สืบเนื่องจากงานเปิดโลกไอทีพลิกสู่ชีวิตที่กว่าครั้งที่ 2 Gear Up To 4G โดยไอที 24 ชั่วโมงร่วมกับสำนักงานกสทช. Samsung, AIS ,DTAC และ True Move-H ไอที 24 ชั่วโมงก็มีกิจกรรมต่อเนื่องคือการพาผู้โชคดีจากงานทั้งหมด 12 คน เดินทางไปศึกษาดูงานที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ระหว่างที่ 14-18 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเราจะมาสรุปบรรยากาศและสถานที่เราเดินทางไปดังนี้
สถานที่แรกที่เดินทางไปถึงก็คือเกาะนามิ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลีเรื่อง Winter Love Song หรือเพลงรักในสายลมหนาว โดยบรรยากาศในวันนั้นมีความหนาวเย็นมากด้วยอุณหภูมิติดลบ ตลอดเส้นทางบนเกาะเต็มไปด้วยหิมะ ซึ่งสถานที่นี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกัน สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การส่งเสริมด้านวัฒนธรรมของเกาหลี ซึ่งละครที่โด่งดังก็ทำให้สถานที่ถ่ายทำละครโด่งดังตามไปด้วย จนเกิดการทัวร์ตามรอยละครเกาหลีเป็นต้น โดยระหว่างการเดินทางชมเกาะนามิเราก็ได้พบกับคนไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวสถานที่นี้จำนวนมาก ซึ่งตลอดการเดินทางการใช้อินเตอร์เน็ตของคณะเดินทางนั้นสะดวกมาก เราสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการเช่า Pocket Wifi หรือ MIFI ผ่านผู้ให้บริการมือถือในเกาหลีใต้ รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
จากนั้นคณะเดินทางก็เดินทางไปยังภูเขานัมซาน ภูเขาใจกลางเมืองหลวง เพื่อเดินทางไปชมโซลทาวเวอร์หรือหอหอยแห่งความรักและความโรแมนติก หนึ่งใน 17 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก เพื่อชมทัศนียภาพรอบเมืองแบบ 360 องศา โดยลิฟต์ที่ขึ้นมาบนหอคอยนั้นจะเป็นลิฟต์ที่มีความเร็วสูงถึง 4 เมตรต่อวินาที ไฮไลท์สำคัญของสถานที่นี้คือ การคล้องกุญแจคู่รัก ด้วยความเชื่อที่ว่า หากคู่รักได้มาคล้องกุญแจที่นี่ จะทำให้มีความรักยืนยาว วิธีการก็เพียงเขียนข้อความหรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ แล้วก็จะนำแม่กุญแจไปคล้องไว้กับรั้วเหล็ก ส่วนลูกกุญแจ ก็จะโยนทิ้งไปด้านล่าง นอกจากนี้จะสังเกตได้ว่า รถเมล์ที่ขึ้นมายังภูเขานัมซานนี้เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งบริเวณข้างทางก็จะมีจุดเติมไฟฟ้าอีกด้วย
วันที่ 2 ของการเดินทางคณะศึกษาดูงานได้เดินทางไปยัง Samsung D’Light หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีและของโลก ซึ่งก็มีหลากหลายเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เมื่อเข้ามายังชั้นแรก เราจะพบกับเวที Virtual D’light Stage ที่เมื่อไปยืนบนจุดที่เซ็นเซอร์ทำงาน บนจอก็จะแสดงลูกเล่นที่หลากหลาย ให้เรามีส่วนร่วมกับบนจอนี้เช่น ให้คุณเป็น Dancer , Movie Star เป็นต้น ซึ่งในส่วนของชั้นแรกนี้จะเป็นการโชว์อุปกรณ์ต่างๆของซัมซังเช่น ทีวี กล้อง โทรศัพท์เป็นต้น ในส่วนของชั้นที่ 2 จะถูกแบ่งเป็นโซนต่างๆได้แก่ โซน LED Lighting Drums ซึ่งแสดงไฟ LED ที่อยู่ภายในจอโทรทัศน์ โซน Smart Electricity ห้องที่จำลองบ้านที่ควบคุมทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน เช่นตู้เย็น เครื่องซักผ้า ทีวี โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Smart Home เพื่อควบคุมการใช้งาน ต่อมาเป็นโซน Education หรือห้องที่จำลองการเรียนโดยใช้แท็บเล็ต คุณครูสามารถควบคุมการสอน ดูรายชื่อนักเรียน หรือทำแบบทดสอบและวัดผลได้ทั้งหมดผ่านแท็บเล็ต ซึ่ง Samsung ได้สนับสนุนทั้ง Hardware และ Software ให้ใน 31 โรงเรียนในเกาหลีและอีก 27 ประเทศนอกจากนี้ยังมีการโชว์โทรทัศน์ที่สามารถรับชมได้พร้อมกัน 2 คน ผ่านอุปกรณ์แว่นตา ที่เมื่อกดปุ่มก็จะแสดงช่อง 1 ช่อง พร้อมเสียงออกมาจากแว่นให้รับชม หากสามีหรืออยากดูบอล หรือภรรยาอยากดูละครก็สามารถรับชมร่วมกันได้ผ่านทีวีเครื่องเดียว ซึ่งตอนนี้ก็มีวางจำหน่ายแล้วในเกาหลี
จากนั้นเราก็เดินทางไปยังสถาบัน Trinity ที่ฝึกสอนศิลปิน K-Pop เกาหลี ซึ่งวัยรุ่นเกาหลีส่วนใหญ่ก็มีความฝันอยากเป็นศิลปินนักร้อง และทุกคนที่มาศิลปินก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาก่อน การสอนที่นี่จะมีความจริงจัง โดยมีตารางเวลาการฝึกสอนทุกอย่าง ทั้งเต้น ร้องเพลง และแสดงละคร แม้แต่ตารางของอาหารที่ต้องรับประทาน ซึ่งนอกจากครูผู้สอนจะสอนในด้านทักษะต่างๆแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณครูเน้นคือการสอนให้เป็นคนดี ประพฤติดี แสดงให้เห็นว่าการจะเป็นศิลปินได้นั้น เก่งอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมีความดีควบคู่ด้วย
สถานที่สุดท้ายในวันนี้ที่คณะเดินทางได้มาสนุกกันก็คือ Trick Eye Art Museum พิพิธภัณฑ์ภาพวาดลวงตาสามมิติ ซึ่งคณะศึกษาดูงานได้สนุกกับการถ่ายภาพแอ็คชั่นต่างๆ กับภาพแนวมิติที่ใช้เทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้าง
วันที่ 3 เราเดินทางไปยัง SK TELECOM บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ซึ่งบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่นี่ส่วนมากจะให้บริการหลายอย่างมากกว่าแค่บริการโทรศัพท์มือถือ เราได้รับชมชีวิตในอนาคตที่เมื่อทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านเน็ตเวิร์คที่มีความเร็วสูงอย่างเช่น U-Media U.Home U-Entertainment U.Media U.Driving U Shopping ทุกอย่างเชื่อมต่อผ่าน Cloud และยังได้เรียนรู้เทคโนโลยี 4G LTE-Advance ที่เกาหลีได้เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีความเร็วสูง สามารถโหลดหนังได้ภายใน 43 วินาที ซึ่ง SK เป็นบริษัทแรกในโลกที่ให้บริการ นอกจากนี้ในวันนั้นเรายังได้รายงานสดออกอากาศจาก SK Telecom ตรงไปยังประเทศไทยในรายการไอที 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ 4G อีกด้วย
ในวันสุดท้าย เราได้เดินทางไปยัง Studio Gale ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตการ์ตูนอนิเมชั่นของเกาหลีชื่อดังอย่างเรื่อง Pororo ซึ่งตอนนี้ออกฉายไปใน 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเราได้เรียนรู้และทราบถึงประวัติความเป็นมาของบริษัทที่เริ่มต้นจากทีมงานไม่ถึง 10 คน ผ่านช่วงเวลาล้มลุกคลุกคลาน จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีและบริษัทอื่นๆ จนในเวลานี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ากว่า 16.5 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เรายังได้เห็นสถานที่ที่ใช้ผลิตการ์ตูนจริงตั้งแต่การเริ่มต้นวางพล็อต เขียนรูป สร้างภาพเป็น 3 มิติ ลงสีแสงต่างๆ และผลิตออกมาเป็นการตูนจริงๆ ซึ่งกว่าจะได้ในแต่ละช็อตนั้นไม่ง่ายเลย
การมาศึกษาดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเราได้มาเห็นหลายมุมของประเทศที่มีการวางแผนและยุทธศาสตร์การส่งเสริมด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีจนขึ้นมาเป็นประเทศแนวหน้าของโลก และยังได้มาเรียนรู้เห็นเทคโนโลยีรวมทั้งนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเกิดมุมมองให้นำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตและพัฒนาประเทศของเราต่อไป
และในการเดินทางครั้งนี้ต้องขอขอบคุณครอบครัวข่าว 3 สำนักงานกสทช. Samsung AIS DTAC และ True Move H ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้และการจัดงานเปิดโลกไอทีพลิกสู่ชีวิตที่ดีกว่าครั้งที่ 2 เกิดขึ้นได้ และขอขอบคุณบริการและการดูแลที่ดีจากคุณบิ๊ก บริษัท World Wide by Big (02-2607955) รายละเอียดของการเดินทางไปศึกษาดูงานครั้งนี้ติดตามได้ในรายการไอที 24 ชั่วโมง ออกอากาศทางช่อง 3 ในเที่ยงวันทันเหตุการณ์ อังคารและพฤหัสบดี
*** ชมภาพบรรยากาศเพิ่มเติมอีกมากได้ที่ อัลบัมภาพ Korea Trip ***
(และตลอดทริปนี้ เรามี internet ใช้กันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย pocket wi-fi 4G ที่เช่าได้ที่สนามบิน ใช้ได้ดีและมีประโยชน์มากๆ คุ้มสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ internet ในปริมาณมากๆที่เกาหลี คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียด)