เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นส่งท้ายปี ที่คนไทยได้ชมฝนดาวตกเจมินิดส์ ซึ่งในปีนี้มีให้ชมในปริมาณมากสุดถึง 100 ดวงต่อชั่วโมง โดยกิจกรรมเปิดฟ้า…ตามหาดาว สัญจร ครั้งที่ 2 นำทีมโดย ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้นำประชาชนที่สนใจ ร่วมชมฝนดาวตกท้าลมหนาวท่ามกลางความหนาวเย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ณ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ซึ่งปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ในคืนที่ผ่านมา เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00น. ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์ มีลักษณะเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีความเร็วของดาวตกไม่มากนัก ประกอบกับเป็นคืนเดือนมืด ข้างแรม 15 ค่ำ ไม่มีแสงจากดวงจันทร์มารบกวน ท่ามกลางอากาศบนยอดดอยมีความหนาวเย็น นอกจากนี้ยังประชาชนที่สนใจในหลายจังหวัด ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันน่าประทับใจ โดยโพสภาพฝนดาวตกเจมินิดส์ผ่านหน้า Facebook ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกันอย่างคับคั่ง แม้จะสังเกตได้ยากเนื่องจากมีแสงเมืองรบกวน แต่ก็สามารถมองเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ได้เช่นเดียวกัน ส่วนชาวภาคใต้อดชมฝนดาวตกเจมินิดส์ เนื่องจากมีฝนตกและเมฆมาก
สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์ นั้นเกิดจากสายธารเศษฝุ่น ของแข็ง และน้ำแข็งจำนวนมาก ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaeton) ตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า โดยจะปรากฏให้เห็นมากที่สุดในช่วงเวลาตั้งแต่ 22:00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ถึงเช้ามืดประมาณ 05:00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคมของทุกปี ตามเวลาในประเทศไทย
ข้อมูลและภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ