การประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอล ครั้งนี้ มีผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ผู้แทนจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ร่วมสังเกตการณ์ประมูล และไม่ปรากฏว่ามีผู้ขัดข้องใจ สงสัย ร้องเรียนการประมูล และไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูลมาแสดงตัวเพื่อขอดูข้อมูลประวัติการเสนอราคา ซึ่งการประมูลทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ในส่วนของรายได้จากการประมูลทั้งหมด 50,862 ล้านบาท ไม่ใช่เงินรายได้ของสำนักงาน กสทช. โดยสำนักงาน กสทช. จะต้องนำเงินทั้งหมดส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 53 ,42 และ 41 วรรคหก ของ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งจะมีคณะกรรมการบริหารกองทุนที่ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง และผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาบุคลากรและวิชาชีพสื่อกระจายเสียง 1 คน สื่อโทรทัศน์ 1 คน และด้านการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานอย่างทั่วถึงหรือในพื้นที่ห่างไกลและผู้ด้อยโอกาสอีก 1 คน โดยมีประธาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. เป็นประธานและเลขานุการคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นผู้บริหารและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะในด้านต่างๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ตามมาตรา 52 ของพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553