามารถปรับเอียงให้ที่รองแขนเข้าหาตัวและออกห่างจากตัวได้ด้วย
-
ลองใช้งานกับโน๊ตบุ๊ค
ด้วยที่รองแขนของเก้าอี้ที่สามารถปรับยกได้ เมื่อต้องพิมพ์งานนานๆ จนทำให้รู้สึกเมื่อยแขน ก็สามารถปรับยกที่รองแขนขึ้นมาให้พอดี ทำให้ลดอาการเมื่อยเมื่อต้องกดแป้นพิมพ์นานๆได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญพนักพิงหลังมีส่วนช่วยอย่างมากให้การนั่งก้มมองหน้าจอนานๆ ไม่ปวดหลัง หรือบริเวณต้นคอ เพราะส่วนโค้งเว้าของพนักพิงเอนเอียงเข้ากับการนั่งได้อย่างดี
-
ลองใช้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
จากข้อดีของแขนที่สามารถปรับได้ ทำให้เราปรับที่รองแขนขึ้นมาให้พอดีกับการถืออุปกรณ์ ไม่ต้องถืออุปกรณ์ให้หนักมือเหมือนแต่ก่อนหรือหากวางอุปกรณ์ไว้บนตัก ก็สามารถปรับเอียงที่รองแขนเข้าหาตัว เพื่อรองรับกับการวางแขน
จากการทดลองใช้งานเก้าอี้ Gesture โดยสรุปแล้ว เก้าอี้สามารถตอบโจทย์การทำงานในยุคใหม่นี้ได้อย่างดีมาก ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการคำนึงลักษณะสรีระของผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งผู้ใช้แต่ละคนอาจมีลักษณะการนั่งทำงานที่แตกต่างกัน เก้าอี้ก็ออกแบบมาให้สามารถปรับได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ทำให้ไม่รู้สึกเมื่อยล้าเหมือนแต่ก่อน Gesture จึงเป็นเก้าอี้ที่เหมาะกับคนทำงานยุคใหม่ ที่มีทั้งการใช้คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท๊บเล็ต และสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยเรื่องลดการปวดเมื่อยต่างๆที่หลายๆคนมักจะประสบได้เป็นอย่างดี!
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถแวะชม Gesture ได้ที่โชว์รูม Modernform หรือเว็บไซต์ www.modernform.co.th (ราคาเริ่มต้นที่ 39,000บาท)