รายการ it24hrs on radio ทาง FM 106 วิทยุครอบครัวข่าว ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับแขกรับเชิญ คุณเฉลิมยุทธ์ บุญมา (คุณโน๊ต) ตัวแทนจากทีม Fast in Flow เมื่อวันทื่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทีม Startup 1 ใน 5 ทีม ที่เข้ารอบสุดท้าย จากโครงการ dtac accelerate และเป็นอดีตแชมป์เก่าโครงการนี้ที่ได้ไปดูงานที่ Silicon Valley มาด้วย
ผู้ร่วมทีม Fast In Flow มีใครบ้าง ?
นอกจากผมคุณโน๊ต เฉลิมยุทธ์ บุญมา แล้วยังมีผู้ร่วมอีก 3 ท่านคือ นายจักริน พิภพกุลพร , นางสาวลินดา ไกรวณิช และ นาย นายสรวุฒิ วงศ์พานิช รวม 4 ครับ ซึ่งทั้ง 3 ท่านหลังนี้ติดภารกิจดูแลลูกค้าอยู่ครับ เลยมาออกรายการสัมภาษณ์ไม่ได้ครับ
มองซิลิคอน วัลเล่ย์ อย่างไร ? ได้ประสบการณ์อะไรจากการเดินทางไปเมื่อปีที่แล้ว?
คุณโน๊ะ : การไปครั้งแรกในชีวิต ได้เปิดโลกทัศน์ของตัวเองและมุมมองใหม่ของธุรกิจ startup ที่อยู่ใน silicon valley โดยสิ่งที่ได้รับจากการที่ได้มีโอกาสไป silicon Valley แบ่งเป็น 3 อย่างสั้นๆคือ
- ได้มุมมองการธุรกิจใหม่ๆ โดยเราได้มีโอกาสนำเสนอโครงการของตัวเองต่อเพื่อนๆชาวต่างชาติที่มีบทบาทในวงการ startup ใน silicon valley เพื่อรับ feedback ว่าโปรเจคของเรานี้ดีมั้ย ต้องปรับปรุงอย่างไรบ้าง และ ข้อเสนอจากคนใน silicon valley ซึ่งมีประสบการณ๋ในการทำ startup สูง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ startup ของตัวเองให้ตอบโจทย์กับลูกค้ามากขึ้น
- เห็นระบบนิเวศน์ใน silicon valley ที่แตกต่างจากๆไทย โดย silicon valley มีความพร้อมการสนับสนุนแทบทุกด้านทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ทั้งกลุ่มบุคลากรคนที่ทำงานด้าน startup , ทั้งมหาวิทยาลัย ภาครัฐ และ แหล่งเงินทุน ต่างสนับสนุนอย่างเต็มที่
- แนวคิดบุคลากรคนใน silicon valley ว่าเค้าเป็นคนที่มองแง่บวก เค้าไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และเค้ามีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำ startup นี้สามารถเปลี่ยนโลกได้ ยกตัวอย่างเช่น
คน startup ที่ silicon valley ก็จะมีการทำ pitching เสนอธุรกิจ ขายไอเดียเพื่อขอเงินทุน , หา partner , หาทีม แลกเปลี่ยนกัน หาสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์แอพ ตลอดเวลาและแทบทุกที่ด้วย ทั้งเช้า เที่ยง เย็น ไม่เว้นแม้กระทั่งใน Lift ก็ยังมี เพราะ start up ที่ silicon valley มีการแข่งขันการขายไอเดียนำเสนองานสูงมาก
คุณโน๊ต กล่าวถึงมุมมองนักพัฒนาชาวไทย และโอกาสเกี่ยวกับ start up ว่า คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะเห็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จ ได้ทำงานในบริษัทองค์กรระดับโลกที่อยู่ใน silicon valley นี้หลายราย ทั้งนี้อยู่ที่เรามีทักษะมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีทักษะมากก็มีโอกาสเข้าสู่ระดับโลกได้ แม้ผมจะไม่ได้เรียนจบในด้านสายไอที หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ตาม
ปัญหาสำคัญของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกวันนี้คืออะไร
คุณโน๊ต ให้ความคิดเห็นในมุมมองส่วนตัว เกี่ยวกับปัญหาของนักพัฒนา software ชาวไทย 3 ข้อหลักๆ คือ
- ปัญหาด้านทักษะภาษา บางครั้งไปไม่ทันคนจากชาติอื่น
- ปัญหามุมมองการทำธุรกิจ ที่กลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์เก่ง แต่ไม่เก่งเรื่องหัวเกี่ยวกับธุรกิจว่าจะขายยังไง ขายให้กับใคร ในต่างประเทศเค้าจะมี Partner ร่วมกันในการทำธุรกิจ
- ปัญหามุมมองหลังเรียนจบ ที่คนไทยส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังว่าเมื่อเรียนจบแล้ว จะไปทำงานเข้าบริษัทใหญ่ทันที ซึ่งน้อยคนนัก ที่จะลุยทำ startup ด้วยตนเอง เพราะยังไม่กล้า
อธิบายถึงแอพ Tikko ทำอะไรได้ มีข้อดียังไง
ผลงานแอพพลิเคชั่นของทีม fast in flow มีชื่อแอพว่า Tikko เป็น Mobile Application แบบสำรวจหรือสอบถาม โดยจะมีคำถามส่งมาให้กับคนที่ดาวน์โหลดแอพ Tikko นี้มาช่วยตอบ ซึ่งคนที่ดาวน์โหลดแอพ Tikko ก็ทำการตอบแบบสอบถามผ่านมือถือไป เมื่อผู้โหลดตอบแบบสอบถามแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามจะได้แต้มไว้สะสมแต้ม เพื่อไปแลกของรางวัลจาก partner ด้วย เช่นแลกตั๋วหนังภาพยนตร์ เป็นต้น
ได้ไอเดียดีๆมาจากไหน ?
ได้มาจาก feedback จากคนใน silicon valley ว่าการทำธุรกิจของเราลักษณะนี้ ต้องทำตัวนี้ขึ้นมา เลยนำความเห็นนี้มาพัฒนาต่อ และก่อนที่คุณโน๊ตจะลองมาทำ startup นั้น ได้เคยทำวิจัยการตลาดมาก่อน ซึ่งมีความถนัดเลยลองทำแอพนี้ขึ้น โดยแอพ Tikko นี้เป็นแอพสำหรับนักวิจัยทางการตลาด โดยนักการตลาดมีจุดมุ่งหมายอยากจะได้ feedback จากผู้บริโภค ว่าสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการคืออะไร เพื่อนักการตลาดได้ข้อมูลพัฒนาสินค้าได้ตรงตามต้องการของผู้บริโภค Tikko จึงเปรียบเสมือน gateway ให้ นักการตลาดและผู้บริโภคได้ช่วยกันพัฒนาสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคจริงๆ
แบ่งการทำงานกันอย่างไร?
เบื้องหลังการพัฒนาแอพ tikko นั้น ในทีมนี้มีทีมงานทั้งหมด 4 คน โดยแบ่งทีมกันพัฒนาในส่วนต่างๆคือ คุณสรวุฒิ วงศ์พานิช ดูแลด้านเทคโนโลยี ทั้งพัฒนาตัวแอปพลิเคชันบนมือถือ . และตัวเว็บไซต์ คุณลินดา ไกรวณิช ดูแลในส่วนการออกแบบหน้าจอแอพ ( User Interface และ user experience คอยดูประสบการณ์ของผู้ใช้แอพว่าใช้ง่ายใช้เป็นหรือไม่ ) คุณจักริน พิภพกุลพร ดูในส่วนของการเงิน และ การพัฒนาธุรกิจ และ . คุณเฉลิมยุทธ์ บุญมา หัวหน้าทีม ดูในเรื่อง Marketing & Sale ว่าแอพ tikko ซึ่งเป็นเครื่องมือนี้สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ? นำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้า
จากปีที่แล้ว มาถึงปีนี้ ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ มีแนวคิดที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ?
เมื่อก่อนทั้ง 4 คนเคยทำงานประจำ แต่เมื่อได้เป็นผู้ชนะเดินทางไป Silicon Valley แล้วได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง เลยตอนนี้ทั้ง 4 คนตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และมาเสี่ยงลุย startup อย่างเต็มตัวจริงจัง มีการวางแผนและเผยแพร่นำเสนอต่อลูกค้า โดยต้องมีแนวคิดมองไปยังตลาดใหญ่ระดับโลก และต้องรู้จริงว่าคนต้องการอะไร และพัฒนาเพื่อตอบสนองกับผู้ใช้ การวิจัยเป็นต้นน้ำของการตลาด
สิ่งที่ทีม Fast in flow ได้รับอะไร จากโครงการ dtac accelerate ?
ได้ความรู้จาก dtac โดยทาง dtac ได้ส่งวิทยากรที่มีประสบการณ์ด้านพัฒนาโปรดักส์ silcon valley อย่างคุณ Nir Eyal KPCB-backed serial entrepreneur มาพูดให้คนที่เข้าร่วมโครงการฟัง และ มีกิจกรรม face to face ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น Product และ Marketing และทาง dtac ได้ส่งวิทยากรอีกท่านคือ คุณ Neil Patel ซึ่งเป็น top 10 online marketing ของโลก มาให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งรู้สึกตื่นเต้น มีค่ากับพวกเรามาก รวมถึง dtac ช่วยเหลือสนับสนุนในเชิงด้านธุรกิจ ด้วย
มีอะไรฝากถึงรุ่นน้องที่จะเข้าโครงการ Start Up
สำหรับผู้ที่มีความฝันอยากเป็น start up ต้องเตรียมไอเดีย และทีมงานด้วยเป็นสิ่งสำคัญ… ที่ต้องทำงานกับเราตลอดรอดฝั่ง หาข้อมูลว่าเทรน์เทคโนโลยีไหนมาแรง และต้องพัฒนาทักษะทั้งด้านพัฒนาแอพ พัฒนาธุรกิจ และด้านอื่นๆ ด้วยตลอดเวลา