โอกาสใหม่ เกิดขึ้นบน App Store, Play Store นักพัฒนามีรายได้ จากการเติบโตของ 3G จากการทำแอพแจกฟรี ทำให้เราสามารถสร้างรายได้ได้ในยค 3G 4G Startup สามารถเกิดขึ้นได้จากคนเดียว หรือไม่กี่คน ด้วยความพร้อมและการสนับสนุน Startup ตอนนี้โอเปอเรเตอร์เมืองไทย ทั้ง DTAC, TRUE และ AIS ได้สนับสนุน Startup ไทย โดยจัดการประกวดผลงาน Startup ให้กับคนไทยผ่านโปรเจค DTAC Accelerate, True Incube และ AIS StartUp Weekend งาน “เปิดโลกไอที พลิกสู่ชีวิตที่ดีกว่า ครั้งที่ 2 Gear up to 4G” โดย ไอที 24 ชั่วโมง ครอบครัวข่าว 3 ร่วมกับ สำนักงาน กสทช. , AIS, DTAC, True Move H และ Samsung ได้จัดการบรรยายพิเศษขึ้น ภายใต้หัวข้อ “Tech Startup คนไทยก็ทำได้”
คุณ ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ (ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทโทเทิ่ลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่นจำกัด มหาชน) และ ทีม Fast in Flow ผู้ชนะในโครงการ DTAC Accelerate ที่พึ่งกลับมาจาก Silicon Valley หมาดๆ โดยคุณปกรณ์ได้พูดถึง Startup จากการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบจากสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น โลกเราเปลี่ยน จากความคิดในการริเริ่มในสิ่งใหม่ๆ ตอนนี้คนไทยใช้ Facebook เป็นอันดับหนึ่งของโลก ใช้ Instagram เยอะมาก ดีแทคเชื่อการ Connected บนมือถือ เราสามารถทำทุ่งนาที่กว้างโล่งให้มีตลาดที่ชัดเจน นักพัฒนา สามารถเชื่อมต่อกับระบบโทรคมนาคม เชื่อมต่อกับ App Store ได้ ดีแทคเปิด API ชื่อ sdp ให้พาร์ตเนอร์เข้ามาทำกับดีแทคได้ เป็น API ที่สร้างขึ้นข้างในให้นักพัฒนาต่อยอดได้ เป็นการวาง Infrastructure ให้
ดีแทคเป็นส่วนหนึ่งของเทเลนอร์ กรุ๊ป 12 ประเทศทั่วโลก ดังนั้น ข้อดีของดีแทคคือการมีกลุ่มลูกค้าในกลุ่มของเทเลนอร์ ทำให้เชื่อมโยงกับต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ดีแทคจึงมองการช่วยเหลือ Startup และสร้างตลาดให้กับ Startup ในการขายของได้ ตั้งแต่การขายของในบ้านเราก่อน แล้วขยายไปตลาดต่างประเทศ ดีแทคมองว่า อยากจะช่วยนักพัฒนาไทยไปสู่สากล ทำโครงการ 3 – 4 เดือน มีการสอน การเชิญวิทยากร เห็นได้ชัดว่าคนไทยพึงพอใจกับความสำเร็จและการยอมรับในต่างประเทศ โครงการนี้อยากกระตุ้นให้คนไทยคิดไกลในระดับโลก จึงได้คุยกับคุณกระทิง อยากพานักพัฒนาไทยไปสู่ระดับโลก
นอกจากดีแทคยังมีพันธมิตร Geek on the Plane มาช่วย เพื่อสร้างนักพัฒนาและสร้างตลาดให้กับนักพัฒนา เปิดร้านให้นักพัฒนาขายของ และอยู่เบื้องหลังการขายของ ช่วยเหลือ เปลี่ยนแปลง tranditional economy เป็น digital economy
ดีแทคมี Deezer เป็นธุรกิจที่มีลูกค้าใช้บริการ 5 แสนคน ท่ามกลางกระแสของ MP3 โดนก้อปปี้ สร้างรายได้ให้กับนักร้อง นักดนตรี มี API ให้นักพัฒนาต่อยอดผ่านแอพ เช่น มีเนื้อเพลง ทำแอพเพื่อพูดคุยกับนักร้อง นักดนตรีได้ ตอนนี้หลายๆบริษัทในไทยเชื่อมต่อกับ Deezer ในอนาคตนักพัฒนาสามารถทำอะไรต่อได้เยอะ
อุตสาหกรรมหนังสือก็น่าสนใจ ทำ eco-system ให้ตลาดขายหนังสือดิจิตอล นักพัฒนาทำ e-book ได้มากกว่า PDF ที่น่าเบื่อ เพื่อแปลงเป็นดิจิตอล ในการสร้างรายได้
อีกเรื่องคือการจ่ายเงินเพื่อซื้อแอพ ทำไมต้องซื้อผ่านบัตรเครดิต แล้วคนที่ไม่มีบัตรเครดิตล่ะ? ดีแคคุยกับ Google เกือบครบ 2 ปี ขอเปิดให้บริการตัดบิลลิ่งจ่ายค่าแอพผ่านใบแจ้งค่าใช้บริการดีแทค ทุกคนซื้อแอพได้ โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตในต้นปีหน้า
นอกจากนี้ดีแทคได้พานักพัฒนาทีม Fast in Flow โดยคุณโน้ต พูดถึง Fast in flow ทำให้นักการตลาดเข้าใจผู้บริโภคได้เร็วขึ้น เขามีความฝันในการประสบความสำเร็จ
คุณโน้ตได้หยิบยกคำว่า Startup มาบอกเล่า ว่าเป็นองค์กรที่กำลังมองหาการทำธุรกิจที่ยั่งยืน หรือเป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันสร้างสินค้าขึ้นมา ไม่รู้ว่าเวิร์คไหม ทีมก็เลยลองทำดู ทั้งที่ไม่รู้ว่าเวิร์คหรือเปล่า
ทำไมต้องเป็น ซิลิคอน วัลเลย์ เมืองในรัฐแคลิฟอเนียน อเมริกา โดดเด่นเพราะเป็นเมืองที่มีบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ อยู่ที่นั่น เช่น Microsoft, Instagram, Twitter, Facebook, IBM และอีกหลายบริษัท มี HQ ที่นี่ ดีแทคมองการนำนักพัฒนาไทยไปเปิดหูเปิดตาหาประสบการณ์กับบริษัทระดับโลก
คุณโน้ตมองว่า คนที่ทำ Startup อยากจะทำความฝันของตน ได้ใช้ชีวิตที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ 2 สัปดาห์ มี 20 ทีมมาคุยกับคนจากทั่วโลกผู้เชี่ยวชาญ Startup มาในไทย อย่าง Geek on the plane นักพัฒนา นักบ่มเพาะมาช่วยกัน คัดเลือกเหลือ 10 ทีม จนถึง demo day หาทีมชนะเลิศ
การได้ไปซิลิคอน วัลเล่ย์ มีการร่วมกันคัดเลือกผู้ประกอบการเข้า Black Box connect สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา ให้ความรู้ Workshop เอาผู้ประกอบการณ์มาแชร์ความสำเร็จ สอนตอนกลางวัน กลางคืนออกไปเผชิญกับโลกจริง
คุณโน้ตมองว่า การชนะเลิศโครงการดีแทค และการได้ไปซิลิคอน วัลเล่ย์ อาจไม่ใช่ความสำเร็จซะทีเดียว แต่นักพัฒนาเองได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และอยากที่จะทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง แนะนำว่าถ้ามีไอเดีย ลองเอาไปคุยกับหลายๆคน ว่ามันจะเวิร์คไหม ลงมือทำ อย่ายอมแพ้ และอินเทอร์เน็ต คือโอกาสไม่มีที่สิ้นสุด
ในส่วนของ True Move H กับโครงการบ่มเพาะ Startup ชื่อ True Incube คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้อำนวยการบริหาร ทรู อินคิวบ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้พูดถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เราใกล้ชิดกัน ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น ที่จะทำให้ได้ ทุ่มเทกับความคิดและความฝันให้เป็นจริง ทรูอยากเห็นคนไทยก้าวสู่ระดับโลก โดยฝาก 3 ข้อคือ คนไทยก็ทำได้, True Incube ช่วยคนไทยที่พร้อมให้ประสบความสำเร็จ, ผู้ประกอบการ กล้าที่จะสร้างธุรกิจ
คุณปุณณมาศ เคยเป็น Tech Startup ด้าน Mobile Marketing ที่ประเทศญี่ปุ่น มีบริษัทลงทุน 65 ล้านบาท ทำให้มีแรงบันดาลใจช่วยคนไทยสร้างความสำเร็จ ตลาดบ้านเราพร้อม Facebook User ใหญ่ที่สุด เช็กอินที่สยามพารากอน และสนามบินสุวรรณภูมิ บ้านเรามีโอกาสมหาศาล แต่ทำไม Startup บ้านเรายังสำเร็จแค่ไม่กี่ราย เช่นคุณภาวุธ TARAD.com ขายให้ Rakuten Asiasoft บริษัทเกม
ตอนนี้เราพร้อม แต่ยังขาดการสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลก ขาดผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ คิดในการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ ความพยายามในการแก้ไขปัญหายังขาด ทุนก็ยังขาด ในช่วงเริ่มต้น ธุรกิจใหญ่มีตลาดทุน และธนาคารรองรับ แต่บริษัทเล็กๆ ยังขาดตรงนี้ 5 แสน – 1 ล้านบาท การคิดการตลาดทางธุรกิจ จะเริ่มคุยกับบริษัทใหญ่ๆ เริ่มตรงไหน ยังยาก และขาดบุคลากรที่มีคุณภาพในสายการพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ประกอบการในไทยเพิ่งจบใหม่ อยากทำ Startup พ่อแม่ยังห่วง ความมั่นคง อยากให้ทำงานประจำที่มั่นคงกว่า
True Incube เป็นตัวช่วยผู้ประกอบการไทยเพื่อประสบความสำเร็จ ช่วยบ่มเพาะผู้ประกอบการ บริษัททรูเป็นผู้ถือหุ้น และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมส่งเสริมระบบนิเวศน์ โดยโครงการ True Incube 99 วันเป็น Boot Camp ให้ทำงานภายใต้การสอน การเทรนนิ่ง การคิดโมเดลธุรกิจ ขยายการตลาดด้านเทคนิค ทรูนำทรัพยากรมาช่วย ทำให้กดดันเรื่องเวลา 99 วัน แล้ว demo ให้นักลงทุน มอบ Funding 5 แสน – 1 ล้านบาท และซัพพอร์ตโอกาสทางธุรกิจ กับทรู และเป็นพาร์ตเนอร์อื่นของทรู Geek Academy ช่วยสร้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ สอนไป 2 รอบ 40 ท่าน ทำงานกับบริษัท Startup ที่ทรูลงทุนได้ มี Mentor มาช่วยแนะนำประสบการณ์ในการสร้างธุรกิจ บอกเล่าปัญหาที่เคยเจอในการทำธุรกิจ มี Advisor จากบริษัทชั้นนำมาบอกเล่า มีทีมที่ผ่านการคัดเลือก 6 ทีม ซึ่งหนึ่งใน 6 ทีมอย่าง SellSuki ได้มาบอกเล่าในงานด้วย ทรูมองว่าคนไทยทำได้จริง ทุกคนก็มีโอกาสทำได้ True Incube เป็นตัวช่วยของคุณ
คุณทอม จาก SellSuki มาบอกเล่า การทำงานกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไปแข่งมาหลายรายการ ทำให้เจอโครงการของนักบริหารกับนักพัฒนามาเจอกัน อยากสร้างสิ่งใหม่ๆจึงรวมตัวกัน แต่ละคนแข่งขันมาหลายรายการ ประสบความสำเร็จมากมาย แม้ว่าจะทำให้หลายอย่างตาม requirement ของคนอื่น เลยคิดว่าอยากจะทำอะไรของตนเอง สรุปทุกบริการที่ทำเฟล เพราะมีโปรเจคเยอะ แต่ไม่มีการโฟกัส มีรายจ่ายเยอะ ประสบการณ์ยังเป็นแบบเด็กๆ จนได้เข้าโครงการ True Incube เพราะมีโปรเจคใหม่พอดี ได้โอกาสดีๆมากมาย มีแนวคิดที่ว่า คนไทยยังขาดโอกาส มีศักยภาพ พันธมิตร 500 Startup เข้ามาช่วย ตอนนี้หลายๆคนอยากมาลงทุนในประเทศไทย ได้เรียนรู้เยอะมาก จากฝั่งอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
SellSuki เป็น Chat Commerce เปลี่ยนโลก ขายของบน Facebook คนพูดถึง Social Commerce เยอะมาก แต่ยังไม่ได้รายได้สักที เจาะ Facebook เพราะมีผู้ใช้เยอะที่สุด ขายของผ่าน Facebook Page ในไทย ในต่างประเทศทำ Shopping App บน Facebook แต่ขายไม่ได้เพราะพฤติกรรมคนไม่ได้เข้าเพจ แต่ดูจาก Feed ทำงานช้าและทำงานบนมือถือไม่ได้ SellSuki จึงเกิดขึ้น คนไทยใช้ Chat การได้คุยสร้างความเชื่อใจ กล้าซื้อของ ทำให้ตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้น บางคนแช็ทก่อนซื้อ เว็บไซต์เกิน 80% ต้องมีแช็ท ไม่งั้นขายของไม่ได้ บริการนี้ออกบิลได้ มีราคา มีส่วนลด มีเวลาโอน ลดขึ้นตอนการขายยืนยันการโอนได้ เปลี่ยนรอบการขาย 1 คน จากที่ใช้เวลา 30 นาที เหลือ 1 นาที โดยมี True Money ให้บริการจ่ายเงิน ไม่ต้องโอนเงิน ชำระผ่าน Paypal, Counter Service บัตรเครดิต
E-Commerce มี 2 แบบคือ Formal และ Informal ซึ่งการแช็ท เป็นนวัตกรรมที่คนไทยคิดในการซื้อขายผ่าน Facebook ทีม SellSuki มองความพร้อมของคนไทยและพฤติกรรมคนไทย
คนไทยยังขาดการลงมือทำ มีไอเดีย ต้องกล้าลงมือทำ ทุกคนบ่นเรื่องแท็กซี่ ไม่มีใครทำ สุดท้ายเมืองนอกก็เข้ามาทำ ข้อคิดที่น่าประทับใจจากทีม SellSuki ก็คือ Startup ไม่ใช่เป็นอะไรที่สวยหรู แต่เอาจริงๆแล้ว มันยาก เราจะต้องทำให้ได้ แนะนำ วางแผน ลองทำ ตรวจสอบ (Plan – Do – Check)
มาถึง AIS กับ Startup Weekend คุณ ปรัธนา ลีลพนัง (ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส ส่วนงานบริการดิจิตอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน) ได้พูดถึงการก้าวกระโดดของประเทศไทย ปลายปีที่แล้วมีการให้ใบอนุญาต 3G ใหม่ ในย่านความถี่ 2100MHz ทำให้มีการใช้งาน 3G อย่างเต็มที่ การเติบโตของอุปกรณ์ 3G แต่ละปีจะมีการนำเครื่องมือถือใหม่สู่มือประชาชน 26 ล้านเครื่อง เป็นโอกาสของการใช้ของใหม่ๆ เพราะตลาดบูมขึ้น อุปกรณ์เองก็หลากหลาย ทำแอพ ทำบริการได้ บริษัทเล็กๆก็ไม่ต้องลงทุนได้ Startup ทำแอพได้
AIS มีลูกค้าประมาณ 39 ล้านคน ทั้งตลาดประมาณ 80 ล้านคน ลูกค้า AIS 20 ล้านคนเป็นตลาดเปิด ตลาด Content Provider ของ AIS มีมูลค่า 4 – 5 พันล้านบาท หาบริการใหม่ๆให้ลูกค้าใช้งาน โดยผ่านพันธมิตรเป็น Content Partner ดังนั้น AIS จึงไม่จำกัดเฉพาะ 200 บริษัท ตลาดเปิดจึงได้สร้าง AIS The Startup หาบริษัทย่อยที่มีความสามารถมาเป็นพันธมิตรด้วย 3 business model 1) ร่วมกันทำตลาด พร้อมในการทำการตลาดร่วมกัน เพิ่มโอกาสไปยังฐานลูกค้า AIS 40 ล้านคน 2) พัฒนาเพิ่มเติมร่วมกันเป็นของพิเศษ นำไปสู่ตลาดในการลงทุน พัฒนา 3) บริษัทในกลุ่ม InTouch ลงทุนร่วม ข้อดีคือมีพันธมิตร มีลูกค้า รวม 400 ล้านคน AIS มาหลายบริการที่นำไปสู่ลูกค้า แผนงานของ AIS ตอบสนองคนที่สนใจ หากมีไอเดียและมีความพร้อม สามารถนำเสนอ Pitching กับกลุ่มเครือข่ายได้ 2 เดือน / ครั้ง
ทีม Noonswoon ผู้ชนะจากโครงการ AIS StartUp Weekend 2013 ได้เคยศึกษาในต่างประเทศ มีโอกาสได้คุ้นเคยกับซิลิคอน วัลเล่ย์ เคยทำงานที่ไมโครซอฟต์ กูเกิ้ล ทำแอพ Noonswoon ในการนำเสนอคน 1 คน ให้สนใจ สร้าง connection ใน 24 ชั่วโมง ทุกเที่ยงของวัน Noonswoon มาจาก Noon = ตอนเที่ยง swoon = ใจหวิวๆ เวลาเจอคนที่ประทับใจ พิจารณาจากคนที่มีเพื่อนร่วมกัน เพื่อนของเพื่อนได้ด้วย หากเขา Like ตอบกลับมาก็สานสัมพันธ์ต่อได้ ทำให้เรามีเพื่อนทำงานหลากหลายสาขาอาชีพ
ไอเดียในการทำ Startup คือการแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง ทำแอพเพราะปิ๊งไอเดียความรัก หาคู่ การสมหวังในความรัก จากคนที่ไปไหว้พระตรีมูรติที่เซ็นทรัลเวิร์ด ช่วง 3 ทุ่มครึ่งของวันพฤหัสบดี กลายเป็นบริการ “Noonswoon” Dating App แอพหาคู่ที่ Matching โดยเลือกสาวมาให้เราสานสัมพันธ์วันละคน
คำแนะนำในการทำ Startup ต้องทำจริงๆ ลงมือทำจริงๆ ไม่ใช่ทำแบบพาร์ตไทม์ ทำครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ ต้องทำเมื่อพร้อมจริงๆ Startup ไม่ใช่แค่ Product แต่มันคือธุรกิจ มีทีมงานที่แข็งแกร่ง 3 – 5 คน ผู้พัฒนาเคยได้รับ offer จาก facebook ตั้งแต่ปี 2005 ในช่วงที่ facebook ยังไม่บูมเหมือนตอนนี้ แต่เป็นบทเรียนที่ดี
คนที่ต้องการเงินลงทุนจาก inverster การขอเงินหลักล้าน เป็นเรื่องยาก จะต้องโน้มน้าวอย่างมาก ทำความรู้จัก 4 – 5 เดือน เราต้องรักษาชื่อเสียงให้น่าเชื่อถือในการนำเสนอผลงานอย่างซื่อสัตย์ พันธมิตรก็สำคัญ การเข้า Boot Camp กับ AIS ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ยกตัวอย่าง Ookbee ที่เป็น Startup ที่ประสบความสำเร็จมาให้คำแนะนำ
จากที่ฟังทั้ง 3 โครงการ โอกาสมาจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้นผ่าน 3G และความกล้าในการคิดอะไรใหม่ๆ หรือต่อยอดของคนไทย รวมไปถึงการไปให้ถึงฝัน และทำมันให้ได้