วันนี้ 26 ธันวาคม 2556 เป็นวันประมูลทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นการประมูลครั้งสำคัญในวงการโทรทัศน์ โดยได้จัดสถานที่ประมูล ณ อาคาร CAT Tower บางรัก โดยวันนี้ เป็นวันแรกของการจัดประมูลฯ จะมีการจัดการประมูลเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบแรกเป็นการจัดประมูลในหมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดสูง (ทั่วไป HD) จำนวน 7 ใบอนุญาต ระหว่างเวลา 08.00-12.00 น.
โดยการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ แบบ HD 7 ใบอนุญาต ได้กำหนดราคาขั้นต่ำและราคาเริ่มต้นการประมูลไว้ที่ 1,510 ล้านบาท เคาะราคา ครั้งละ 10 ล้านบาท ส่วนการประมูลในหมวดหมู่ทั่วไป SD จำนวน 7 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้นการประมูล 380 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มครั้งละ 5 ล้านบาท โดยการประมูลในแต่ละหมวดหมู่มีระยะเวลาการประมูล 60 นาที และเมื่อเริ่มการประมูล ผู้เข้าร่วมการประมูลจะต้องเสนอราคาครั้งแรกภายใน 5 นาทีแรกของเวลาการประมูล ไม่เช่นนั้น จะถือว่าไม่มีเจตนาเข้าร่วมการประมูล จะถูกตัดสิทธิการเป็นผู้ร่วมการประมูล และจะถูกริบหลักประกันการประมูล กรณีที่ครบ 60 นาทีแล้ว มีจำนวนผู้มีสิทธิชนะการประมูลเกินกว่าจำนวนใบอนุญาต จะทำการขยายเวลาครั้งละ 5 นาที เมื่อได้มีผู้มีสิทธิเป็นผู้ชนะการประมูลเท่ากับจำนวนใบอนุญาตก็จะเป็นสิ้นสุดการประมูลฯ ระบบจะยุติการประมูล ถ้ากรณีได้ทำการขยายเวลาแล้ว และไม่มีผู้เสนอราคาเพิ่มจึงทำให้ผู้มีสิทธิชนะการประมูลมากกว่าจำนวนใบอนุญาต ก็จะให้ผู้มีสิทธิชนะการประมูลที่เสนอราคาเท่ากันในอันดับสุดท้ายจับสลากเพื่อหาผู้ชนะการประมูล
โดยบรรยากาศการประมูลรอบเช้า เริ่มต้นด้วยการจับสลาก เพื่อเลือกห้องและซองบรรจุ USERNAME และ PASSWORD ก่อน ผลการจับฉลากปรากฎว่า แกรมมี่ ได้หมายเลขแรก ตามด้วยอมรินทร์ ไทยรัฐ PM GROUP WORKPOINT ช่อง7 บางกอก มีเดีย ช่อง3 และ อสมท. โดยการประมูล เริ่ม 11 โมง และจะเสร็จสิ้นการประมูลในเวลาเที่ยงตรง
หลังจากเสร็จสิ้นการประมูลเมื่อเวลา 12.00น. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้เผยผลผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิตอล หมวดทั่วไป HD 7 บริษัท ซึ่งมีรายชื่อดังนี้
1. ช่อง3 (3,530 ล้านบาท ), 2. บางกอก มีเดีย (3,460 ล้านบาท ), 3. ช่อง 7 (3,370 ล้านบาท ) , 4. ไทยรัฐ ( 3,360 ล้านบาท), 5. อสมท (3,340 ล้านบาท) , 6 ร่วม. ได้แก่ อัมรินทร์ , แกรมมี่ (3,320 ล้านบาท)
จากผลการประมูลช่อง HD นี้ เนื่ช่อง 3 ชนะประมูลด้วยการเคาะราคาสูงสุดเป็นอันดับ 1 ดังนั้นขั้นตอนต่อไป ช่อง 3 จะได้เลือกเบอร์ช่องก่อน ซึ่งหมายเลขช่องในหมวด HD ที่ให้เลือกบริษัทละ 1 ช่อง ระหว่างหมายเลข 30-36 โดยจะมีการเลือกเบอร์ช่องหลัง 6 มกราคม 57 นี้ และผู้ชนะการประมูล จะได้รับหนังสือแจ้งการเป็นผู้ชนะการประมูล แล้วผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาต ให้ครบถ้วนภายใน 45 วัน ประกอบด้วย การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 1 จำนวนร้อยละ 50 ของราคาขั้นต่ำ พร้อมวางหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินสำหรับค่าธรรมเนียมงวดที่ 2 (ภายใน 30 วันนับแต่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล) ดำเนินการขอใช้โครงข่ายโทรทัศน์กับผู้ให้บริการโครงข่ายฯภายใน 30 วัน และดำเนินการตามประกาศ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกรอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ภายใน 45 วันนับแต่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล
จากนั้น เมื่อผู้ชนะการประมูลปฏิบัติตามเงื่อนไข คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จะออกใบอนุญาต ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติให้ โดยใบอนุญาตทีวีดิจิตอลนี้ มีอายุ 15 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุญาต
ส่วนการประมูลในช่วงบ่าย จะเป็นการประมูลทีวีดิจิตอล แบบความคมชัดปกติ (ทั่วไป SD) จำนวน 7 ใบ โดยจะเริ่มการประมูลเวลา 16.30 น. และสิ้นสุดการประมูลเวลา 17.30 น.