เนื่องจากปัจจุบันนี้เครือข่ายและการใช้งานอินเทอร์เน็ตยังคงโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการใช้มากขึ้น ส่งผลให้หมายเลขอินเทอร์เน็ต (IP Address) ที่ใช้งานหลักในปัจจุบันคือ IPv4 address ไม่เพียงพอและกำลังจะหมดลงจริงๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (Next Generation Internet หรือ IPv6) เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งวิธีแก้ทางเดียวคือ เปลี่ยนสู่การใช้งาน IPv6 เท่านั้น
ปัญหาหมายเลขอินเตอร์เน็ต หรือ IP Address หรือที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต เช่น 192.168.1.1 ที่ใช้ในการอ้างอิงเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆบนอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ในแบบ IPv4 ที่เราใช้กันอยู่มากว่า 30 ปีนี้ กำลังจะถูกนำไปใช้ไปจนหมด โดยแต่ละทวีปได้รับการแจกจ่ายไปเท่าๆกัน คือทวีปละ 16 ล้านแอดเดรส
ทางแก้ปัญหาคือหน่วยงานผู้รับผิดชอบได้สร้าง IPv6 ขึ้นมารองรับไว้นานแล้ว ซึ่งตัวเลขแอดเดรสจะมีถึง 128 บิต มากกว่า IPv4 ซึ่งมีแอดเดรส แค่ 32 บิต มาใช้แทนต่อไป พอเปลี่ยนแล้ว ก็จะมีจำนวน iP Address เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เหมือนเมื่อก่อนที่เรามีหมายเลขโทรศัพท์มือถือแค่ 9 หลัก ก็คิดว่าพอ แต่พอผู้ใช้มากเข้า 9 หลักก็เริ่มจะไม่พอเสียแล้ว จนต้องเพิ่มเป็น 10 หลักเพื่อให้เกิดหมายเลขทีไม่ซ้ำกันได้เพิ่มมากขึ้น
การเข้าสู่ IPv6 นี้นับเป็นการ upgrade อินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า ๓๐ ปี การวางแผนเพื่อการย้ายและการใช้งาน IPv6เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญต่อการขยายตัวอย่างมั่นคงของอินเทอร์เน็ตต่อวงการICT ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะต่อผู้ใช้งานในสำนักหรือระดับองค์กรเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ใช้งานส่วนบุคคลด้วย โดยวิศวกรอินเทอร์เน็ตคาดการณ์ไว้ว่า IPv6 จะรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อีก ๕๐ ปีข้างหน้า
การวางแผนเพื่อเตรียมตัวและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อการใช้งาน IPv6
ตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ ๒) ของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๖ ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารและบริการของภาครัฐ มาตรการ ๔.๑ สร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบการผลักดันการใช้ ICT ในการบริหาร และบริการของภาครัฐ รวมถึงการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐแบบบูรณาการ โดยกำหนดกรอบนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลและการสื่อสารข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงกำหนดกรอบนโยบายและแผนการดำเนินงานเพื่อให้โครงข่ายภาครัฐสามารถรองรับการใช้งานและให้บริการอินเทอร์เน็ตโปรโทคอลรุ่น ๖ หรือ IPv6 ภายในปี ๒๕๕๕ ประกอบกับรัฐบาลได้กำหนดนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบริการบรอดแบนด์ อันถือเป็นบริการที่มีความสำคัญเทียบเท่าบริการที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชนให้ทั่วถึง เพียงพอ ในราคาที่เหมาะสม ภายใต้การแข่งขันเสรีและเป็นธรรมพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมประชากร ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ภายในปี ๒๕๕๘ และไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๙๕ ภายในปี ๒๕๖๓ ทั้งยังมีนโยบายสนับสนุนการใช้อินเทอร์เน็ต เช่น นโยบาย Free WiFi นโยบาย One Tablet Per Child และการสนับสนุนให้เกิด 3G และ LTE เป็นต้น
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ร่วมกับสมาคมไอพีวี ๖ ประเทศไทย และผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารโทรคมนาคมต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อรับมือกับปัญหา IP Address ไม่พอนี้ โดยแบ่งเป็น ๒ ระยะ คือ
ระยะที่ ๑ ระยะเตรียมการ (พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕) ดำเนินการประเมินความพร้อมของเครือข่าย สร้างเครือข่ายการทดสอบ IPv6 ของประเทศ ดำเนินการทดสอบ IPv6 และดำเนินฝึกอบรมแก่บุคลากรและผู้ให้บริการการสื่อสารอินเทอร์เน็ทในประเทศไทยประกาศแผนปฏิบัติการ IPv6 ซึ่งยึดตามแผนการปฏิบัติการ IPv6 ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ระยะที่ ๒ ระยะดำเนินการ (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘) จะดำเนินการเปลี่ยนถ่ายจากเครือข่าย IPv4 ไปเครือข่ายที่สนับสนุนได้ทั้งIPv4 และ IPv6 ในเครือข่ายและบริการภาครัฐ และดำเนินการให้เครือข่าย IPv6เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และจัดให้มีการทดสอบบริการอิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่าย IPv6 เพื่อให้แน่ใจว่าอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมีมาตรฐานและความมั่นคง นอกจากนี้ยังร่วมผลักดันและสนับสนุนภาคเอกชนให้มีการดำเนินการที่สอดคล้องกับแผนดังกล่าวด้วย
จากการทดสอบในงาน World IPv6 Day เมื่อปีก่อน ซึ่งได้รับได้ความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนมีความตระหนักในปัญหาการขาดแคลนหมายเลข IP โดยผู้ร่วมงานครั้งนั้นได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจไว้ ดังนี้
- หน่วยงานส่วนใหญ่พร้อมที่จะเข้าใช้งาน IPv6 แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาถึง ๓ ปี เนื่องจากอุปสรรคในด้าน ความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และโปรแกรมประยุกต์ใช้งาน
- อุปสรรคที่สำคัญในการใช้งาน IPv6 ที่มีหน่วยงานมากถึงร้อยละ ๗๐ คือ “ความพร้อมของโปรแกรมประยุกต์ใช้งาน” ที่กังวลว่าอาจจะไม่รองรับการทำงานบนเครือข่าย IPv6
ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ นี้ จะมีโครงการสำคัญที่หน่วยงานไอทีทั่วโลกพร้อมใจกันเตรียมทดสอบครั้งใหญ่ คือทดสอบการใช้งาน IPv4 และ IPv6 ร่วมกันอีกครั้ง World IPv6 Launch http://www.worldipv6launch.org ในวันนั้น ทั้ง Google, Facebook, Yahoo และผู้ให้บริการรายอื่น ๆ รวมทั้งผู้ค้าอุปกรณ์และองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกจะเข้าร่วมการทดสอบใช้งานจริง
และการทดสอบครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา คือ ผู้ให้บริการรายใหญ่ (เช่น Google, Akamai) จะเปิดให้มีการใช้งาน IPv6 อย่างถาวรด้วย
ส่วนประเทศไทยนั้น รัฐบาลจะนำบริการภาครัฐเข้าร่วมทดสอบความพร้อมในช่วงวัน World IPv6 Launch ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ โดยมีหน่วยงานจำนวน ๒๙ หน่วยงานมาร่วมทดสอบ และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้ประสานงาน ติดตามความก้าวหน้าและรายละเอียดได้ที่ http://www.ipv6.ega.or.th/ นอกจากนี้หลังวันเริ่มทดสอบ World IPv6 Launch 2012 นี่แล้ว ก็จะมีงาน Thailand IPv6 Conference Day 2012 ในวันที่ ๒๖ มิถุนายนนี้ด้วย เพื่อนำผลและประสบการณ์ในการทดสอบดังกล่าวทั้งจากภาครัฐและเอกชน มานำเสนอและแลกเปลี่ยนร่วมกัน