แต่ใช่ว่างานนี้จะมีแต่ Android ด้าน iOS ก็มีขายเช่นกันโดย ที่ 3 ค่ายผู้ให้บริการมือถือ อย่าง AIS dtac และ truemove h ได้จำหน่าย คือ iPhone , iPad4 , iPad Mini มาขายในงานด้วย พร้อมกับแพ็คเกจ 3G + Wifi และของแถมอื่นๆตามโปรโมชั่นที่ประกาศไว้
ส่วนทางด้าน WindowsPhone ปีนี้ จัดทัพมาแรงสุดโดย Nokia ที่ครั้งนี้ Nokia จัดบูธค่อนข้างใหญ่ พร้อมกับโปรโมต Lumia อย่างสุดฤทธิ์ เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้จัดทำโต๊ะชาร์ทมือถือไร้สายมาให้ สาวก Nokia Lumia ได้มาลองชาร์ทกันด้วย ซึ่งนวัตกรรมนี้มีการใช้จริงแล้วในร้านกาแฟประเทศรัสเซีย ซึ่งร้านกาแฟที่ว่านี้ ได้ทำโต๊ะไม้ให้เป็นที่วางมือถือสำหรับชาร์ตมือถือแบบไร้สายโดยเฉพาะ ครั้งนี้โชคดีมากที่คนไทยจะได้สัมผัสการชาร์จมือถืออีกรูปแบบ ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2013 นี้ ส่วนแบรนด์อื่นๆที่มาลุยระบบปฏิบัติการ WindowsPhone 8 ด้วยก็มี HTC ที่ส่ง WindowsPhone8X และ WindowsPhone8S ส่วน Samsung ปีนี้ส่งเจ้าตัว Samsung ATIV S มาจำหน่ายในงานด้วย
ด้าน BlackBerry ยังไม่มีมือถือใหม่นักแต่ได้จัดส่งมือถือ Z10 มือถือจอสัมผัสที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง BlackBerry 10 มาให้ผู้เข้าชมงานได้ลองสัมผัสอย่างใกล้ชิด ซึ่งระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 นี้ จะเริ่มมาในรูปแบบมือถือใหม่ที่จะจำหน่ายภายในปีนี้ ยอมรับว่าการออกแบบของ BlackBerry 10 นี้ ดูน่าใช้กว่าเดิม มีแอพที่รู้จักใน iOS และ Android เพียบ แต่จากการที่ได้ลองสัมผัสแล้ว ยังคงต้องศึกษาวิธีใช้งานการใช้นิ้วใหม่หน่อย เพราะ การออกแบบหน้าตาของ BlackBerry 10 นั้นไม่มีปุ่ม back ไม่มีปุ่มอะไรที่ชัดเจนเลย แต่ที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับการคิดราคาแพคเกจของ Blackberry เพราะถ้าสมาร์ทโฟน BlackBerry 10 ลงสู่ตลาดแล้ว การคิดแพคเกจ BB จะไม่มีอีกต่อไป จะใช้คิดแบบ Data Internet อย่างเดียว เหมือนกับ iOS , Android และ WindowsPhone เลย
ต่อมาบูธที่จัดทัพสเปคแรงจากจีนอย่าง OPPO ได้ส่ง Oppo Find 5 มือถือแรง ขุมพลัง Quadcore และกล้อง 13 ล้านพิกเซล ในราคาไม่เกิน 17000 ซึ่งสามารถลองทดสอบการใช้งานได้ภายในบูธ แต่ถ้าคิดจะซื้อกลับบ้านทันที ต้องผิดหวังหน่อย เพราะ Oppo เปิดแค่จองเครื่องในงานนี้เท่านั้น ไม่สามารถนำเครื่องจริงอย่าง Oppo Find 5 กลับบ้านได้ ต้องยื่นและรอนัดรับเครื่องในช่วงเดือนมีนาคม แต่ก็มีคนจองจำนวนมากอยู่ นับว่ากระแสมาแรงไม่แพ้ในจีนเลยทีเดียว ซึ่งใครที่จองภายในงาน ก็มีของแถมแบบจัดหนักให้ด้วย ซึ่งสามารถรับได้ในช่วงรับเครื่อง OPPO Find 5 ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
อีกแบรนด์อย่าง Infinity (เจ้าของเดียวกันกับแบรนด์มือถืออาม่า) ได้ส่งมือถือสมาร์ทโฟน Android ที่มาพร้อมแบตที่สูงถึง 4160 mAh อย่าง ยักษ์ มาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล CPU แบบ Dual Core ด้วยความจุแบตที่สูงมากขนาดนี้ ทำให้มือถือที่ออกแบบนั้นหนาขึ้นไปด้วย แต่สามารถใช้งาน SmartPhone ได้เต็มที่นาน 2-3- วัน และ Stand By ได้นาน 3-4 วันเลยทีเดียว
มาถึงศึกหนักอย่าง Tablet กันบ้าง ในครั้งนี้นอกเหนือจาก Tablet สเปคสูงๆราคาแพงแล้ว ยังมีแท็บเล็ตราคาถูกขายหลายรุ่นทีเดียว เป็นแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทด้วย รองรับกับแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา
สำหรับผู้ที่ไม่อยากซื้อมือถือหรือแท็บเล็ตเลย หรือผู้ที่ซื้อมือถือใหม่ไปแล้ว แต่อยากให้จอดูใหม่ไม่เป็นรอย ลองไปใช้บริการติดฟิล์มกันรอยกัน ซึ่งครั้งนี้มีผู้ใช้บริการติดฟิล์มกันรอยเป็นจำนวนมากและเปิดหลายบูธหลายโซนด้วย เรียกว่า ใครไปงานมีมือถือแล้ว ต้องติดฟิล์มกันรอยไปเลย นอกจากนี้สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ด้วยก็คือ แบตเตอร์รี่สำรองพกพา ( Power Bank ) ซึ่งมีหลายแบรนด์มาจำหน่ายอย่างคึกคักทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน
ส่วนใครที่จะหาหน่วยความจำอย่าง Flashdrive SD Card และ Extranal Harddisk ทีมงานได้สำรวจราคาแล้ว พบว่าราคา Flashdrive และ Sd-card ราคาถูกลงมากอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะหากต้องการ Flashdrive 16 GB ภายในงาน Mobile Expo แค่มีเงิน 300 ก็สามารถได้ Flashdrive 16 GB แล้ว ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ร้านค้าทั่วไป 8 GB ราคาก็ 300 กว่าบาท และ Extranal Harddisk ก็ราคาถูกลงด้วย เป็นช่วงที่เหมาะมากในการถอย Harddisk ในช่วงนี้ หลังจาก Harddisk แพงมานานในช่วงน้ำท่วมเมื่อ 2 ปีก่อน
งานนี้ไม่ได้มีแค่งานมือถือและแท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์เสริมเท่านั้น ด้านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Hispeed Internet ) อย่าง 3BB และ TOT ( ปีที่ผ่านมา TOT มีโปรโมตแค่ TOT3G แต่ครั้งนี้ได้เปิดบริการ TOT IPTV พร้อมจัดโปรสุดแรงในงาน Mobile Expo ด้วย ) ก็งัดแข่งจัดโปรโมชั่นบริการดูทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต( IPTV ) ดึงดูดลูกค้าติดตั้ง Internet กันยกใหญ่ คาดว่าปีนี้ ISP รายต่างๆจะให้บริการ IPTV มากขึ้น จนเป็นบริการสุดฮิตที่จะเกิดขึ้นในปีนี้สำหรับผู้ที่ใช้ Broadband Internet ตามบ้าน
ปิดท้ายด้วย Gadget สุดฮ็อตที่เด็กๆและสาวๆอยากได้มันมาเลี้ยง ก็คือ Furby งานนี้ก็มีขายของเล่นอย่าง Furby ด้วย โดยโชว์เจ้า Furby มาร้องเพลงและเต้นโชว์บนโต๊ะ มีขายในหลายจุดใน Zone C แต่ราคาไม่นิ่งเลย และขายแพงกว่าราคาปกติที่สำรวจในต่างประเทศ โดยในวันแรกก็ขายในราคา 4900 บาท แต่พอมาได้สอบถามแล้ว ทราบราคาล่าสุดเมื่อ 9 กพ 2556 กลับราคาแพงขึ้น โดยขายในราคา 6500 บาท โดยทางร้านได้ให้สัมภาษณ์ว่า Furby ที่ขายเป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ และความต้องการตุ๊กตา Furby สูงมากๆ จนสินค้าขาดตลาด ดังนั้นใครที่อยากได้ Furby ต้องสำรวจหลายๆร้านหน่อย
และทั้งหมดนี้คือบรรยากาศและสิ่งที่เกิดขึ้นในงาน Thailand Mobile Expo 2013 หากใครต้องการมือถือใหม่อยากชมนวัตกรรมใหม่ๆ ต้องรีบมากันให้ไว วันนี้วันสุดท้ายแล้ว โดยงานจะเริ่มเวลา 10.00น. – 20.00น. โดยประมาณ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์