เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มกราคม 2556 AIS ได้จัดงานแถลงข่าวแสดงวิสัยทัศน์ประจำปี ( AIS VISION 2013 MOVING FORWARD ) ซึ่งจะเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการและเผยเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเกิดขึ้นในไทยภายในปี 2556 โดยไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวบริการ AIS 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz หลังจากที่ AIS ได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ จาก กสทช รวมทั้ง เปิดตัวบริการใหม่ที่เป็นการพลิกโฉมการใช้ชีวิตบนโลกเทคโนโลยี โดยในช่วงแรกนายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ AIS ได้สรุปสิ่งที่เป็นมาในอดีตเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ซึ่งภายในภาพนี้ มีเหตุการณ์สำคัญในอดีตสั้นๆ 5 อย่างคือ
- ปี 1994 เปลี่ยนระบบโทรศัพท์มือถือจากเดิมเป็น อานาลอค ( Analog ) สู่ระบบดิจิตอล (Digital) โดยใช้แพลตฟอร์มของ GSM
- ปี 1999 ปลดล็อคอีมี่ออกจากมือถือทั้งหมดในประเทศ ทำให้เบอร์โทรศัพท์ และเครื่องมือถือ แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
- ปี 2001 เริ่มให้บริการโทรศัพท์ระบบเติมเงินเป็นครั้งแรก (Prepaid)
- ปี 2005 สมาร์ทโฟนเริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทย
- ปัจจุบัน มีเบอร์มือถือมากถึง 81 ล้านเลขหมาย ซึ่งจำนวนเบอร์โทรศัพท์มือถือ กลับมีมากกว่าจำนวนประชากรในไทย
และมีสถิติที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เช่น
- ยอดดาวน์โหลดเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ มากกว่า 20 ล้านเพลงต่อปี
- มีการส่งข่าวสาร 24 ล้านชื้น ต่อวัน
- จำหน่ายหนังสือแบบ E-Book มากกว่า 2 แสนเล่มต่อเดือน
ประโยชน์ที่ได้รับของประชาชน หลังจากให้บริการด้านโทรคมนาคม โดยเฉพาะเทคโนโลยี 3G นี้ จะทำให้เกิดขีดความสามารถการส่งข้อมูลผ่านมือถือด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดเนื้อหา content ต่างๆ สามารถเปลี่ยนมาเป็น Digital Content ที่หลากหลายไม่มีที่สิ้นสุด อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์บนมือถือ และงานด้านธุรกิจ โดยเฉพาะ ไอซีที จะขยายตัวมากขึ้น สำหรับสิ่งที่เปิดตัวภายในงานนั้น ได้มีการเปิดตัว AIS 3G บนความถี่ 2.1 GHz พร้อมทั้งทดสอบ 3G เป็นครั้งแรก โดยทดสอบทั้ง SpeedTest และการใช้งานการสื่อสารเห็นหน้าผ่านทาง FaceTime โดย พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. และ พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. (ประธาน กทค. ) ได้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ ผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “AIS จะให้บริการ 3G ครอบคลุมจังหวัดหลักๆให้ได้ 50% ของประชากร ภายในครึ่งปีแรก และ จะครอบคลุม 80% ภายในครึ่งปีหลัง (ส่วนใหญ่จะเป็นเขตเมืองของทั้ง77จังหวัด)” นอกจากนี้ AIS ได้เปิดตัวบริการหลายอย่างแต่มีบริการที่เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจและค่อนข้างใหม่มากสำหรับชีวิตไอที เช่น บริการ AIS My Cloud บริการพื้นที่เก็บข้อมูล โดยบริการนี้สามารถใช้ร่วมกับมือถือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการหลักๆอย่าง IOS , Android , Symbian , Blackberry รวมทั้ง WindowsPhone 8 ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยแอพ My Cloud นี้จะเชื่อมกับเบอร์โทรศัพท์ AIS สามารถ Sync ทั้งรายชื่อโทรศัพท์ รองรับสำหรับการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือโยสามารถดึงรายชื่อจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเกาลงในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ได้ทันที เอกสาร รูปภาพ รวมไปถึงตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ และมีแอพบริการตามหามือถือหาย และฝังแอพติดตามโจรที่ขโมยมือถือด้วย โดยจะเริ่มให้บริการบน IOS และ Android วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้
ในด้านการชำระซื้อสินค้า ทั้งออนไลน์ และร้านค้าต่างๆผ่านทางโทรศัพท์มือถือ งานนี้ได้เผยนวัตกรรมใหม่ถึง 2 อย่างที่น่าจับตามองคือ AIS mPay Master Card เป็นแอพพลิเคชั่น ที่ให้บริการแบบ Virtual Card (บัตรเสมือน) ใช้ในการซื้อแอพ หรือ Shopping Online เปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2013 นี้ บน iPhone และ มือถือระบบปฏิบัติการ Android
และแล้วเทคโนโลยีที่หลายท่านรอคอยและกำลังจะได้ใช้ในไทยภายในปีนี้ คือ NFC เมื่อ AIS จับมือกับ BTS ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าและบัตร Rabbit ให้มือถือที่รองรับเทคโนโลยี NFC สามารถแตะชำระสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ RABBIT รวมทั้งสามารถใช้โดยสารผ่านทางรถไฟฟ้า BTS และรถโดยสาร BRT ได้ด้วย เริ่มให้บริการภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยต้องใช้ซิมใหม่ กับโทรศัพท์มือถือ ที่รองรับเทคโนโลยี NFC
(จากที่ทีมงานไอที 24 ชั่วโมงได้สอบถามกับทีมงานของ rabbit ก็ได้คำตอบมาว่า ต้องใช้ซิมใหม่โดยซิมนี้ที่สามารถทำงานคู่กับ NFC โดยเฉพาะ และบัตรRabbit ใน NFC นั้นก็ต้องสมัคร RABBIT ใหม่ ยังไม่สามารถใช้กับบัตร RABBIT ที่เราถือใช้ในปัจจุบันมาอยู่ในมือถือได้ )
NFC คืออะไร และใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ดูได้ที่ รู้จักกับเทคโนโลยี NFC ในมือถือรุ่นใหม่หลายรุ่น และวิธีการใช้งานให้เป็นประโยชน์
นอกจากนี้ ภายในงาน ทีมงานไอที24 ชั่วโมงได้ถามกับคุณวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เกี่ยวกับกรณี กสทช. สั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ยกเลิกกำหนดวันหมดอายุของบริการโทรศัพท์มือถือเติมเงิน ( Prepaid ) ซึ่งจะมีผลวันนี้ ( 18 มกราคม 2556 ) ว่า มีความพร้อมแค่ไหน ? นายวิเชียรกล่าวตอบว่า “ มีความพร้อม มีแพคเกจ Offer ให้อยู่แล้ว วันที่ 18 มกราคมมีผลทันที โดยมีแพคเกจที่ไม่มีวันหมดอายุด้วย โดยเป็นไปตามข้อที่บริษัทกำหนด ” โดยสรุปแล้ว ภายในปีนี้คนไทยจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 3G ความถี่ 2.1 GHz และ แอพพลิเคชั่นแบบใหม่ รูปแบบ Cloud , Mobile Payment และเทคโนโลยี NFC ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทยภายในปี 2556 นี้