เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา Intel ประเทศไทย ได้จัดงานสรุปเทคโนโลยีอินเทลในปี 2554 พร้อมทิศทางตลาดและเทคโนโลยีในปี 2555 ขึ้น โดยคุณเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันและเทรนในอนาคตของ Notebook ด้วย
ในปี 2015 คาดว่าจะมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 1พันล้านคน มีอุปกรณ์ไอทีมากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันล้าน ตัว ซึ่งในเมื่อมีผู้ใช้ไอทีมากขึ้น การรับส่งข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตก็จะมีปริมาณมากขึ้นไปด้วย ซึ่งในปีต่อไปนี้ผู้ให้บริการก็จะเริ่มเปลี่ยนมาใช้บริการ CLOUD Server มากขึ้นเพื่อรองรับผู้คนใช้บริการและข้อมูลที่นับวันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ทิศทางต่อไปของอินเทลคือการตั้งฐานการผลิตและการดำเนินธุรกิจ ในทวีปเอเชียมากขึ้น โดยมีพนักงานกว่า 18,000 คนที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อรองรับการผลิตในปริมาณมาก อีกทั้งยังร่นระยะเวลาในการทำงานของระบบซัพพลายเชนให้กับการผลิตทั่วโลกได้ถึงร้อยละ 40 ตั้งแต่ปี 2552- 2553 ซึ่งฐานการผลิตรายใหญ่ของ Intel จะตั้งอยู่ที่ประเทศจีน
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยในก้าวต่อไปนั้น อินเทลได้ซื้อ Mcafee กลายเป็นบริษัทลูกของ อินเทลเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการผลิตชิพซีพียูแบบใหม่ที่ตอบสนองการทำงานทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เสริมความปลอดภัยมากขึ้นเพราะมันทำงานรักษาความปลอดภัยโดยอัตโนมัติทันทีในฮาร์ดแวร์ นี้เลย โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
นอกจากนี้ อินเทล ได้จับมือกับ Master Card ในการใช้ Notebook ยุคใหม่ในอนาคตอย่าง Ultrabook ในการใช้จ่ายซื้อสินค้าแบบออนไลน์รูปแบใหม่มีความปลอดภัยสูงขึ้น โดยไม่ต้องกรอกหมายเลขต่างๆอะไรบนโลกออนไลน์ เทคโนโลยีนี้เรียกว่า PayPass
สำหรับคอมพิวเตอร์ในอนาคตนี้ ล้วนมาจากความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการตอบสนองการใช้งานตั้งแต่การเปิดเครื่องคอมโดยใช้เวลาอันสั้น พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่นิ่งอยู่กับที่ และใช้งานได้คุ้มค่าในราคาที่ใช้ทุนต่ำ
ในปีหน้า (2012) เทคนิค ‘สกรีนิฟิเคชั่น’ (screenification) ยังคงถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจุบันการเลือกคอมพิวเตอร์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวเครื่องอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงหน้าจอด้วย ต่อไปนี้จะมีคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบและดีไซน์ต่างๆเพิ่มขึ้น พร้อมกับตัวเลือกของหน้าจอที่มีความหลากหลายเพื่อให้เราได้เลือกคอมพิวเตอร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุด ตั้งแต่ชนิดของจอ และขนาดของหน้าจอ ตลอดจนเทคโนโลยีการแสดงภาพบนหน้าจอ บนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ , โน๊ตบุ๊ค แท็บเล๊ต มือถือสมาร์ทโฟน เป็นต้น โดยเทรนสินค้าไอทีในปีหน้านี้รูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับความคิดความของผู้บริโภคเป็นหลัก และอุปกรณ์ไอทีที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ด้วย
นอกจากนี้ อินเทลจะชูเทคโนโลยีการผลิตแบบ 22 นาโนเมตร ชื่อโค้ดเนมว่า Ivy Bridge บนโน๊ตบุ๊คแหล่งอนาคตที่เรียกว่า Ultrabook ที่มีคุณสมบัติบางเบา แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ที่จะทำให้โน๊ตบุ๊คในชิปเซตใหม่นี้ทำให้การใช้งานแบตเตอรี่บน Notebook ได้ยาวนานมากขึ้นอาจถึง 8 ชั่วโมงขึ้นไป สมรรถภาพของเครื่องที่แรงและดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับพอร์ท USB 3.0 และ พอร์ทส่งข้อมูลความเร็วสูง Thunderbolt (สังเกตหากใครมี Mac รุ่นใหม่ ก็จะมีพอร์ท Thunderbolt ติดมาด้วย) การแสดงกราฟฟิคที่ดียิ่งขึ้น รองรับการชมวีดีโอแบบความละเอียดสูงแบบ HD และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและดียิ่งขึ้นตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน โดยชิพเซต Ivy Bridge จะพัมนาต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของ Haswell ในปี 2013 ด้วย โดย ปี 2012 จะเป็นปีUltrabook เป็นเฟสที่ 2 คาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 40% โดยมีผู้ผลิต 5 ราย ที่เริ่มผลิต Ultrabook แล้ว ตัวอย่างแบรนด์ที่คาดว่าจะผลิตและจำหน่าย Ultrabook ในไทย คือ Acer Asus Lenovo และ Toshiba เป็นต้น ทราบเบื้องต้นมีการผลิตในไทยไว้แล้วประมาณ 1000 เครื่อง
ส่วนในด้านพวก ATOM จะมาใช้เป็นโปรเซสเซอร์สำหรับแทบเล็ต และสมาร์ทโฟน ที่ตอนนี้ยังไม่เห็นอุปกรณ์พวกสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ตที่ผลิตจาก Intel เลย คาดว่า Intel จะพัฒนา Atom นี้ในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ไอทีต่างๆในปี 2012 ด้วย
ส่วนในเรื่องสถานการณ์มหาอุทกภัยในไทย ในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีชะงักและยอดการซื้อสินค้าไอทีลดลง โรงงานกว่า 800 โรงงาน SME กว่า 500,000 ราย ได้รับความเสียหาย อินเทลได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วยเช่นกัน ทำให้ ยอดซื้อคอมพิวเตอร์หายวับไป 400,000 เครื่อง แต่คาดการณ์ว่าหลังวิกฤติน้ำท่วมไทยช่วงไตรมาสแรกจะมีคนซื้อคอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊คใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะ คอมเสียหายจากน้ำท่วม ผู้บริโภคต้องการซื้อคอมใหม่มาใช้ทำงาน และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ 3G ที่คาดว่าจะเริ่มใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วประเทศในปี 2012 นี้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเรื่องราคาของฮาร์ดดิสก์ที่สูงขึ้นก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตคอมพิวเตอร์ จะคลี่คลายภายในไตรมาส 2 ของปี 2012
ปิดท้ายด้วยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นวันฉลองครบรอบ 40 ปีของการเปิดตัวอินเทล™ 4004 ไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นแรกของโลกออกสู่ และส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลกเป็นมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทุกวันนี้ ไมโครโปรเซสเซอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรมหลายพันชิ้นที่ถูกสร้างขึ้น นับตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต ไปจนถึงเครื่องเอทีเอ็ม ยานอวกาศ ซี่โครงเทียม และแผงควบคุมรถยนต์อัตโนมัติ เป็นต้น โดยในงานแถลงข่าวครั้งนี้ทาง อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ได้จัดเค้กพิเศษเป็นรูป Notebook และซีพียู Intel 4004 ซึ่งเป็นซีพียูโปรเซสเซอร์รุ่นแรก มาให้ผู้เข้าร่วมงานแถลงข่าวได้ฉลองและร่วมทานเค้กนี้ร่วมกันด้วย
และนี่คือบทสรุปทิศทางเทคโนโลยีที่คาดว่าวงการคอมพิวเตอร์จะไปในทิศทางนี้ในปีหน้า หากต้องการดูรายละเอียดสามารถติดตามย้อนหลังผ่านทาง Hastag twitter ที่ #intelth