ในปัจจุบัน ทั่วโลกที่สนับสนุนการกฎการแข่งขันทางธุรกิจที่เป็นธรรม แม้ทางภาครัฐและเอกชนจะให้ความสำคัญการแข่งขันทางธุรกิจที่เป็นธรรมแล้ว แต่ว่าสถิติทั้งผู้ผลิตและโรงงานทั่วโลกมีมากถึง 42% ในการใช้ไอทีที่ละเมิดอยู่ และในช่วงนี้ สภาพเศรษฐกิจในประเทศอเมริกาค่อนข้างสั่นคลอน เพราะมีความกังวล ทำอย่างไรให้รายได้ของประเทศ ไม่กระจายไปยังผู้ผลิตในยังต่างประเทศ ทำอย่างไรให้รายได้ของประเทศอยู่ภายในประเทศของเค้าเอง
จึงเป็นที่มาของกฎหมาย UCA The US Unfair Competition Act หรือ กฎหมายป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของสหรัฐอเมริกาในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในการที่จะส่งออก ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาโดย ผู้ผลิตจะต้องทำสัญญาไอทีให้ถูกต้องตามกฎหมาย
หลายคนอาจเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ “กฎหมาย UCA” นี้ด้วยซ้ำ ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ก็มีการจัดการสัมนาเกี่ยวกับกฏหมายนี้ และการแข่งขัน การปรับตัวของผู้ส่งออกไทย……กฏหมาย UCA นี้คือกฏหมายป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เพราะบางบริษัทสามารถมีต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ถูกกว่าบริษัทอื่นๆได้ เพราะใช้ไอทีที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้ได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่ขาวสะอาด ดังนั้น กฏหมายนี้จึงกำหนดให้ผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาต้องใช้แต่เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งซอฟแวร์หรือฮาร์ดแวร์ ของแท้ ในการดำเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และยังกำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้าในอเมริกาซื้อแต่สินค้าที่ผลิตจากผู้ผลิต หรือผู้จัดหาวัถุดิบที่ปฏิบัติตามกฏหมายนี้เท่านั้น มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง ถูกเรียกร้องค่าเสียหายในข้อหาแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม
ฟังดูอาจยังไม่ชัดเจนว่า กฏหมายอเมริกา แล้วจะเกี่ยวกับไทยยังไง? หากตรวจพบว่า บริษัทใดๆที่เป็นผู้ผลิต ผู้จัดหาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ที่มีการจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา มีการใช้ไอทีที่ละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าของบริษัทนั้นๆอาจถูกยึด หรือถูกปลดออกจากชั้นวางได้ และจะยังโดนกีดกัน หรืออาจถูกฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่แข่งที่เค้าทำถูกต้องได้อีกด้วย ตัวแทนจำหน่ายที่รับสินค้ามาจากบริษัทที่ใช้ไอทีละเมิดก็จะโดนฟ้องได้ด้วยเช่นกัน
และไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐเท่านั้น หากบริษัท A รับชิ้นส่วนมาจากบริษัท B ที่ใช้ S/W เถื่อนในการผลิตชิ้นส่วน แม้บริษัท A ไม่ได้ใช้ IT ที่ผิดกฎหมาย แต่บริษัท A ถือเป็นบุคคลที่สามตามกฎหมายนี้ และอาจถูกดำเนินคดีได้อยู่ดี…..
การที่กฏหมายนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการจำนวนมาก ยังไม่ทราบ ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าไทยก็เริ่มมีการแนะนำกับสมาชิกบ้างแล้ว ด้านผู้ประกอบการก็ต้องเริ่มปรับตัว เปลี่ยนมาใช้ของแท้ ….และก่อนจะรับสินค้ามาจากใคร ก็ตรวจสอบให้ดี หรือร้องขอ certificate ว่าเค้าใช้ไอทีที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อปลอดภัยไว้ก่อน ป้องกันการถูกฟ้องไปด้วย….
ดังนั้นผู้ผลิตที่อยู่ในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับกฎหมาย UCA นี้ เพราะทางสหรัฐ หรือประเทศที่เข้าร่วมกฎหมาย UCA เค้าจะตรวจสอบในเรื่องการใช้ไอทีภายในบริษัทเรา
สาเหตุที่ออกกฎหมาย UCA นี้ เพราะพวกไอทีละเมิดลิขสิทธิ์ ใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าบริษัทที่ใช้ไอทีถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ผู้ใช้ไอทีที่ถูกต้องเสียเปรียบทางการค้า จึงเป็นที่มาของการใช้กฎหมาย UCA นี้ขึ้นมา เพื่อปกป้องผู้ใช้ไอทีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายนี้กระทบต่อผู้ผลิตทั้งหมด และกระบวนการผลิต ไม่เฉพาะแค่ในส่วนการผลิตเท่านั้น ยังรวมถึงการบริหารในการผลิตด้วย เช่น การขนส่งสินค้า บัญชีรายการสินค้า การคำนวณสินค้า ก็เข้าข่ายกฎหมาย UCA นี้ด้วยเช่นกัน
หากถูกดำเนินคดี จะได้รับบทลงโทษ ทั้งถูกเรียกค่าเสียหาย (ทั้งค่าเสียหายตามจริง , ค่าเสียหายตามกฎหมาย , และค่าเสียหายจากบุคคลที่3 ที่บุคคลขายหรือเสนอขายใช้ ไอทีละเมิดลิขสิทธิ์ หรือใช้ไอทีละเมิดลิขสิทธิ์ในการประกอบการผลิตสินค้าและส่งออก ) ยึดสินค้า และหนักสุดคือโดนคำสั่งจากศาลห้ามนำเข้าสินค้าดังกล่าวมายังสหรัฐอีก
สำหรับสถิติการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในไทย อยู่ที่ 73% ทั่วโลกมีการละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 50% ประเทศไทยส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จำนวนบริษัทที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกานับหมื่นบริษัท หากว่าบริษัทเหล่านี้ทราบหรือเปล่าว่ากำลังละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ส่วนใหญ่จะยังไม่ทราบ ถือว่าบริษัทของท่านเข้าข่ายละเมิดกฎหมาย UCL โดยไม่รู้ตัว ซึ่งนำส่งผลเสียต่อบริษัทและการส่งออกของประเทศ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดและเป็นการสร้างโอกาสให้เราสามารถส่งออกไปยังสหรัฐได้ คือผู้ผลิตและผู้ส่งออกหันมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมายในทุกขั้นตอนของกระบวนการประกอบธุรกิจ โดยใช้บริการ บุคลากร ที่เชี่ยวชาญตรวจสอบซอฟต์แวร์จากองค์กรที่ผ่านการรับรอง หรือใช้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีในองค์กรที่ได้รับประกาศนียบัตรด้านนี้โดยตรงมาตรวจสอบ ว่ามีซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในการผลิตหรือไม่ จัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ขาดให้ถูกต้องและครบถ้วน และ บริษัทควรมีแผนการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ในองค์กร (SAM = Software Asset Management ) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้านไอที ควบคุมต้นทุน และลดความเสี่ยงด้านไอทีลงได้ สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมตรวจสอบการใช้ซอฟต์แวร์ในองค์กรได้ที่ www.microsoft.com/map
ความจริงแล้ว “กฎหมาย UCA นี้” เพิ่มการปกป้องสิทธิด้านทางทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมความยุติธรรม และมีประโยชน์ต่อผู้ส่งออกที่ทำถูกกฎหมายลิขสิทธิ์ ดังนั้นหากดำเนินการทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะสบายใจไม่ต้องกังวล และได้รับผลดีจากกฎหมายฉบับนี้ ยิ่งผู้ส่งออกปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยีต่างๆที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายเร็วเท่าไหร่ ยิ่งได้เปรียบและมีโอกาสได้รับประโยชน์จากกฎหมาย UCA นี้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกด้วย