สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ชวนชมฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ (Perseids meteor shower) ในคืนวันที่ 12 สิงหาคม เวลาประมาณ 01:00 -04:00 น. หรือช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 สิงหาคมตามเวลาในประเทศไทย บนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คาดจำนวน 60-100 ดวงต่อชั่วโมง โดยลักษณะของดาวตกมีแสงสว่างมาก สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีสีสันสวยงามและมีจำนวนมาก
ดาวตกเพอร์เซอิดส์เกิดจากเศษฝุ่นละอองที่ดาวหาง สวิฟท์-ทัตเทิล (Swift-Tuttle: ค.ศ. 1862) เหลือทิ้งไว้ในวงโคจร เมื่อโลกโคจรเข้าไปบริเวณนี้ จึงดึงดูดเอาเศษชิ้นส่วนเหล่านี้เข้ามาในชั้นบรรยากาศ ปรากฏเป็นดาวตกจำนวนมากบนท้องฟ้า โดยชื่อของฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ได้มาจาก นักดาราศาสตร์ชาวอิตาเลียน จิโอวานี เชียพาเรลลี (Giovanni V.Schiaparelli) ซึ่งเป็นผู้ที่พบว่าจุดกระจาย(radiant) ของฝนดาวตกนี้อยู่ใกล้กับ กลุ่มดาวเพอร์เซอุส (Perseus) และอยู่ในเส้นทางการโคจรของดาวหาง สวิฟท์-ทัตเทิล
//ภาพซ้าย จิโอวานี เซียพาเรลลี (Giovanni V.Schiaparelli : ภาพจาก www. wikipedia.org ) //
//ภาพขวา โลกโคจรเข้าไปในสายธารของสะเก็ดดาว ซึ่งดาวหาง สวิฟท์- ทอทเทิล ได้เหลือทิ้งไว้ หลังจากที่มาเยือน ระบบสุริยะชั้นใน ซึ่งครั้งล่าสุดที่ดาวหางดวงนี้เข้ามาใกล้คือ ปี ค.ศ. 1992 (ภาพโดย Bob King :http://astrobob.areavoices.com )//
ในปีค.ศ. 1992 เป็นปีที่ดาวหาง สวิฟท์-ทัตเทิล ได้โคจรเข้ามาในระบบสุริยะชั้นในอีกครั้ง ทำให้ จำนวนดาวตกเฉลี่ยที่เกิดขึ้นในฝนดาวตกเพอร์เซอิด ของปี ค.ศ.1993 พุ่งขึ้นสูงเกือบ 500 ดวงต่อชั่วโมง ปัจจุบันฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์มีจำนวนดาวตกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 -100 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งยังเป็นจำนวนที่มาก พอสมควร ประกอบกับการที่เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมาก และมีสีสันสวยงาม ทำให้ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในทวีปยุโรป และอเมริกา ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดปรากฎการณ์นี้ในพื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นฤดูร้อน ปรากฎการณ์ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เกิดขึ้นตั้งแต่ วันที่ 17 กรกฏาคม – 24 สิงหาคม ของทุกปี โดยจำนวนดาวตกในแต่ละคืนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับการรับชมฝนดาวตกนี้ ในไทย แม้ท้องฟ้าส่วนใหญ่ของประเทศไทยจะปกคลุมไปด้วยเมฆฝน แต่ในบางพื้นที่ของ ประเทศอาจมีช่วงเวลาที่ฟ้าเปิด และสามารถที่จะชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกวันแม่ได้ โดยการเฝ้ามองท้องฟ้า บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มดาวเพอร์ซิอุสจะขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป สำหรับในคืนวันที่ 12 สิงหาคม จำนวนดาวตกจะมีมากที่สุดตั้งแต่เวลา 01:00 น. ไปจนถึง 04:00 น. หรือช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 สิงหาคมตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งดาวตกจะปรากฏรอบศูนย์กลางการกระจาย 30-40 องศา โดยจะสามารถมองเห็นเป็นช่วงเวลาสั้นๆ
สิ่งที่ต้องใช้คือสายตาของเราและการเลือกสถานที่ชมฝนดาวตก ที่ไม่มีเมฆฝน และฟ้าต้องมืดพอสมควร นอกจาก ความสว่างยังไม่มากแล้วดวงจันทร์ยังตกลับขอบฟ้าไปตั้งแต่เวลา 22:30 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม ดังนั้นแสงจันทร์ จึงไม่ใช่อุปสรรค์ในการชมฝนดาวตกครั้งนี้
ข้อมูลโดย สิทธิพร เดือนตะคุ เจ้าหน้าที่สารสนเทศและสื่อสารทางดาราศาสตร์