ด้าน นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยว่า “กรมควบคุมมลพิษได้คาดการณ์ปริมาณซากโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือในปี ๒๕๕๕ ว่าจะมากถึง ๘,๕๒๔,๐๐๐ เครื่อง และจะพุ่งขึ้นไปเป็น ๑๐,๙๐๗,๐๐๐ เครื่องในปี ๒๕๕๙ ซึ่งคาดว่าสัดส่วนซากจากโทรศัพท์มือถือน่าจะมีจำนวนมากกว่า และหากเปรียบเทียบปริมาณโทรศัพท์มือถือ ๑๐,๙๐๗,๐๐๐ เครื่อง ซึ่งก็ต้องใช้สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานประมาณ ๖ สนามครึ่งจึงจะวางเรียงได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โดยส่วนใหญ่จะมีแบตเตอรี่ และ หน้าจอผลึกเหลว (Liquid Crystal Display : LCD) เป็นส่วนประกอบ จึงปฏิเสธไม่ได้ปริมาณแบตเตอรี่เก่าและหน้าจอผลึกเหลว ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งในตัวโทรศัพท์เครื่อนที่นั้นจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามไปด้วย โดยในตัวโทรศัพท์มือถือนั้น มีส่วนผสมของสารอันตราย ตั้งแต่สารหนู พลวง ตะกั่ว สารทนไฟที่ทำจากโบรมีน แคดเมียม ตะกั่ว นิกเกิล ส่วนจอผลึกเหลวก็มีสารประกอบอินทรีย์ที่เป็นสารอันตรายและสารก่อมะเร็ง เช่น Phenylcyclohexane, Cyclohexane เป็นต้น ซึ่งจอผลึกเหลวนี้กำลังเป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าวิตกกังวล เนื่องจากสมาร์ทโฟน มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แต่ในเมืองไทยยังไม่มีวิธี Recycle หากมีการทิ้งซากโทรศัพท์มือถือและซากแบตเตอรี่ปะปนไปกับขยะมูลฝอยชุมชน เมื่อเวลาผ่านไป ส่วนเปลือกห่อหุ้มของเครื่องโทรศัพท์และแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพหรือผุกร่อน สารเคมีที่เสื่อมสภาพ ภายในจะไหลออกสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สารพิษนี้เข้าสู่ระบบนิเวศและระบบห่วงโซ่อาหารผ่านทางน้ำ และอากาศและก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมาอีกมากมาย”
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในฐานะ กสทช. เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านโทรคมนาคมของประเทศ เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการทิ้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และแบตเตอรี่เก่า จึงได้จัดกิจกรรมรองรับขยะอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม “คืนแบตเก่า เรารักษ์โลก” เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และประชาชนทั่วไปที่ผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยรณรงค์ให้ทิ้งแบตเตอรี่ที่ไม่ใช้แล้ว หรือแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพแล้ว ในจุดที่รับคืนแบตเตอรี่เก่า ที่ กสทช. จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อจะได้รวบรวมแบตเตอรี่เก่าเหล่านั้น ไปจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการและความปลอดภัย เพื่อลดปริมาณขยะเป็นพิษ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
สำหรับแบตเตอรี่เก่า หรือแบตเตอรีที่เสื่อมสภาพ ประชาชนสามารถนำไปทิ้งได้ที่จุดรับคืนแบตเตอรี่เก่า ที่ กสทช. จัดเตรียมไว้ให้ ณ.ศูนย์บริการ ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป เพื่อรวบรวมขยะอิเลคทรอนิกส์เหล่านี้ไปทำการจัดการอย่างถูกต้อง โดยจะรวบรวมให้กรมควบคุมมลพิษ ไปทำลาย โดยมีบริษัทรับช่วงในการดำเนินการจัดการอย่างถูกต้องและปลอดภัย ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป