เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้จัดงาน รวมพลคนข่าว Social Media ณ บ้านไร่กาแฟ เอกมัย โดยมี ผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าว บรรณาธิการ ในแวดวงสื่อสารมวลชน ที่ใช้ Social Media มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
บรรยากาศภายในงานคุยแบบสบายๆและมีสาระดีๆที่น่าสนใจที่ต้องคิดตาม ในเรื่องการใช้ Social Media ในการรายงานข่าว เ เพราะ social media เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วและใกล้ตัวระหว่างผู้สื่อข่าวและประชาชนโดยตรงมากที่สุด เลยมีการจัดงานนี้ขึ้นเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับหลักกการรายงานข่าวผ่านทาง Social Media
ช่วงแรกจะเป็นการแนะนำตัวกันก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สื่อข่าวที่ใช้รายงานข่าวผ่านช่องทาง Social Mediaเช่น facebook และทวิตเตอร์เป็นประจำ และที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่จะโดนเจ้านาย หรือหัวหน้าฝ่ายข่าว บังคับให้ใช้ แต่ก็มีบางส่วนเป็นส่วนน้อยที่ได้ใช้ Social Media แบบไม่โดนบังคับเลย เพราะเป็นนักข่าวที่รู้เรื่องไอทีอยู่แล้ว แต่ท้ายที่สุดนักข่าวแทบทุกคนติดใจและใช้ Social Media แทบทุกคน
คุณสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ได้กล่าวถึงปรัชญาของของ social Media ว่า “ใช้ social media เพื่อใช้ทั้งความเร็ว และการกระจายตัวและการสื่อสารกับทุกคนที่ติดตามเรา แบบไม่มีข้อจำกัด เพื่อสร้างแบรนด์ให้กับองค์กร และสร้างแบรนด์ให้กับตัวคนหาข่าวเอง” โดยประโยชน์ที่ได้รับสำหรับคนทำข่าวที่ใช้ Social Media นี้คือ
- ฝึกฝนตัวเองในการจับประเด็นข่าว สามารถเขียนพาดหัวข่าวสั้นๆ ให้น่าสนใจเพียง 140 ตัวอักษรได้ ซึ่งเป็นศิลปะในการเขียนที่นักข่าวต้องมี
- สามารถสื่อสารกันได้ระหว่างนักข่าวเองกับ บรรณาธิการข่าวให้รู้ว่าทำอะไรอยู่
- สามารถรับใช้คนที่ติดตามข่าวของเรา แม้ว่านักข่าวจะอยู่ในที่เดียวกันสถานการณ์เดียวกัน ประเด็นเดียวกัน แต่แต่ละคนจะมีแง่มุมที่แตกต่างกัน ซึ่งจะได้ข่าวที่สมบูรณ์และรอบด้าน
เครื่องมือ social media ที่ทำให้การรายงานข่าวได้รวดเร็ว ฉับไวขึ้น ก็คือ twitter นั่นเอง ที่ทำให้แตกต่างและน่าสนใจกว่าทีวีก็คือความรวดเร็วฉับไวในการนำเสนอข่าว และอาจได้เห็นบรรยากาศเบื้องหลังสีสันแปลกๆต่างๆที่อาจไม่ได้เห็นบนจอทีวี เป็นการฝึกให้นักข่าวช่างสังเกตการณ์ และกล้านำเสนอในมุมมองที่ต่างกันออกไปด้วยเครื่องมือ social media นี้
คุณชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้เล่าถึงเบื้องหลังองค์กรในการใช้สื่อ Social Media นี้ว่า ไทยรัฐแยกบริษัทย่อยไปอีกเพื่อทำ digital content โดยเฉพาะ แต่จะเริ่มมีการจัดระเบียบ social media เพื่อคุมการนำเสนอข่าวมากขึ้น สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือความถูกต้องของข่าว และนักข่าวต้องรู้ว่าเราเสนออะไรผ่าน social media นี้ มีคนคอยติดตามผลงานเราอยู่และจะคอยแชร์บอกต่อคนอื่นด้วย หากเรานำเสนอข่าวที่ไม่ถูกต้องเมื่อไหร่ เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่และอาจทำให้ผู้เสนอข่าวเสียความน่าเชื่อถือของการเป็นนักข่าวไป
อีกแง่มุมหนึ่งของประโยชน์ในเรื่องของ Social Media จากเดิมที่ประชาชนหรือคนดูทั่วไปต้องติดตามและสมัครข่าวผ่าน SMS ของค่ายต่างๆ แต่ในเมื่อมีเครื่องมือที่ไวกว่า รวดเร็วกว่าอย่าง twitter นี้จะสามารถติดตามข่าวได้รวดเร็วกว่า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย SMS รายเดือนในการสมัครบริการข่าว
คุณสุทธิชัย หยุ่น ได้พูดอย่างน่าสนใจที่นักข่าวต้องคิด… ว่า “ใน Social Media ไม่มีคำว่าส่วนตัว คุณกำลังเข้าไปสู่สิ่งที่ทุกคนมีสิทธิ์เห็นได้จริง และ คนอื่นเอาคำของเราไปพูดต่อได้ “ เวลาคุณโพสลง facebook หรือ ทวิตผ่าน twitter จำไว้ว่า ไม่มีคำว่าส่วนตัว ทุกคนเห็นข้อความนั้นหมด มันเป็นภาพลักษณ์ขององค์กรสื่อ และผู้โพสข่าวเองด้วย หากต้องการเขียนความเห็นส่วนตัว ควรเขียนใน blog ส่วนตัว ไดอารี่ส่วนเองที่สามารถกำหนดได้ว่ามีใครดูได้บ้าง แต่ใน twitter และ facebook นี้มันไม่มีความเป็นส่วนตัว การเป็นนักข่าวที่ใช้ social media นี้ต้องสำนึกข้อนี้ว่า “คุณมีความรับผิดชอบ ในทุกคำทุกอย่างที่คุณเขียน” ความเป็นนักข่าวต้องระวังมากๆในเรื่องนี้
อาจารย์มานะ กล่าวพูดถึงการศึกษาเกี่ยวกับด้านสื่อสารมวลชน ว่า “ในสายวารสารศาสตร์ที่สอนเรื่องการทำข่าว นี้ จะต้องใช้ Social Media ในการทำข่าว ไม่ว่าจะคิดประเด็นข่าว หาแหล่งข่าว ตลอดจนการเผยแพร่ข่าว ในอนาคตจะต้องมี Social Media Editor มากขึ้นที่ทำหน้าที่ดูแลกรองข่าว และร่วมมือกับนักข่าวมืออาชีพและผู้สื่อข่าวตามจุดแหล่งข่าวต่างๆ ที่ทำให้การนำเสนอข่าวมีแง่มุมที่รอบด้าน หลากหลายมากขึ้น และต้องเทรนนักศึกษาให้คิดถึงเรื่องการนำเสนอข่าวผ่านทาง Social Media นี้ ในเรื่องการรายงานข่าวที่รวดเร็วแต่ต้องระมัดระวังในเรื่องความถูกต้อง และความชัดเจนของข่าวด้วย”
“ในต่างประเทศใช้ Social Media ในการทำข่าว มากถึง 97% แต่ห่วงถึงเรื่อง ความถูกต้อง ความเป็นกลาง ในการนำเสนอข่าว “
โดยสรุปของงานนี้ว่า social media จะมีบทบาทมากในการนำเสนอข่าวที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น แม้ว่าสื่อกระแสหลักอย่างทีวีช่องต่างๆส่วนใหญ่อาจคิดว่า Social media นี้ไม่ใช่เรื่องจริงจัง แต่จากนี้ไป Social Media นี้ไม่ใช่เครื่องมือเล่นๆแล้ว มันเป็นพลังในการกระจายข่าวสาร และสื่อสารถึงประชาชนได้โดยตรง ที่ฝ่ายข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์จะต้องปรับตัวและคิดกันใหม่ว่าต้องปรับตัวใช้เครื่องมือนี้กันอย่างไร และ Social Media นี้คือคำตอบของก้าวต่อไปในการนำเสนอข่าวสารที่สื่อสารตอบสนองระหว่างประชาชนกับนักข่าวและองค์กรฝ่ายข่าวได้
หลังจากนั้นก็เป็นการนำเสนอเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับการใช้ Social Media และปิดท้ายด้วยการรับประทานอาหารร่วมกันพร้อมฟังเพลงจากวง iHear วงดนตรีเพราะๆที่รับเล่นตามงานต่างๆ ผ่านทาง Social Media ภาพบรรยากาศทั้งหมดสามารถคลิกชมได้ที่นี่