กลุ่มคนซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไป ได้มารวมตัวทำกิจกรรม เนื่องในวันเสรีภาพซอฟต์แวร์ หรือ Software Freedom Day เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งจะจัดกิจกรรมพร้อมกันกับ 600 ทีมพัฒนาจาก 60 กว่าประเทศทั่วโลก เพื่อมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการใช้ซอฟต์แวร์ และรณรงค์มาร่วมใช้ซอฟต์แวร์แท้ ถูกกฎหมาย ผลักดันพัฒนาส่งเสริมซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้เป็นอีกทางเลือกที่ลดต้นทุนแทนการใช้ซอฟต์แวร์ระบบปิดที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคาสูง และมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย โดยจะจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นประจำทุกปี
แม้ว่าต่างประเทศจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ต่างจากประเทศไทยนั้นจะจัดในรูปแบบสัมมนาเล็กๆโดยจะเน้นเกี่ยวกับประเด็นทิศทางซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สไทยในปัจจุบัน และอนาคต , แบ่งปันประสบการณ์นำซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สไปใช้ทดแทนโปรแกรมดังต่างๆ ทั้งในการศึกษาและในเชิงธุรกิจSME การรับมือการตรวจลิขสิทธิ์ตามร้านอินเตอร์เน็ต เบื้องหลังการพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สทำกันอย่างไร และ รู้ทันด้านภัยคุกคามบนคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตด้วย
Opensource คือ ซอฟต์แวร์ที่เปิดเผยพิมพ์เขียวของซอฟต์แวร์ ที่เราเรียกว่า Source Code (หลายท่านมักจะเข้าใจผิดว่าซอฟต์แวร์ Opensource นั้นคือซอฟต์แวร์ฟรี แจกฟรี อบรมฟรี) ความจริงแล้วในความหมายฟรีใน Opensource คือ Freedom (เสรีภาพ) เสรีภาพในการแจก Source code นี้ทำสำเนาแจกให้ใครก็ได้แล้วมาประยุกต์ใช้ หรือปรับปรุงแก้ไขโค้ดเพิ่มเติมได้ ตามวัตถุประสงค์ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นซอฟต์แวร์ฟรีเสมอไป ต่างจาก Freeware ที่ถึงแม้ว่าแจกฟรีแต่อาจมีฝาการแอบดูข้อมูลส่วนบุคคล ขณะคุณใช้งานซอฟต์แวร์อยู่
จากข้อมูลสถิติประเทศไทยถูกจัดติดอันดับละเมิดลิขสิทธิ์เป็นอันดับต้นๆ (อันดับ 3 ของโลก) ซึ่งหากยังใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่นี้จะทำให้ถูกกีดกันทางการค้า ต่างประเทศไม่กล้าลงทุนจ้างซอฟต์แวร์ในประเทศไทย และเด็กรุ่นใหม่ไม่อยากเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ เพราะกลัวโดนถูก ทำสำเนาปล่อยลงในBitorrent ทำให้อุตสาหากรรมซอฟต์แวร์ในประเทศไทยไม่เติบโต
หากหลายท่านเข้าใจความหมายว่า Opensource คือโปรแกรมฟรีไม่ต่างจากพวกฟรีแวร์ตามความเข้าใจนั้น นักพัฒนาก็อาจไม่อยากพัฒนาทำต่อได้เพระแน่นอนการพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องมีทุนทรัพย์ในการพัฒนา ต้องมีองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆมาสนับสนุนด้วย
นอกเหนือจากสัมมนาถึงเรื่องซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ทั้งมุมมองผู้ใช้และนักพัฒนาแล้ว ยังมีหัวข้อที่น่าสนใจคือความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิ์ส่วนบุคคลพื้นฐานที่ถูกละเมิดโดยเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ทุกวันนี้มันกำลังจะเกิดขึ้นที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว อนาคตการถูกสอดแนมในข้อมูลส่วนตัวจะมีมากขึ้น ซอฟต์แวร์ปลอมมักจะมาพร้อมพวก โปรแกรม Crack มาคอยเก็บข้อมูลส่วนตัวของเราด้วย ถ้าไม่อยากโดนไวรัสก็ต้องซื้อซอฟต์แวร์ปิด แต่ต้องเสียเงินซื้อไลเซนต์ในราคาสูง แต่เราแต่เรามีทางเลือกนอกเหนือจากเสียเงินซื้อของแท้คือ หาซอฟต์แวร์ด้านโอเพนซอร์สนี้มาทดแทนซอฟต์แวร์ระบบปิด คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้แม้ว่าจะมีทุนทรัพย์น้อยก็ตาม โอเพนซอร์สช่วยลดค่าใช้จ่ายซอฟต์แวร์ราคาแพง แต่ส่วนลดการละเมิดลิขสิทธ์นี้ หน่วยงาน BSA บอกว่าโอเพนซอร์สไม่ได้ช่วยให้การละเมิดลิขสิทธิ์ลดลง แต่ซอฟต์แวร์ระบบปิดเค้าจะขายได้น้อยลง ( BSA ได้จัดตั้งเพื่อสังเกตการณ์ว่าประเทศไทยละเมิดลิขสิทธิ์มากน้อยแค่ไหน เท่านั้น )
ผู้ที่มาร่วมงาน จะได้รับซีดี Opendisc เป็นดีวีดีรวบรวมซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส เวอร์ชั่นล่าสุด สามารถนำแผ่นดีวีดีนี้ไปทำการสำเนาแผ่นกระจายแจกต่อไปยังคนอื่นๆได้ หากมีปัญหาการใช้งานโปรแกรมสามารถติดต่อปรึกษากับกลุ่มชุมชน opensource ในประเทศไทยมีหลายกลุ่มครอบคลุมทั้ง CMS , Animation , และระบบปฏิบัติการLinux ต่างๆ
ในอนาคตอันใกล้นี้ มีแผนจะสร้างเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (OSS-Park) โดยภายในจะมีทั้งห้องประชุมสัมมนา ห้องประชุมย่อย ห้องอบรมคอมพิวเตอร์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถาบันกวดวิชา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับกลุ่มนักพัฒนาและผู้ที่สนใจด้านซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สโดยเฉพาะได้ใช้สถานที่นี้ในการจัดอบรม และจัดกิจกรรมต่างๆ
นอกเหนือจากประเด็นโอเพนซอร์สที่ได้พูดถึงในงาน Software Freedom Day แล้ว งานนี้ยังให้ความสำคัญอีกเรื่องคือ ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ เพราะจากสถิติด้านความปลอดภัยจากเว็บข่าวด้านไอทีต่างประเทศพบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการระบาดเรื่อง Phishing เป็นอันดับ 1 ของโลก
คุณกิติศักดิ์ จิรวรรณกูล นักวิชาการ จาก thaicert (NECTEC) (ศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย) ได้แนะนำว่า ถึงดูแลระบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเว็บไซต์หรือระบบเครือข่ายว่า ควรศึกษาใช้เครื่องมือระบบปฏิบัติการมาทำอะไรเช่น windows , linux มีความสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วเลือกเฉพาะความสามารถของระบบปฏิบัติการที่เราต้องการหรือจำเป็นต้องใช้จริงๆ โดยตอนติดตั้งเลือก Option ติดตั้งให้น้อยที่สุด โดยเลือกฟังก์ชั่นเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อย่าเลือกแบบติดตั้งหมดเลย หากลงติดตั้งหมดก็จะเป็นแหล่งให้แฮกเกอร์โจมตี ระบบปฏิบัติการ จน Server ดาวน์ได้ ผู้ดูแลระบบจะยากต่อการวิเคราะห์ปัญหาของระบบด้วย และหากพบ user คนไหนไม่ได้ใช้งานเลยให้ลบออกไปทันที เพื่อป้องกันคนอื่นแอบสวมรอยเป็น user ที่ว่างอยู่มาเจาะระบบ , การตั้งค่าอนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ ( Permission File) ให้ตั้งแบบกำหนดเองไปเลยว่าไฟลไหนอ่านได้ ไฟล์ไหนอ่านไม่ได้เท่านั้น หากเปิดอนุญาตเข้าถึงทั้งหมด (777) ระบบก็โดนเจาะระบบเรียบร้อยทันที , ควรเปิดพอร์ทลับๆ นอกเหนือจากพอร์ทปกติ (8080) ทั้งนี้เพราะเหล่ามิจฉาชีพทางคอมพิวเตอร์จะใช้ดักโจมตีผ่านพอร์ทปกติอยู่บ่อยครั้ง การตั้งรหัสไม่ควรตั้งรหัสผ่านแบบเดาง่ายเกินไป และควรใช้ซอฟต์แวร์เครื่องมือวิเคราะห์เจาะระบบต่างๆมาตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อหาจุดอ่อนและเพิ่มระดับการป้องกันรับมือจากภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ทุกรูปแบบด้วย รายละเอียดอย่างเจาะลึกนั้นจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
ท่านสามารถติดตามกิจกรรมงาน software freedom day จากทั่วทุกมุมโลกผ่านทาง twitter ที่ Hash Tag #softwarefreedomday