ไอที24ชั่วโมง และไอที24ชั่วโมง on radio ได้สัมภาษณ์ คุณอรรถพงศ์ ลิมศุภนาค หรือน้องบีม ตัวแทนจากทีม Drivebot ที่ประสบความสำเร็จอีกทีม ซึ่งเป็นทีม Startup ที่แต่ละคนอายุแค่ 20 กว่าๆเท่านั้น แต่สามารถเข้ารอบ 5 ทีมสุดท้ายของโครงการ dtac accelerate ปี 2 ได้รับเงินลงทุนจาก DTAC Accelerate มาแล้ว 500,000 บาท แม้ไม่ได้รับรางวัลใหญ่ แบบ 3 ทีมที่เคยสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้อย่างทีม Claimdi และ ทีม Piggipo รวมถึง Fast In Flow แต่น่าสนใจและแตกต่างจากทีมอื่นๆ คือทีม DriveBot ยังไม่หยุดที่จะระดมทุนต่อ เพื่อสร้าง product ในฝันให้เป็นจริง จนประสบความสำเร็จ ได้รับเงินทุนลุยโปรเจคจาก Crowd Funding มูลค่ารวม 3 ล้านบาท
คุณอรรถพงศ์ ลิมศุภนาค หรือน้องบีม หัวหน้าทีม drivebot กล่าวถึงการที่ทีมเข้าร่วมโครงการ dtac accelerate ว่า “ Dtac accelerate เป็นเป็นโครงการที่ เปิดโอกาสให้บริษัทหรือคนที่มีไอเดีย แต่ยังไม่มีเงินทุน อยากได้เงินทุนอยากได้ประสบการณ์การทำ startup จริงๆ ลองยื่นใบสมัครเข้าโครงการดู พร้อมกับนำเสนอไอเดียโปรเจ็คต่อคณะกรรมการ หากเราผ่านการคัดเลือกก็จะได้เงินทุนไปเริ่มกิจการ พัฒนาโปรเจค ไปร่วมค่าย Boothcamp 3 เดือน โดยมีวิทยากรจากต่างประเทศที่เชี่ยวชาญด้าน Startup ระดับโลก มาสอน และก็มีการสนับสนุนหลังจบโครงการ โดยสนับสนุนโปรเจคในด้าน marketing ให้ด้วย ทำให้เราได้ความรู้มากขึ้น เจอเพื่อนๆในวงการ startup มากขึ้น ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องการพัฒนาโปรเจค
จุดเริ่มต้นของการทำ drivebot
น้องบีม เล่าว่า “สำหรับโครงการ drivebot นั้นเริ่มต้นไอเดีย มาตั้งแต่ในช่วงปี 2013 แล้วมาตัดสินใจลุยทำงาน drivebot นี้แบบจริงจังโดยลาออกจากงานในช่วงเดือนเมษายน 2014 ที่ผ่านมา น้องบีมจบจาก วิศวฯคอมพิวเตอร์จุฬา โดยสมาชิกในทีม Drive bot เป็นวิศวคอมถึง 3 คน และก็มี บัญชี ปริญญาโทอีก 1 และมีคนนึงที่เก่งด้าน auto-motive Design ตัวบีมเองก็ย้ายจะมาดูในเรื่อง Management แทน และก็มีคนที่ดูแลในด้านเขียนโปรแกรมด้วย”
รู้จักกับ Drivebot Gadget ที่ช่วยตรวจสอบสภาพรถยนต์ของคุณได้ง่ายขึ้น เช็คปัญหาได้ผ่านแอพบนสมาร์ทโฟน
Drivebot เป็นอุปกรณ์ที่เสียบกับรถยนต์ ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน เพื่อที่จะให้คนที่จะใช้รถ แต่ไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์ สามารถตรวจสอบปัญหาของรถยนต์ตัวเองได้ ง่ายๆ ถ้าเราเจอจุดที่เป็นปัญหาและซ่อมถูกจุด ค่าซ่อมรถยนต์ก็จะถูก และยังสามารถบันทึกพฤติกรรมการขับรถของเรามาวิเคราะห์ได้ เช่นขับรถใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ ขับรถเร็วเกินกำหนดกี่ครั้ง เบรคกระชากกี่ครั้ง มีรายงานหมด เปรียบเสมือนตัว Fitbit บนรถยนต์ โดยตัวโปรเจคนี้ได้นำเสนอบนเว็บ indiegogo.com
วีดีโอแสดงการทำงานของ Drivebot
หน้าตาแอพ drivebot ที่ทำให้คุณสามารถเช็คสภาพรถยนต์ว่ามีปัญหาส่วนไหน? แบบสบายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาให้ช่างรถยนต์ตรวจทุกส่วน อีกทั้งยังช่วยประหยุัดเงินค่าซ่อมได้มากทีเดียว
โดยเว็บไซต์ดังๆที่เป็นลักษณะ Clowd Funding นี้ได้แก่ kickstarter (ดังที่สุด) , indiegogo , gofundme.com เป็นต้น ซึ่ง gofundme นี้ จะเป็นการขอ crowd funding สำหรับเรื่องส่วนตัว เช่นขอเงินเพื่อเรียนต่อ ขอเงินเพื่อรักษาโรค ขอเงินแต่งงานก็ได้ด้วยนะ เคยเห็นแวบๆ เหมือนกัน เพื่อสร้างความฝันให้เป็นจริงได้
เว็บ Crowd Funding คืออะไร ?
“Crowd Funding เป็น เว็บไซต์ที่ช่วยสนับสนุน คนที่มีไอเดียแล้วต้องการหาเงินทุนไปพัฒนาโปรเจคในฝันให้เป็นจริง หรือว่าต้องการทดสอบตลาดว่ามีคนสนใจหรือเปล่า ซึ่งรองรับ สำหรับปัญหาคนที่จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ แบ่งเป็น 2 ปัญหาหลักคือ 1 .ไม่มีเงินทุน 2.คนทำแล้วแต่ไม่มีคนซื้อ ตัว Crowd Funding จึงได้สร้างมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ครับ
หลักๆที่เราจะทำ Crowd Funding คือ เขียนเรื่องว่าทำไมถึงทำโปรเจคนี้ มีความเป็นมาอย่างไร จะนำเงินไปใช้อะไรบ้าง ใช้เงินเท่าไหร่ แล้วจะบอกคนในเว็บว่าช่วยบริจาคให้เราหน่อยสิ คนละนิดคนละหน่อย ถ้าบริจาคเยอะหน่อยจะได้ของที่เรากำลังผลิตในราคาพิเศษ
ผมได้ยินเกี่ยวกับ Crowd Funding จากข่าวไอทีมาสักพักนึง ทีนี้ผมก็ชอบของอะไรใหม่ๆผ่านทาง Crowd Funding เลยมีเว็บ Crowd Funding อยู่ในใจแล้ว พอเราจะโอกาสทำโปรเจคผมเอง ก็เชื่อว่าวิธี Crowd Funding นี้เป็นวิธีที่ดีในการระดมทุนครับ เราได้เงินระดมทุนจากเว็บไซต์ indiegogo.com ครับ” น้องบีมกล่าว
น้องบีมเล่าถึง ผลตอบแทนที่เค้าหวังได้รับจากเรา มี 3 ประเด็นหลักๆคือ
- ให้ โดยไม่หวังผลตอบแทนอะไร เพื่อสนับสนุนโปรเจคให้เป็นจริง
- ชอบเล่น gadget ชอบไอเดียใหม่ๆ ยอมสนับสนุนแล้วเพื่อได้ของในราคาพิเศษก่อนใคร
- ให้เงินแล้ว ฟังข้อเสนอแนะจากคนที่ให้เงินเพื่อให้เรานำไปพัฒนาต่อให้ตรงความต้องการ
เทคนิคอย่างไรถึงได้เงินจาก Crowd Funding
มี 3 สิ่งหลักๆ ที่สำคัญคือ
- 1. มัน emotional เพราะถ้ามัน emotional คนจะอยากกด อยากสนับสนุนเร็ว
- 2. ให้พูดถึงประโยชน์ที่เค้าจะได้จากการสนับสนุนโปรเจคเรา
- 3. มี Call to action อย่างของ drivebot ก็คือมี message แทรกๆ ไปตลอดก็คือ “ช่วยสนับสนุนหน่อย”
ทั้งนี้ขั้นตอนการขอสนับสนุน บน Crowd Funding แต่ละเว็บไซต์ก็จะมีฟอร์มที่แตกต่างกันไป โดยทีมผมเองได้ใช้เว็บไซต์ Indiegogo โพสวีดีโอ 1 คลิป แล้วเขียนเรื่องราวนำเสนอตามสไตล์เรา แล้วโพสต์ขึ้นบนเว็บ ความจริงแล้วจะโพสต์ภาพ หรือเขียนบรรยายปกติก็ได้ แต่ที่ทำแบบวีดีโอนี้เพราะคนส่วนใหญ่จะดูวีดีโอมากกว่าอ่าน โดยทีม drivebot นำเสนอโครงการผ่านทางวีดีโอ ขึ้นเว็บ Indiegogo โดยเราใช้ตัวละครหลักเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นผู้หญิงที่ขับรถแล้วไม่มีความรู้เรื่องรถ แล้วเจอปัญหา แล้วก็อธิบายว่า โปรดักส์ของเราจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร หากว่าคุณช่วยสนับสนุน เราจะมีโปรดักส์แบบนี้มาช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ
“ส่วนสำหรับคนไทย ที่อยากจะได้เงินทุนจาก Crowd Funding ละก็ แนะนำไปที่ Indiegogo.com อย่างเดียวเท่านั้นครับ เพราะ kickstarter ต้องใช้บัญชีเฉพาะที่อยู่ในอเมริกา อังกฤษ แคนาดาเท่านั้น” น้องบีมกล่าว
โปรเจค Drivebot จะเสร็จเมื่อไหร่
น้องบีมเล่าว่า “ส่วนตัวโปรเจคของเราอย่าง drivebot คาดจะวางตลาดจริงในเดือนเมษายน 2015 ส่วนชุดที่ผลิตชุดแรกให้กับผู้สนับสนุน จะเริ่มส่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2015 นี้ “
ทำไมเราถึงเลือกทำโปรเจคในลักษณะฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ผสมกัน ?
คุณบีมกล่าวว่า “คือตอนที่เราหาไอเดียทำอยู่ หาซอฟต์แวร์คิดไม่ค่อยออกแล้ว เพราะมีคนทำมากมายเหลือเกิน และช่วงที่ผ่านมาเรื่อง Internet Of Thing การนำฮาร์ดแวร์มาอ่านข้อมูลแล้วเขียนซอฟต์แวร์ดึงข้อมูล มาทำอะไรให้ฉลาดๆกำลังมาแรง เลยน่าจะลองทำบ้างและสนุกดี”
ทีม drivebot ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ใครที่มีไอเดียแล้วอยากทำละก็ ขอให้โฟกัสตั้งเป้าหมายที่จุดนั้น แล้วลุยทำเลย อย่ารอช้า บวกกับหาความรู้เยอะๆ เพราะจะทำให้เราพบความเสี่ยงน้อยลงครับ”
ท่านสามารถติดตาม drivebot นวัตกรรมใหม่ของ Startup ไทย ได้ที่เว็บไซต์ www.drivebot.io