กสทช.ยังคงเดินหน้าจัดประมูล 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz ต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ทีมงานไอที24ชั่วโมง ได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ที่จะใช้ในการประมูล ซึ่งสถานที่การจัดประมูล 3G นี้จัดขึ้นที่อาคารสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) ก่อนที่จะเริ่มประมูลจริงในวันที่ 16 ตุลาคมที่จะนี้ ซึ่งในวันจริง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถที่จะเข้าไปในห้องประมูลได้โดยเด็ดขาด อีกทั้ง ไม่สามารถที่จะเห็นภาพภายในห้องประมูลได้
สำหรับขั้นตอนแรกในวันประมูล รถของผู้ที่เข้าร่วมประมูลของแต่ละบริษัท จะมาจอดหน้าอาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช ตรงบริเวณพื้นวงกลมสีแดงนี้ โดยสื่อมวลชน ก็จะยืนกันอยู่ในที่ที่จัดไว้ให้ ซึ่งจะสามารถเห็นได้ว่า มีใครเดินทางมาบ้าง
หลังจากนั้ผู้ร่วมประมูลลงจากรถ จะต้องเดินผ่านเครื่องสแกน เพื่อตรวจอุปกรณ์สื่อสาร เพราะว่าการประมูลนี้ ไม่สามารถนำอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ใด (แม้แต่เครื่องคิดเลข) เข้าไปภายในห้องประมูลได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์สื่อสาร เพราะไม่ต้องการให้ติดต่อกับโลกภายนอกหลังจากเข้าห้องประมูลแล้ว
เมื่อเข้าข้างในอาคารโดยผ่านเครื่องสแกนตรวจอุปกรณ์แล้ว แต่ละบริษัทก็จะมีที่นั่งที่จัดไว้ให้ ซึ่ง กสทช. เตรียมไว้ 3 กลุ่ม (สำหรับ3บริษัท) แต่ละกลุ่มอยู่แยกกันค่อนข้างห่างพอควร
จากนั้นเวลา 9.00 น. พ.อ.ดร. เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ จะทำการจับฉลากเพื่อจะเลือกว่า ใคร บริษัทไหน จะมีสิทธิ์ได้มาจับฉลากเพื่อเลือกห้องประมูลก่อน โดยผู้ร่วมประมูลจับฉลากต่อหน้าสื่อมวลชน ณ บริเวณด้านหน้าประตูตึกอำนวยการ กสทช.นี้
พอมาถึงบริเวณหน้าห้องประมูล จะมีโต๊ะกองบังคับการกองปราบปราม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลรักษาความปลอดภัย
ภาพนี้คือบริเวณหน้าห้องประมูล โดยใน 1 ห้อง คือ 1 บริษัท โดยแต่ละบริษัทจะมีผู้ที่เข้าร่วมประมูลได้ไม่เกิน 10 ท่าน และในห้องก็มีเก้าอีกให้ 10 ตัว (ไม่นับรวมโซฟาพักผ่อน) เมื่อเข้าไปแล้ว จะออกมาไม่ได้ จนกว่าจะถึงเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน หรือจนจบการประมูล ซึ่งหากต้องการเข้าห้องน้ำ ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป และพากลับมาส่ง
เมื่อผู้เข้าร่วมประมูลเข้ามาภายในห้องนี้แล้ว การที่จะออกมาเช่น เข้าห้องน้ำ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ เป็นคนพาไป และพากลับมาส่ง ส่วนอาหารการกินนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่นำเข้าไปเสิร์ฟถึงในห้องประมูล แต่ภายในห้องประมูลทั้ง 3 ห้อง จะมีขนมของว่าง ชา กาแฟ และน้ำดื่ม จัดไว้ให้ในห้องแล้วด้วย พร้อมกับเครื่องเขียนที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการวางแผนประมูล
ผู้เข้าร่วมประมูลมาแต่ตัว กับของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น พร้อมเอกสารที่จำเป็น ยาที่จำเป็นจะต้องใช้ ห้ามผู้เข้าประมูลนำอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เข้ามาเองโดยเด็ดขาด โดย กสทช ได้จัดเตรียมพวกเครื่องเขียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการคำนวณ วางแผนไว้ให้ภายในห้องครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่มีไว้ให้ใช้สำหรับการคำนวณ เปิดเอกสาร วางแผน , ปริ้นเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆที่จะต้องใช้สำหรับการวางแผนประมูล
การสื่อสารกับโลกภายนอก เมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้วจะทำไม่ได้ ซึ่งนอกจากออกกฎห้ามนำอุปกรณ์สื่อสารเข้ามาในห้องประมูลแล้ว อินเตอร์เน็ตก็ต่อไม่ได้ มีแค่ Lan ที่เชื่อมต่อ server ของการประมูลเท่านั้น และหากสังเกต ช่วงนี้เวลากลางวัน แต่กระจกมึดทึบมองออกไปข้างนอกไม่ได้ ข้างนอกจะส่งเข้ามาดูห้องข้างในไม่ได้ เพราะมีสติ๊กเกอร์ทึบแสงแปะไว้อยู่ จะเปิดหน้าต่างดูข้างนอกก็ไม่ได้
ในห้องประมูลมีทีวีพร้อมเครื่องเล่นดีวีดี ให้ด้วย รวมถึงดีวีดีภาพยนตร์ต่างๆ ที่ทาง กสทช.จัดไว้ให้ในลิ้นชักใต้ทีวี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประมูลผ่อนคลายความตรึงเครียด แต่! ทีวีนี้ไม่สามารถดูช่องรายการทีวีบนฟรีทีวีทั่วไป เคเบิ้ลทีวี หรือทีวีผ่านดาวเทียมได้ เพื่อไม่ให้สามารถรับข่าวสารจากภายนอกได้
บนโตีะ จะมีคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป 2 เครื่องซึ่งจะมี software สำหรับการประมูล แต่ ใช้ username และ password ชุดเดียวกัน ซึ่งทั้งสองเครื่องนี้จะเชื่อมต่อกับ Server การประมูล ส่วนอีก 2 เครื่องที่เป็น Notebook เป็น Stand Alone ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบ Network ใดๆได้ เอาไว้ใช้สำหรับเปิดเอกสาร ใช้คำนวณ หรือการวางแผนต่างๆ และปริ้นเตอร์เลเซอร์ 2 เครื่องก็มีจัดไว้ให้ในห้องประมูลด้วย
หากกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันทางเทคนิคที่ส่งผลต่อการประมูลเช่นไฟดับ กสทช ก็ได้เตรียมเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้อยู่แล้ว ทำให้แม้ไฟดับก็ยังสามารถประมูลต่อไปได้ จนถึงเวลาที่กำหนด คือเริ่มเวลา 10.00น. ถึงเวลา 21.00น.
ห้องนี้คือ ห้องควบคุมการประมูล ตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 จะมีคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับควบคุมการประมูลที่ได้รับอนุญาตเข้ามาในห้องนี้เท่านั้น โดยภายในห้องจะเห็นหน้าจอของผู้ดูแลควบคุมการประมูล ซึ่งจะเห็นภาพรวมของการประมูลทั้งหมดเป็นหน้าจอที่แตกต่างจากสิ่งที่ ผู้เข้าร่วมประมูลจะเห็นในห้องประมูล
ในเส้นทางเดินบริเวณหน้าห้องประมูล และเส้นทางที่อนุญาตให้ผู้ร่วมประมูลสามารถเดินไปได้ จะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ เพื่อจับตาการเคลื่อนไหว โดยภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดนี้จะถ่ายทอดไปยังห้องหน่วยรักษาความปลอดภัย (Security Room) เพื่อตรวจสอบว่า ผู้เข้าร่วมประมูลมีการติดต่อกับใครภายนอกหรือเปล่า
เมื่อการประมูลใน stage ที่ 1 เสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมประมูล ก็จะมาที่ห้องนี้ทั้ง 3บริษัท ซึ่งห้องนี้ คือห้องที่ใช้สำหรับในการ “เลือกช่วงความถี่ที่ต้องการ” โดยบริษัทที่เสนอราคาประมูลรวมใน stage 1 สูงที่สุด ก็จะมีโอกาสได้เลือกช่วงความถี่ที่ตัวเองต้องการก่อน และบริษัทที่เสนอราคาประมูลสูงรองลงมา จะมีสิทธิ์ได้เลือกเป็นลำดับต่อไป
และหลังจากเลือกช่วงความถี่เรียบร้อย ก็จะมีการประกาศผลที่ห้องนี้ เป็นการเสร็จสิ้นการประมูลอย่างสมบูรณ์
ซึ่งถ้าหากไม่มีอุปสรรคใดๆที่จะกระทบต่อการเริ่มประมูล 3G ภาพที่เห็นทั้งหมดนี้จะใช้เป็นสถานที่จริง และอุปกรณ์จริง ที่ใช้ดำเนินการจัดประมูล 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz โดยสื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมประมูล 3G จะไม่สามารถมองเห็นภาพภายในห้องประมูลได้ ในช่วงวันประมูล…หากการประมูลนี้สำเร็จ ก็จะถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ได้เปลี่ยนจากระบบสัมปทานคลื่น ไปสู่ระบบการประมูล และระเบียบวิธีการประมูลนี้ ก็จะได้เป็นบรรทัดฐานของการประมูลคลื่นความถี่ในครั้งต่อๆไป ที่คาดว่า จะมีอีกหลายครั้งในเวลาอันใกล้
แต่คงต้องลุ้นกันก่อนว่า การประมูล3G ครั้งนี้ จะได้เริ่มขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคมหรือไม่! แล้วคุณผู้อ่านหล่ะ คิดว่าอย่างไร?