ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (ประธาน กทค.)เปิดเผยว่าที่ประชุม กทค. ได้รับรายงานจากคณะทำงานเพื่อศึกษาการประกอบกิจการดาวเทียมสื่อสาร ไอพีสตาร์ ของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยผลการศึกษาวิเคราะห์เบื้องต้นทั้งในส่วนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายการประกอบกิจการโทรคมนาคมตลอดจนประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องระบุว่าการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อีกทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ยังไม่ได้บอกเลิกเพิกถอนกรณีดาวเทียมไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์ จึงทำให้ดาวเทียมไอพีสตาร์ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงไอซีที และยังบริการตามเงื่อนไขข้อกำหนดของสัญญาดำเนินการภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษา จึงเป็นผลผูกพันโดยตรงตามคำพิพากษาดังกล่าว ที่ประชุมกทค. จึงได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปติดตามผลการดำเนินการจากกระทรวงไอซีที เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ทางด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ด้านกฎหมาย กล่าวว่า ได้มีการแยก คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กับคำพิพากษาของศาลฏีกา ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะคำวินิจฉัยดังกล่าวจะมีผลกับองค์กรต่างกัน ซึ่งจะต้องมาพิจารณาบทบาทของ กสทช. ที่จะเข้ามากำกับดูแลด้วยว่าเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ที่ประชุม กทค. ยังได้รับรายงานผลการพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายและพฤติกาลในการแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กรณีการกำหนดมาตรการรองรับการสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญา เพื่อมิให้กระทบต่อผู้ใช้บริการ และได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับข้อสังเกตของที่ประชุม กทค. ในประเด็นเรื่องฐานอำนาจตามมาตรา 15 วรรค 3 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมการอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz พิจารณาตามกระบวนการ และขั้นตอนของกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติต่อไป
ทางด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. กล่าวว่า กรณีสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 MHz สิ้นสุดลง ข้อกฎหมายบอกเพียงว่าเมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทานต้องคืนคลื่นความถี่มายัง กสทช. และถ้า กสทช. จะจัดสรรคลื่นใหม่ต้องทำด้วยวิธีการประมูล แต่ระหว่างนั้นหาก กสทช. เห็นความจำเป็นต้องจัดสรรคลื่นความถี่ก็จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน