จากความนิยมในการค้นหาข้อมูลข่าวสาร การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุดจาก InternetWorldStats.com ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกว่า 1,966,514,816 คน ส่วนในประเทศไทย มีผู้ใช้กว่า 17,486,400 คน และด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ทั้งโน้ตบุ๊กราคาถูกลง มีเน็ตบุ๊กน้ำหนักเบาพกพาง่าย มีแท็ปเล็ตราคาหมื่นต้นๆ รูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ง่ายและหลากหลายมากขึ้น ทั้ง ไวไฟ เอดจ์ จีพีอาร์เอส สายโทรศัพท์ สามารถเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย
สมาร์ทโฟนได้รับการพัฒนาความสามารถมากขึ้น มีการนำเอาอุปกรณ์มือถือมาใช้กระจายสัญญาณเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ ร้านกาแฟ รีสอร์ท โรงแรม ร้านนวด ก็มีไวไฟให้บริการ ในส่วนของคนทำเว็บเอง ก็ได้มีการพัฒนารูปแบบในการแสดงผล ซึ่งแต่แรกเราใช้ข้อความ และรูปภาพ พัฒนามาเป็น แอนิเมชั่นนิดๆหน่อยๆ จนมาถึงแฟลช ที่ใช้พลังในการประมวลผลของซีพียู ไฟล์ต่างๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น อินเทอร์เน็ตเองก็ได้พัฒนาความเร็วมากขึ้น ทำให้การใช้งาน สามารถดาวน์โหลดภาพ เสียง วีดีโอ ได้อย่างคล่องตัว ทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการท่องเว็บที่เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
แต่ตัวที่ช่วยในการถอดรหัสในการแสดงผลภาพ เสียง วีดีโอ เรียกเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ว่า บราวเซอร์ เป็นเหมือนกับตัวกลางในการถอดรหัสจากภาษาที่เขียนเว็บไซต์อย่าง HTML PHP JAVA Script Flash ต่างๆ ให้แสดงผลอย่างถูกต้อง ตรงกับเลย์เอาท์ ที่ผู้เขียนเว็บต้องการสื่อสารให้คนดูได้รับประสบการณ์ต่างๆ ในการรับชม รวมไปถึง นักการตลาดออนไลน์เอง ก็ที่ต้องคำนึงถึงการออกแบบโดยอ้างอิงจากขนาดของหน้าจอคอมพิวเตอร์พีซี ที่มีการปรับเป็นแบบไวด์สกรีน ความละเอียดในการแสดงผลที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการมาของเน็ตบุ๊ก และแท็ปเล็ต ทำให้ผู้ผลิตบราวเซอร์ ต้องปรับตัว และทำการบ้านหนักขึ้น เพราะในช่วงแรกๆนั้น หลายๆคนใช้ Internet Explorer ในการท่องเว็บ แต่เมื่อเข้าเว็บแล้วโหลดช้า ค้าง แฮงค์ พิมพ์ๆอยู่ ค้าง ออร์เรอร์ ทำเอาหลายๆ คนเซ็ง หลายๆ คนเริ่มบ่น จนเปลี่ยนมาใช้บราวเซอร์ Firefox และ Opera แทน จนทำให้ผู้ใช้ติดใจบราวเซอร์ตัวอื่นๆ มากกว่า IE เสียแล้ว โดยเฉพาะความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ การแสดงผล จนมาถึงการเปิดตัว บราวเซอร์ Google Chrome จากค่าย Google ที่เลื่องชื่อด้านการค้นหา ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ลองมาดูกันว่า บราวเซอร์ตอนนี้ มีคุณสมบัติอะไรบ้าง ที่จะตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไป ณ ปัจจุบัน
แต่ปัญหาหลักในการใช้งานเว็บไซต์ นั่นคือการแสดงผล เพราะหลายๆเว็บไซต์แต่เดิมนั้นอ้างอิงการแสดงผลบน Internet Explorer บนหน้าจอ 800*600 พิกเซล หรือ 1024*768 พิกเซล ดังนั้นเมื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์มีขนาดใหญ่ขึ้น การแสดงผลในบราวเซอร์ต่างๆ ก็เพี้ยนไป รวมไปถึงการแสดงผลบนหน้าจอมือถือและอุปกรณ์พกพาด้วย ปัจจุบันในหลายๆเว็บไซต์จึงต้องออกแบบการแสดงผลแบบ Mobile Version บนมือถือและแท็ปเล็ตด้วย
หน้าเว็บไซต์ เหลือพื้นที่ว่างทั้งสองข้าง
หน้าเว็บไซต์ ถูกนำเอาพื้นที่ด้านข้างมาใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ
หน้าเว็บไซต์ที่ได้รับการออกแบบให้ขยายขนาดการแสดงผลเต็มจอไวด์สกรีน
การแสดงผลบนเว็บไซต์ อ้างอิงจากความละเอียดของหน้าจอ ตัวอย่างผมใช้จอ 24 นิ้วแบบไวด์สกรีน เปิดหน้าเว็บไซต์ www.thaiware.com , www.it24hrs.com จะเห็นได้ว่า ด้านข้างทั้งสองข้าง จะเป็นพื้นที่ว่างโล่ง เนื่องจากผู้พัฒนาเว็บไซต์ ไม่ได้ออกแบบให้รองรับหน้าจอแสดงผลที่ความละเอียดหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 1920 x 1080 พิกเซล นั่นเอง หลักๆจะเป็น 1024 x 768 พิกเซล ซึ่งเป็นหน้าจอขนาด 17 นิ้วมาตรฐาน หากแสดงผลเว็บไซต์ manager.co.th จะแสดงผลเต็มหน้าจอ เนื่องจากผู้พัฒนาเว็บไซต์ได้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับการแสดงผลตามความละเอียดของจอภาพขนาดต่างๆ ส่วนเว็บไซต์ www.weloveshopping.com นั้นได้รับการออกแบบเพื่อรองรับหน้าจอไวด์สกรีน การแสดงผลเว็บไซต์จะแสดงผลตรงกลาง และมีเนื้อที่ด้านข้างเพื่อใช้โฆษณา หากแสดงผลบนหน้าจอที่ไม่ใช่ไวด์สกรีน ก็จะแสดงผลผิดเพี้ยนได้ แต่หากแสดงผลบนหน้าจอไวด์สกรีน ก็จะได้พบโฆษณาแสดงผลอยู่ทางด้านข้างทั้งสองด้าน การแสดงผลจึงไม่โล่งจนเกินไป
ดังนั้น เว็บไซต์ จะแสดงผลอย่างไรบนบราวเซอร์ ต้องขึ้นอยู่กับ ขนาดของจอภาพในการแสดงผล ความละเอียดในการแสดงผลจอภาพด้วยเช่นกัน จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมเว็บไซต์เดียวกัน รับชมบนจอภาพแบบธรรมดา กับแบบไวด์สกรีน จึงแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรอัพเดตบราวเซอร์รุ่นใหม่อยู่เสมอ เพื่อให้รองรับการแสดงผลได้ดีขึ้นและรองรับกับอุปกรณ์ใหม่ๆมากขึ้น
จะสังเกตได้ว่า ตอนนี้คนเราเล่นเว็บ ทั้งบนมือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้บราวเซอร์ ต้องปรับตัว อย่าง Opera Mini หลายๆคนคงจะรู้จักเพราะเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ใช้เล่นเน็ตบนมือถือมาตั้งแต่สมัยมือถือฟีเจอร์โฟนยังใช้จาวา ส่วน Firefox ก็มีให้เล่นบนมือถือเช่นกัน สำหรับสาวก IE นั้นจะมีบนมือถือของวินโดวส์โฟนอยู่แล้วเพราะเป็นค่ายไมโครซอฟท์เหมือนกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ค่ายผู้พัฒนาบราวเซอร์ ต่างก็ตอบสนองการใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่ไม่ใช่แค่บนคอมพิวเตอร์ แต่เป็นอุปกรณ์พกพาต่างๆ รองรับภาษาโค้ดต่างๆ รวมไปถึงลูกเล่นใหม่ๆอย่าง HTML5 อีกด้วย ลองมาดูกันว่า บราวเซอร์ยุคใหม่ ต้องมีอะไรบ้าง
สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ผู้ใช้เน็ตต้องการ คือการเข้าเว็บที่รวดเร็ว เพราะใครๆก็อยากจะได้บราวเซอร์โหลดเร็ว วิ่งฉิว ฉับไว หลายๆ บราวเซอร์ได้รับการพัฒนาในการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ที่รวดเร็ว เสถียร โหลดเร็ว ไม่แฮงค์ นอกจากนี้บริการต่างๆของบราวเซอร์สมัยนี้ จะต้องมีปลั๊กอิน มีช่องค้นหา มีหน้าต่าง Last use ที่เปิดเว็บเล่าสุด มีการแสดงผลแบบแท็ป
เปิดหน้าบราวเซอร์ หน้าแรกหากไม่ได้ตั้ง Google ไว้หรือตั้งเว็บไซต์ใดๆไว้ ก็จะเจอหน้าต่างที่เข้าชมบ่อยที่สุด เพื่อที่จะให้เข้าชมเว็บไซต์ได้ง่าย ไม่ต้องเข้าหน้า Favorites ให้เสียเวลา สามารถเข้าชมเว็บที่เช้าชมบ่อยเช่น Facebook, Gmail, Pantip ได้ทันที ง่ายและสะดวกมาก
Google Chrome
มาจากค่ายเดียวกับเสิร์ซเอ็นจิ้นชื่อดังระดับโลก กูเกิ้ล นั่นเอง และหากคุณใช้บริการของ Gmail ก็จะนำเอารหัสล็อกอินเข้าไปยังบริการค้นหาของ กูเกิ้ล ได้ด้วย ความเร็วในการท่องเว็บ แรง แร็ง วิ่งฉิว มีจุดเด่นที่การค้นหาที่รวดเร็ว การพิมพ์ข้อความ หรือคำที่ต้องการค้นหาบนแถบแอสเดรสบาร์ที่เราใช้พิมพ์ WWW ได้เลย การค้นหา รวดเร็ว การเข้าเว็บ ก็ไวดี หน้าตาแบบเรียบๆ มีลูกเล่นคือ ธีม (วอลเปเปอร์) ใช้ให้งานไม่มีเบื่อ และหากต้องการลูกเล่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานก็เพิ่มเติม ส่วนขยาย Google Extensions เข้าไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นคือ Google Web Store สามารถติดตั้งเกมสนุกๆ ปลั๊กอิน มีแอพให้เล่นบนเว็บสนุกๆ เช่น ช่วยอัพโหลดภาพขึ้นบนเฟ็ซบุ๊ก ตัดต่อเสียง วีดีโอ เล่นเกมส์สนุกๆ เพลินๆ เรียกว่าตอนนี้ เว็บแอพกำลังมาแรง เราสามารถเล่นเกม ติดตั้งแอพต่างๆ ได้บนบราวเซอร์ ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับการใช้งานออนไลน์ผ่าน Google Account ของเรา ทั้งคุยแช็ท อีเมล ท่องเว็บ และติดตั้งแอพได้มากมาย ก็ทำให้เราใช้บราวเซอร์ได้สนุกมากขึ้น ตอนนี้ Google Chrome ล่าสุดเวอร์ชั่น 10.0.648.204 ดาวน์โหลดได้ที่ www.google.co.th/chrome
โดยสรุปแล้ว ใครที่อยากใช้ Google Chrome ถ้าหากว่าเราใช้ Gmail เป็นอีเมล์หลัก ใช้ GTalk คุยสนทนา จุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็วในการใช้งาน การพิมพ์คำค้นหาในช่อง แอสเดรสบาร์ที่เราใช้พิมพ์ URL เว็บได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาค้นหา รวมไปถึงการมีกูเกิ้ล ทลูบาร์ติดตัวบราวเซอร์เลย ไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติม ดังนั้นจะเช็กเมล์ก็ติดตั้ง Extensions ได้เลย แถมยังมีเว็บแอพจาก Google App Store ให้เล่นอีกด้วย นอกจากนี้ Google Chrome ยังเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนธีมบนบราวเซอร์อีกด้วย เรียกได้ว่า Google เป็นต้นแบบในการเพิ่มสีสันให้บราวเซอร์มีความแปลกใหม่ของการแสดงผลและเพิ่มเติม Extensions เสริมต่างๆเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
Mozilla Firefox
จุดเด่นของ Mozilla Firefox ที่ล่าสุด เดินทางมาถึงรุ่น 4 กันแล้ว (ล่าสุดคือ 4.0.1) สาเหตุเกิดจาก เมื่อหลายปีก่อน หลายๆ คนที่ใช้ Internet Explorer 4, 5, 5.5, 6 อาจจะเคยเจอ หน้าต่างบราวเซอร์ เปิดขึ้นมาซ้อนๆ กัน จนทำให้เครื่องค้างแฮงค์ไปเลย กรณีนี้ เกิดจากปัญหาของจาวาและสคริปต์ในบางเว็บ แต่สาเหตุที่เครื่องค้างเพราะการโหลดซีพียูประมวลผลเว็บในหลายๆหน้าต่าง ช่วงนั้นหลายๆ คนจึงแก้ปัญหาโดยการเลือกใช้ Mozilla Firefox และ Opera Browser รวมไปถึง บราวเซอร์ที่ทำขึ้นมาตอบสนองการใช้งานแบบ แท็ป (Tabbed-browser) อย่าง Crazy Browser, Neo Planet, Maxthon Browser และอีกหลายๆ บราวเซอร์ให้เลือกใช้มากมาย และบราวเซอร์ทางเลือกพวกนี้แหล่ะที่เป็นต้นแบบของการเปลี่ยนธีม เพราะช่วงนั้น Winamp ก็เปลี่ยนสกินได้ บราวเซอร์ก็เปลี่ยนสกินหรือธีมในการแสดงผลได้เช่นกัน ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.mozilla.com/firefox/
ดังนั้น จุดเด่นของ Firefox คือ การเปิดแท็ปหลายหน้าต่างในหน้าจอเดียวกัน ไม่ต้องเปิดแยกหน้าต่างให้เปลืองทรัพยากรเครื่องจนทำให้เครื่องแฮ้งค์ จนในระยะหลังๆนี้ หลายๆค่ายก็ปรับรูปแบบบราวเซอร์ให้สนับสนุนการแสดงผลแบบแท็ปมากขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนธีม เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ของบราวเซอร์ นอกจากนี้ยังมีการนำเอา add-ons เสริมมาติดตั้ง ซึ่งตอนนี้มีการดาวน์โหลดเฉพาะตัว Add-ons ไปกว่า 2,450,092,274 ครั้งแล้ว
สำหรับฟีเจอร์ของ Firefox 4 นั้นจะทำให้เราได้เห็นความง่ายและสะดวกในการจัดการท่องเว็บได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น
จากภาพ จะเห็นได้ถึงความง่าย ว่าเราเข้าเว็บไหนบ่อยๆ ก็แค่ลากไอคอนของเว็บเข้าไปไว้ตรงรูปบ้านด้านขวามือ ก็ตั้งหน้าแรกเว็บได้สะดวกสุดๆ
ส่วนการเก็บบุ๊กมาร์ค นั้นเราก็ทำได้ง่าย แค่กดรูปดาวเหมือนเราติดดาวไว้ให้เว็บ ง่ายนิดเดียว
ส่วนของแถบที่เรากรอก URL ของเว็บนั้น เรากรอกอะไรไปก็ได้ แค่ 1 – 2 ตัวอักษร ระบบก็จะค้นหาและแสดงสิ่งที่เกี่ยวข้องมาให้เรา ทำให้เราท่องเว็บได้สนุกขึ้น
ส่วนของแถบ Search เราก็ไม่ต้องลำบากพิมพ์ www.google.com www.yahoo.com www.bing.com เพราะเราสามารถค้นหาได้จากแถบด้านขวาบนของหน้าจอได้เลย
จุดสำคัญที่เปลี่ยนแปลงการใช้งานบราวเซอร์ ก็คือเรื่องของการเปิดหน้าต่างบราวเซอร์แบบแท็ป หมายถึงว่า ในหน้าจอของเรา จะเปิดหน้าเว็บไว้หลายหน้าต่างเป็นแบบแท็ป ต่างจากบราวเซอร์รุ่นก่อนๆ ที่ต้องเปิด หน้าต่างละ 1 เว็บเท่านั้น ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องใช้ทรัพยากรซีพียูหนักมาก หลายๆคนจึงหันไปใช้ Firefox, Crazy Browser เนื่องจากมีการเปิดหน้าต่างแบบแท็ป ทำให้เราสามารถสลับการเล่นเว็บ แช็ท อีเมล ดูวีดีโอ ได้ในเวลาเดียวกัน แต่หากเปิดเว็บที่มีเสียงเพลงประกอบ เสียงดนตรีอาจจะรบกวนกันได้ ดังนั้นจึงควรปิดเสียงบนปุ่มในหน้าเว็บ หรือปิดเสียงลำโพงไปเลย
ส่วนของ Tabs นั้นเป็นจุดเด่นของบราวเซอร์ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเราสามารถเปิดหลายหน้าต่างได้ในหน้าจอเดียว เคยจำได้ไหมว่า สมัยก่อนนั้น เราเปิดหลายหน้าต่างแล้วเครื่องช้าหรือแฮงค์ไปเลย หรือเปิดเยอะซะจนแถบทาร์กบาร์รกมาก ตอนนี้ทุกบราวเซอร์รองรับ Tabs กันหมดแล้ว เปิดแท็ปหน้าต่างใหม่ก็สะดวกแค่กดปุ่ม + เท่านั้น สมัยก่อนต้องกด Ctrl+N เพื่อเปิดแท็ปหน้าต่างใหม่
ในส่วนของความปลอดภัยนั้น Private Browsing เกิดขึ้นมาบนหลายๆบราวเซอร์ สาเหตุก็เกิดจากว่า เราใช้งานอินเทอร์เน็ตนอกสถานที่ เช่นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ใช้คอมพ์ในร้านกาแฟ แล้วเราล็อกอินค้างไว้ ลืมล็อกเอ้าท์ออก ทำให้เราถูกขโมยรหัสโดยง่าย หรือมีการบันทึกการใช้งานของคุณ ว่าเข้าเว็บไซต์ใดบ้าง Private Browsing จะเข้ามาช่วยทำให้คุณเล่นเน็ตที่ไหนก็ได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะระบบจะจัดเก็บข้อมูลของคุณ หลายๆบราวเซอร์กดปุ่ม Ctrt+Shift+P เพื่อเข้าใช้งาน Private Browsing สนใจรายละเอียดไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://support.mozilla.com/en-US/kb/Private/Browsing
ส่วนบราวเซอร์ที่รองรับและเชื่อมโยงกับโซเชียล เน็ตเวิร์ก อย่าง Rockmelt, Flock Browser ซึ่งตัวหลังนี่ได้ยกเลิกการสนับสนุนแล้ว คือใช้ได้แต่ไม่มีการสนับสนุนใดๆแล้ว
Pop-up blocker
ในการใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ การโฆษณา หรือการแจ้งเตือนต่างๆ หลายๆเว็บไซต์ต้องการให้เป็นจุดสนใจ จึงได้ทำการโฆษณาหรือแจ้งข่าวผ่านหน้าต่างป๊อปอัพ แต่เมื่อมีการโฆษณามากขึ้น มีไวรัส มีโค้ดแปลกๆเข้ามา ทำให้คนใช้ไม่ต้องการหน้าต่างป๊อปอัพ ดังนั้น ทุกๆ บราวเซอร์จึงต้องการฟังก์ชั่นที่สามารถบล็อกการเปิดหน้าต่างป๊อปอัพที่เด้งขึ้นมากวนใจเรา
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นต่างๆ อย่างเช่นการจัดการบุ๊กมาร์ค การจัดการแอพต่างๆด้วยปลั๊กอินเสริมหรือ Extensions หรือจะเรียกว่า add-ons ก็มีความหมายใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่า คนที่ใช้บราวเซอร์ตอนนี้ จะกลายเป็นการใช้เว็บแอพ (Web App) คือโหลดจากเซิร์ฟเวอร์ อย่างเช่นการเล่นเกมผ่านเว็บ หรือใครๆอยากเล่นเกมบนเฟ๊ซบุ๊กก็ต้องติดตั้งแฟลชเพื่อให้ใช้งานได้ หรือบางเว็บก็ออกแบบด้วย HTLM5 ซึ่งทำให้เราใช้งานได้สะดวกขึ้น
Opera
ขึ้นชื่อเรื่องบราวเซอร์บนมือถือ และบนคอมพิวเตอร์ เคยได้ชื่อว่าเป็นบราวเซอร์ที่มีขนาดไฟล์เล็กและดาวน์โหลดเร็ว ปลอดภัย และมีคุณสมบัติให้คุณท่องเว็บได้สนุกขึ้น ปรับแต่งอะไรได้มากมาย แสดงผลแบบแท็ป จัดการการดาวน์โหลดไฟล์ มีแอพให้ใช้งานสะดวกและคล่องตัว รองรับการแสดงผลจาวาสคริปต์ HTML5 การจัดการการท่องเว็บที่ชาญฉลาด ลองใจแล้วติดใจในความแรง แถมใช้บนมือถือได้ทุกแพล็ตฟอร์มกันเลยทีเดียว ทั้งสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต สนใจดาวน์โหลดได้ที่ http://www.opera.com
Safari
มาถึงบราวเซอร์ของชาวแม็ค ที่หลายๆปีที่ผ่านมา ได้ออกเวอร์ชั่นวินโดวส์ให้คนใช้วินโดวส์ได้ใช้งานกัน นั่นก็คือ Safari นั่นเอง หลายๆ คน เชื่อถือในความเสถียรของคนใช้แม็คว่า ซาฟารี ตอบสนองการเล่นเว็บได้คล่องตัว สนับสนุน HTML5 โหลดเว็บได้รวดเร็ว รองรับ Extensions เพิ่มเติมที่หลากหลาย ส่วนการค้นหาจะเป็น Bing ในด้านความเร็ว Safari ทำได้ดีอยู่แล้ว นอกจากนี้คุณสมบัติก็ไม่ได้ต่างไปจากบราวเซอร์ตัวอื่นๆ ทั้ง Smarter Address Field การแสดงผลเว็บแบบแท็ป การจัดการกับฮาร์ดแวร์ รวมไปถึงการใช้งานบนไอแพด ไอโฟน ไอพอด ทัช ได้อย่างคล่องตัว สนใจดาวน์โหลดได้ที่ www.apple.com/safari
โดยสรุปแล้วปัจจัยที่ทำให้เราอยากจะใช้บราวเซอร์ในการท่องเว็บคือ ดาวน์โหลดเร็ว แสดงผลถูกต้อง การเลื่อนหน้าที่ไหลลื่น การแสดงผลที่ตรงตามโค้ดที่ผู้พัฒนาได้ออกแบบไว้ ในช่วงแรกๆ นั้น หลายๆเว็บไซต์ผ่านการออกแบบ โดยอ้างอิงถึง Internet Explorer เป็นหลัก แต่ในปัจจุบัน ไม่ใช่แล้ว เนื่องจากมีผู้ใช้งานบราวเซอร์อื่นๆอย่าง Firefox, Chrome, Safari กันมากขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาบราวเซอร์ต้องพัฒนารูปแบบการแสดงผลเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ รวมไปถึงการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาต่างๆอย่างมือถือ สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ตด้วย ซึ่งหลายๆบราวเซอร์อย่าง Firefox, IE, Opera, Safari ก็มีอยู่บนมือถือด้วยเช่นกัน และบราวเซอร์น้องใหม่อย่าง Rockmelt ก็มีบนมือถือแล้ว ทำให้ทุกเว็บไซต์ต้องปรับตัวเพื่อให้แสดงผลได้ในทุกๆ อุปกรณ์
ส่วนเรื่องของความปลอดภัย บราวเซอร์ทั้งหลาย รองรับด้านความปลอดภัย ในการกรอกข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการคือ ความเสถียรภาพ การกรอกข้อมูลสำคัญ ที่ไม่ถูกดักเก็บข้อมูล โดยเฉพาะคนที่ใช้งานเว็บไซต์ด้านธุรกรรมทางการเงินอย่างธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีคุณสมบัติอย่าง SSL ที่เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัย มีรูปกุญแจ หรือหากเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือเสี่ยงต่อไวรัสหรือโค้ดอันตรายก็จะมีการแจ้งเตือนด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้ นำไปใช้งานอย่างถูกต้องและเหมาะสม และไม่ประมาทในการบันทึกรหัสผ่านไว้ในคอมพิวเตอร์ ควรจะคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ลองดาวน์โหลดมาใช้ดูครับ แล้วบราวเซอร์ทางเลือกก็จะช่วยให้คุณท่องเว็บได้สนุกขึ้น
บทความโดย – นันท์ชวิชญ์ ชัยภาคย์โสภณ (@yokekung)
บรรณาธิการเทคนิค นิตยสาร PC-Today (@pctoday) และ blogger www.yokekungworld.com