มาถึงรายการประมูลทีวีดิจิตอลรายการสุดท้าย แล้ว คือ หมวดรายการเด็ก ซึ่งจะหาผู้ชนะเพียง 3 ราย จากผู้เข้าประมูลทั้งหมด 6 ราย โดยราคาเริ่มต้นการประมูลอยู่ที่ 140 ล้านบาท และเพิ่่มราคาประมูลโดยเคาะราคาครั้งละ 2 ล้านบาท กำหนดการประมูลในเวลา 16.00-17.00น.
บริษัทที่เข้าร่วมประมูล หมวดรายการเด็ก 6 บริษัทได้แก่ 1. โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Rose) , 2. บริษัท ไทยทีวี จำกัด (TVPOOL) , 3.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (Modernine TV) , บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3 ) , 5. เนชั่น คิดส์ และ 6. บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด (TRUE)
สรุปผลผู้ชนะการประมูล ทีวีดิจิตอล หมวดรายการเด็ก ซึ่งจะได้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลนี้ เพียง 3 ราย ได้แก่ 1. ช่อง 3 (666 ล้านบาท) , 2. ช่อง 9 (660 ล้านบาท ) และ 3. TV Pool (648 ล้านบาท) รวมมูลค่าผู้ชนะหมวดรายการเด็กทั้ง 3 ราย 1974 ล้านบาท
หลังจากจบการประมูลทีวีดิจิตอล ตลอดทั้ง 2 วัน เป็นที่เรียบร้อย ได้มูลค่าประมูลจากผู้ชนะประมูลทั้ง 4 หมวด รวมทั้งสิ้น 50,862 ล้านบาท
พ.อ. ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จะพิจารณารับรองรายชื่อผู้ชนะการประมูลภายใน 15 วัน โดยหลังได้รับหนังสือแจ้งการเป็นผู้ชนะการประมูล ผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาต ให้ครบถ้วนภายใน 45 วันจึงจะได้รับใบอนุญาต ซึ่งเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาตประกอบด้วย การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 1 จำนวนร้อยละ 50 ของราคาขั้นต่ำ พร้อมวางหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินสำหรับค่าธรรมเนียมงวดที่ 2 (ภายใน 30 วันนับแต่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล) ดำเนินการขอใช้โครงข่ายโทรทัศน์กับผู้ให้บริการโครงข่ายฯภายใน 30 วัน และดำเนินการตามประกาศ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกรอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ภายใน 45 วันนับแต่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล
เมื่อผู้ชนะการประมูลปฏิบัติตามเงื่อนไขการประมูลครบถ้วนแล้ว คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติให้ โดยใบอนุญาตนี้มีอายุ 15 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุญาต