เมื่อวานนี้ (28 มกราคม 2557) สำนักงาน กสทช. ได้ประชุมติดตามสถานการณ์การรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมและบลูสกายภายหลังการชี้แจงคณะกรรมการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา ความคืบหน้าต่อกรณีดังกล่าวภายหลังการเปิดช่องสำรองเพื่อให้บลูสกายออกอากาศพบว่ามีการรบกวนช่องสำรองออกอากาศของบลูสกาย ด้วยอุปกรณ์ที่แตกต่างกับการรบกวนของช่องสัญญาณหลัก นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า “การรบกวนช่องสำรองการออกอากาศของบลูสกายจะแตกต่างจากการรบกวนในช่องหลัก โดยผู้รบกวนมีการใช้อุปกรณ์รบกวนสัญญาณที่แตกต่างกัน จากเบาะแสที่ได้รับจะช่วยเพิ่มโอกาสให้สำนักงาน กสทช. สามารถหาตัวผู้ทำผิดมาดำเนินการได้ โดยมาตรการแก้ไขทางเทคนิคที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ กสทช. สั่งไทยคมเพิ่มความแรงของสัญญาณอัพลิงค์ช่องบลูสกายให้มากที่สุด เพื่อให้การรบกวนทำได้ยากขึ้น โดยหากจะทำการรบกวนก็ต้องส่งสัญญาณที่แรงกว่าซึ่งก็จะทำให้เราสามารถหาตัวและจับกุมผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้นด้วย”
เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ต้องขอขอบคุณประชาชน และสถานีบลูสกายที่ได้แจ้งเบาะแสต่างๆ เข้ามา เบาะแสเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการดำเนินการของสำนักงานฯ ในค้นหาผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงานฯ ได้ส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวนทั้ง 14 เขตออกตรวจสอบตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งแล้ว คาดว่าในเร็ววันนี้จะได้ตัวผู้ดำเนินการ หากประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน กสทช. ทันที
ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดของสำนักงาน กสทช. เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิในการสื่อสารของประชาชนทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน การส่งสัญญาณรบกวนเป็นการดำเนินการผ่าฝืนกฎหมายต้องเร่งหาตัวผู้ทำผิดมาดำเนินการเพื่อคุ้มครองประชาชนทุกฝ่าย โดยการกระทำดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และหากการกระทำเช่นว่านั้นได้มีการนำเข้าหรือใช้เครื่องวิทยุคมนาคมหรือตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยแล้ว ย่อมมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันด้วย