นายอรรถชัย วุฒพันธ์ และนางบัณฑิตา ศิริกอง สองสามีภรรยา ได้เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรม ที่ ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อให้ตรวจบิลค่าโทรรายเดือนจากค่าย truemove H หลังพบบิลช็อกสูงถึง 53,166 บาท เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ผ่านมา
นางบัณฑิตา คุณแม่ของลูกสาววัย 8 ขวบ เล่าว่า ตนกับสามีทำอาชีพเป็นพนักงานโรงงานทอผ้า แห่งหนึ่ง และมีลูกสาว อายุ 8 ขวบ ซึ่งนางได้ให้เบอร์มือถือนี้ ไว้ติดต่อหาแม่ โดยได้สมัครโปรเหมาจ่ายเดือนละ 299 บาท ควบคุมยอดวงเงินไว้ที่เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท พร้อมกับการติดตั้งจานดาวเทียมของ True ด้วย
แต่ปรากฏว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ที่ใช้งาน ไม่เคยได้รับบิลค่าบริการจนถูกตัดสัญญาณ เลยไปที่ศูนย์บริการในสาขาบ้านโป่ง เพื่อสอบถามค่าบริการ พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงเกือบ 50,000 บาท จากการโหวตศิลปิน AF ซีซั่น 12 โดยมีการโหวตรูปแบบ BIG VOTE 100 คะแนน ถึง 123 ครั้ง คะแนนละ 4 บาท คิดเป็นเงินมูลค่าสูงถึง 49,200 บาท
ที่น่าสงสัยคือ แม้ว่ามีการแจ้งยอดควบคุมวงเงินไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน ก็ตาม กลับมียอดเงินส่วนเกินสูงเฉียด 5 หมื่นบาท
ทางด้าน true ได้ชี้แจ้งไปยัง กสทช. ยอมรับระบบไม่สามารถปิดกั้นค่าบิลส่วนเกินได้ และทาง true ยินดีช่วยเหลือครอบครัว โดยเรียกเก็บเพียง 300 กว่าบาท โดยผู้เสียหายไม่ต้องจ่ายส่วนเกินเกือบ 5 หมื่นบาท
จากเหตุการณ์บิลช็อกจากการโหวตรายการโทรทัศน์ครั้งนี้ ทำให้ สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย เพื่อทำหนังสือเตือนประชาชน เรื่องจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือน และให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ปกครอง เรื่องค่าใช้จ่ายในการโหวตผ่านรายการโทรทัศน์ต่างๆด้วย
“สำหรับผู้ปกครองที่ให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือ ผมขอแนะนำว่า ให้แจ้งกับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายนั้นว่า ขอจำกัดยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไว้ไม่เกินเท่าไร เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กในภายหลัง” นายฐากร กล่าว
และจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ยังต้องติดตามต่อไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนโหวตจริงๆของผู้เข้าแข่งขัน AF ที่ถูกโหวตโดยเด็ก 8 ขวบด้วย