เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคมที่ผ่านทา ทีมงาน ไอที24 ชั่วโมงได้รับเชิญเป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปร่วมงาน LG Optimus G Pro ASIA MEDIA DAY 2013 ที่โรงแรม The Venetian Macao Resort มาเก๊า ร่วมกับสื่อมวลชนจากชาติอื่นๆในเอเชีย โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊าเมื่อเวลาประมาณ 12.00น. ตามเวลามาเก๊า ซึ่งเมื่อเทียบเวลาโลก มาเก๊าจะก่อนเวลาไทย 1 ชั่วโมง
เมื่อเดินทางมาถึงมาเก๊าแล้วก็เดินทางไปที่พักทันที โดย บรรยากาศภายในสถานที่ The Venetian Macao Resort ตกแต่งได้สวยงามอลังการมากๆ และเป็นสถานที่จัดงานแถลงข่าว LG Optimus G Pro ด้วย สำหรับบรรยากาศงานเปิดตัว LG Optimus G Pro สามารถอ่านได้ที่นี่
ในช่วงภาคกลางคืนก็มีการแสดงฉายภาพเคลื่อนไหว Mapping บนโรงแรม The Venetian Macao Resort นี้ด้วย สวยงามมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจต่อนักท่องเที่ยวจนต้องถ่ายรูปเก็บไว้
ในช่วงก่อนเวลา 2 ทุ่มตามเวลามาเก๊าก็รีบไปยัง ที่ CITY OF Dreams ภายในนั้นมีห้าง สินค้าแบรนด์เนม คาสิโน และก็โรงแสดงละคร หลากหลายชุดการแสดงด้วยกัน
แต่การแสดงที่ได้ชมนี้การแสดงชุด The House Of Dancing Water ซึ่งเป็นการแสดงโชว์สายน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความร่วมมือระหว่าง City of Dreams กับ Franco Dragone Entertainment Group โดยลงทุนสร้างโรงละครสำหรับการแสดงชุดนี้ ถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ และเบื้องหลังการแสดงนี้ซ้อมไม่ต่ำกว่า 2 ปี
(เบื้องหลังการแสดงละครเวที The House Of Dancing Water )
รวมถึงเทคนิคการแสดงต่างๆทั้งแสงสีเสียงนี้ ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แต่ที่สำคัญคือความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของนักแสดงทุกคนด้วย ทำให้การแสดงละครเวทีโชว์สายน้ำ The House Of Dancing Water นี้ดูยิ่งใหญ่ประทับใจคนดูจริงๆ ถ้าใครมามาเก๊าแล้วไม่ควรพลาดที่จะมาชมการแสดงละครชุดนี้
นอกจากนี้ยังมีจอ LED ขนาดยักษ์ เหมือน Video Wall แต่ดูแล้วแทบไม่เห็นรอยต่อของ LED เลย ทำให้เวลาการถ่ายรูปLED จอยักษ์ ซึ่งตอนนี้ฉายในแบบจำลองว่าอยู่ใต้น้ำ ดูชัดทันที
ที่ The City Of Dreams นี้มีบริการ ฟรี Wifi ด้วย โดยไม่ต้องขอ username และ password เพียงแค่ทำตามขั้นตอน ลงชื่อ และอีเมล กำกับไว้ก็สามารถใช้เน็ตฟรี wifi ได้เลย ให้บริการโดย CYBER CTM ของมาเก๊า และ SYSTECH TELECOM ซึ่งต่างจากในไทยอย่าง terminal21 ที่จะแจกพวก username และ password ในการ login wifi ฟรี และ ที่สยามเซนเตอร์ หรือสยามพารากอน ที่ต้องกดจากโทรศัพท์เพื่อรับ wifi-free ภายในห้าง
วันต่อมา ก็เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของมาเก๊า เช่น ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s)เดิมเป็นโบสถ์คาทอลิกที่สำคัญในมาเก๊า ถูกเพลิงไหม้และพายุไต้ฝุ่นถล่มในช่วงปี ค.ศ. 1835 จนเหลือเพียงซากประตูโบสถ์ แต่ก็กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเก๊านี้ มาถ่ายรูปเก็บไว้
จากนั้นไป Shopping ซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างของโบสถ์มีร้านค้าขายสินค้ามากมาย บรรยากาศคึกคักมาก ทีมงานก็ไปดื่มกาแฟที่ร้าน starbucks ในมาเก๊า ซึ่งอยู่บริเวณข้างบันไดขึ้นโบสถ์ ที่สาขานี้ต่างจากร้าน Starbucks ในไทยคือมีการใช้ Mobile Application บน iPhoneในการซื้อกาแฟ และมีการประชาสัมพันธ์ร้านด้วย QR CODE ที่แปะไว้ตามโต๊ะกาแฟ ส่วนร้านค้าอื่นๆรอบๆก็มีแปะ QR CODE ด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบกิจกรรมสะสมแต้ม และส่วนลดราคา
หลังจากเดินรอบๆตลาดเสร็จ ก็เดินทางไปที Senado Square ซึ่งเป็นแหล่งสถานที่ช้อปปิ้งยอดนิยม ตรงบริเวณพื้นถนน ที่ปูลาดด้วยกระเบื้องเป็นลอนคลื่น ที่นี่รวมไว้ด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม เฟอร์นิเจอร์โบราณ เครื่องประดับ รวมไปถึงของที่ระลึก ภัตตาคารอาหารสไตล์โปรตุเกส อาหารแมคกานีส และอาหารจีนตามแบบตำรับดั้งเดิม ฯลฯ และมีบริการฟรี Wi-Fi โดยกระทรวงไอซีทีของมาเก๊า ด้วย ความเร็วเน็ตประมาณ 3 Mbps
จุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวมาเก๊าต้องไม่พลาดคือการชมวิวจากหอคอย Macau Tower โดย หอคอยนี้ สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก และเป็นอันดับ 8 ของเอเชีย มีความสูง 338 เมตร สามารถชมวิวเห็นทั่วเกาะได้จากที่นี่
ถ้าหากจะดูวิวจากมุมสูงแบบละเอียดทุกซอกทุกมุม ที่นี่ก็มีบริการ Interact Telescope กล้องส่องทางไกล ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการด้วย แต่บริการนี้ต้องใช้บัตร โดยต้องเสียเงินเพื่อได้บัตรนี้มาเปิดใช้
และที่น่าท้าทายและไม่น่าเชื่อสำหรับ หอคอยแห่งนี้ คือ สามารถปีนขึ้นคอย และ เล่น Bungy Jump บน Macau Tower ได้ด้วย โดยมีกล้องติดตั้งถ่ายผู้ที่โดดถึง 3 จุดด้วยกันถ่ายแบบความละเอียดสูง HD ถ่ายผู้เล่น Bungy Jump แบบสดๆให้ชม ซึ่งใครสนใจท้าความเสียวก็สามารถไปลองสัมผัสความเสียวได้ที่ Macau Tower แต่ราคา Bungy Jump สูงมาก
และแล้วเวลาการเที่ยวชมมาเก๊าก็สิ้นสุดลง มุ่งหน้าเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า เพื่อเตรียมเดินทางกลับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งภายในสนามบินมาเก๊านี้ เล็กกว่าสนามบินสุวรรณภูมิของไทย แต่เทคโนโลยีที่ให้บริการผู้โดยสารที่ใข้บริการสนามบิน มาเก๊า ก็มีฟรี Wi-Fi จากสายการบินมาเก๊า ที่ให้ใช้ฟรี โดยไม่ต้องกรอก password ตัดเน็ตทุก 60 นาที และให้ความเร็วสูงถึง 10 MBps เน็ตแรงมากจนสามารถโทรด้วย skype หรือ hangout ผ่านทาง google+ ได้ โดยไม่ต้องโทรกลับไทยผ่านโรมมิ่งเลย
นอกจากนี้ยังมีบริการทั้ง Free Wi-Fi , บริการชาร์ตแบตเตอรี่มือถือ แท็บเล็ต บริการ Internet ฟรีไว้ให้บริการด้วย โดยผู้ให้บริการนั้น คือ CTM ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศมาเก๊า เป็นผู้จัดบริการนี้ให้ ผู้ใช้บริการในสนามบินมาเก๊าได้ใช้ฟรี โดยเฉพาะบริการชาร์จแบตฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิไม่มีบริการนี้
แล้วยังมีตู้ขายซิมการ์ดด้วย ซึ่งไม่เหมือนสนามบินในไทยและสนามบินชางกี ที่สิงค์โปร ที่จะขายซิมตามจุด counter หรือโอเปอร์เรเตอร์มือถือต่างๆ โดยซิมที่ขายในตู้นั้น เป็นซิมโทรศัพท์เติมเงิน ซิมเน็ต 3G ไม่จำกัด 1 วัน และ บัตรเติมเงิน คอนเซปก็เหมือนตู้หยอดเหรียญกระป๋องน้ำอัดลม
ส่วนถ้าคิดจะซื้อของฝากที่ร้านค้าภายในสนามบินมาเก๊านั้น พอมาดูจริงๆแล้วมีน้อยมากๆ มีแค่พวกร้านอาหาร Fast Food ห้องน้ำ และร้านค้า duty Free ของ มาเก๊า มีน้อยมากๆและแพงด้วย เปิดบริการเฉพาะช่วงทำการ ถึง 4 ทุ่มก็ปิดร้านแล้ว ซึ่งต่างจาก duty free ในสนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทยที่มีของฝากให้เลือกเยอะมากหลายราคา และเปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
และทั้งหมดนี้คือสรุปจากการที่ได้ไปทำข่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟน LG Optimus G Pro รวมไปถึงไปเที่ยวสถานที่รอบๆ และรู้จักเกี่ยวกับบริการด้านไอทีในมาเก๊า ที่แตกต่างจากไทยอย่างไรบ้าง ถ้าเมืองไทยจะพัฒนาให้บริการประชาชนอย่าง Free-wifi ที่ใช้ได้จริง และทั่วถึง รวมทั้งมีบริการที่ชาร์จแบตมือถือเหมือนในมาเก๊าบ้าง ก็คงดีไม่น้อย
ภาพ The Venetian Macau Resort Hotel, Macau
ภาพ Macau Tower