เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2556- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวถึง กรณีที่กำหนดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าหรือ พรีเพด (มือถือแบบเติมเงิน) ได้กำหนดเงื่อนไขบังคับการให้บริการ ว่าเติมเงินแล้วต้องไม่มีวันหมดอายุ โดยปัจจุบันพบว่าทั้ง Ais , dtac ,truemove ยังคงกำหนดวันหมดอายุ สำหรับการบริการเติมเงินอยู่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน ข้อ 11 ของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549
แม้ว่าทั้ง 3 บริษัทจะได้ยื่นขอความเห็นชอบกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลักษณะที่เรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าต่อกสทช. แต่เมื่อ กสทช. ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ ทั้ง 3 บริษัทย่อมไม่มีสิทธิกำหนดเงื่อนไขอันมีลักษณะเป็นการบังคับให้ผู้ใช้บริการต้องเติมเงินก่อนกำหนดวันหมดอายุด้วย
และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะและประชาชนผู้ใช้บริการ และเพื่อบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย สำนักงาน กสทช.จึงได้มีหนังสือถึง AIS , Dtac , True ให้ให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายและปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อ 11 ของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 โดยให้แก้ไขปรับปรุงเงื่อนไขการให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ในลักษณะบริการเติมเงิน ให้ไม่มีกำหนดวันหมดอายุ และสั่งปรับ ทั้ง 3 ค่ายผู้ให้บริการมือถือ ในอัตราวันละ 100,000 บาท ต่อสำนักงาน กสทช.ให้ครบถ้วน โดยเริ่มปรับตั้งแต่วันที่ 6 กรกฏาคม 2555 ไปจนกว่าทั้ง 3บริษัทจะปฏิบัติตามประกาศฯข้อ 11 อย่างถูกต้อง หากทั้ง 3 บริษัทยังคงฝ่าฝืน เลขาธิการกสทช. จะอาศัยอำนาจตามมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544พิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองในอัตราที่สูงขึ้นต่อไป
นายฐากร เลขาธิการ กสทช ได้กล่าวย้ำว่า “ปี 2556 นี้เป็นปีแห่งการคุ้มครองผู้บริโภคของ กสทช.ทางสำนักงานจะดำเนินการเรื่องการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมจะเร่งแก้ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคให้เรียบร้อย”