GPS ใกล้ตัว
ทุกวันนี้ หลายท่านคงได้ยินและอาจได้ใช้เป็นประจำในการบอกตำแหน่งนัดพบสถานที่ หรือใช้ในการเดินทางถนนหรือทางเดินไม่ให้หลงทาง หรือจะมีไว้ติดตามเพื่อนว่าเพื่อนๆอยู่ที่ไหน เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการบอกตำแหน่งที่แม่นยำนี้เรียกว่า GPS
GPS ย่อมาจาก Global Positioning System หรือ “ระบบกำหนดพิกัดตำแหน่งบนโลก” โดยอาศัยการคำนวณพิกัด จากดาวเทียม ที่โคจรอยู่รอบโลก โดยรับสัญญาณจากดาวเทียมตั้งแต่ 3 ดวงขึ้นไปทำให้สามารถชี้บอกตำแหน่งได้ทุกแห่งหนบนโลก แต่มีข้อจำกัดในกรณีที่ฟ้าปิด หรืออยู่ในตึก ใต้ทางด่วนก็จะรับสัญญาณดาวเทียมไม่ได้ ส่วนใหญ่จะรับสัญญาณได้ในช่วงท้องฟ้าโปร่งและอยู่ด้านนอกและอาจเน้นอยู่ตรงถนนสายหลักๆต่างๆ และเมื่อสามารถบอกพิกัดที่เราอยู่บนพื้นโลกนี้ได้ ก็เลยนำมาประยุกต์ใช้ได้มากมายจนกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดไปแล้ว
GPS จะทำงานได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ
- สถานีฐาน : มีหน้าที่ควบคุมการทำงาน รวมถึงวงโคจรของดาวเทียม และให้ค่าสัญญาณนาฬิกาที่ถูกต้อง กับดาวเทียม GPS
- ดาวเทียม : จากข้อมูลดาวเทียมที่ให้บริการระบบ GPS ในโลกนี้ ถูกผลิตจาก
- ดาวเทียม GPS NAVSTAR จากสหรัฐอเมริกา ทั้งหมด 24 ดวง
- ดาวเทียม Galileo สร้างโดยสหภาพยุโรป ร่วมกับประเทศจีน อิสราเอล อินเดีย โมร็อกโก ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้ และยูเครน รวมจำนวน 27 ดวง มีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2553
- ดาวเทียม GLONASS (GLObal NAvigation Satellite System) สร้างจากประเทศรัสเซีย
- ดาวเทียม Beidou เป็นดาวเทียม ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโดยประเทศจีน
- เครื่องรับสัญญาณ GPS : ผู้ใช้งานสามารถรับสัญญาณ GPS ได้จากอุปกรณ์หลายๆอย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือที่รับสัญญาณ GPS ได้, GPS Receiver (ต่อกับ computer, มือถือ) หรือ เครื่อง PNA (Personal Navigation Assistant) หรือเรียกง่ายๆว่า GPS Navigator, GPS ติดรถ หรือ Car GPS
ถ้าใครมีโทรศัพท์มือถือแบบ smartphone โดยเฉพาะผู้ที่ใช้มือถือมาพร้อมระบบปฏิบัติการ WindowsPhone , Android , Symbian ที่มี OVI Maps หรืออื่นๆที่มีแถมตัวซอฟต์แวร์ Nevigator ที่ช่วยบอกทางนี้ แสดงว่าเครื่องที่คุณใช้ปัจจุบัน ณ ขณะนี้จะมาพร้อมกับ GPS receiver ที่สามารถระบุพิกัดของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่นการแนบ mylocation ไปกับข้อความใน twitter หรือการบอกตำแหน่งของคุณผ่าน Foursquare ว่าคุณอยู่สถานที่นี้ มีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่ง GPS นี้สามารถประยุกต์ใช้ในสังคมออนไลน์ที่กำลังอินเทรนใน Foursquare นี้ว่า Location Based หรือ Geotaging นั่นเอง ที่ถ่ายภาพพร้อมระบุตำแหน่งว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอย่างไร
แต่ในบางกรณีในการระบุ mylocation หากไม่มีสัญญาณ GPS ก็จะใช้พวกสัญญาณจาก wi-fi หรือเซลต์ตามเครือข่ายเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั่นเอง แต่จะแม่นยำน้อยกว่า GPS ในกล้อง digital หรือโทรศัพท์มือถือในโหมดถ่ายภาพ เดี๋ยวนี้ก็สามารถระบุตำแหน่งพิกัดแนบไปกับรูปภาพที่เราถ่าย ทำให้บอกได้ว่าภาพนั้นถ่ายที่ไหน แม่นยำมาก
ประเภทของ GPS แบ่งออกตามประโยชน์การใช้งานได้ 2 แบบคือ
ระบบนำทาง (Navigation System) โดยโครงสร้างของอุปกรณ์จะมีชุดรับสัญญาณดาวเทียม GPS ขนาดเล็ก ฝังติดตั้งอยู่ภายในแผ่นเซอร์กิต จากนั้นสัญญาณดาวเทียมจะถูกควบคุมด้วยโปรแกรมนำทางอีกที
อย่างไรก็ตามการที่จะใช้ GPS ในการนำทางได้นั้น ต้องประกอบไปด้วยแผนที่สถานที่และถนนต่างๆ ซึ่งในประเทศไทยมีผู้จัดทำแผนที่เพื่อใช้กับ GPS รายใหญ่ๆได้แก่
- ABLE ITS (POWER MAP)
- ESRI (GARMIN)
- MAP POINT ASIA (SMARTMAP)
- BANGKOK GUIDE
- MapKing
- iGO
- SpeedNavi
- Mio Map
- Papago
แผนที่นำ ทางของแต่ละบริษัทจะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไปและข้อมูลแผนที่ของแต่ละค่าย ไม่สามารถนำมาใช้งานกับโปรแกรมของค่ายอื่นได้แม้ว่าจะมีพื้นฐานของข้อมูล ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้เป็นเพราะการรักษาสิทธิทางปัญญาของแต่ละบริษัท
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Google Maps สำหรับมือถือที่มีบริการให้ใช้ฟรี และโปรแกรมแผนที่สำหรับ Nokia อย่าง OVI Maps
ระบบติดตาม (Tracking System) ใช้ในการติดตามสิ่งของที่อยู่ติดกับตัวอุปกรณ์ และในชุดอุปกรณ์จะมี ช่องให้ใส่ซิมการ์ด (โทรศัพท์มือถือ) เนื่องจาก GPS Module จะทำหน้าที่รับสัญญาณดาวเทียม แล้วปล่อยออกมาเป็นข้อมูลพิกัด ณ จุดนั้น จากนั้น ก็ต้องอาศัยระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือส่งพิกัดนี้ ออกไปทาง SMS, EDGE , GPRS เป็นต้น เมื่อปลายทางได้รับข้อมูลแล้วก็จะนำเอาพิกัด ไป Plot กับตารางแผนที่ จึงออกมาเป็นตำแหน่งบนแผนที่ที่อุปกรณ์นั้นติดตั้งอยู่ ระบบนี้ โดยมากจะใช้ติดตามยานพาหะนะ ที่กำลังเป็นที่นิยมกันเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยสามารถนำมาใช้กับการติดตามคน และสัตว์เลี้ยงได้ด้วย
ประยุกต์นำ GPS ใช้งานที่นิยมกันก็คือการ ระบบติดตาม หรือ Tracking System ที่มักนำไปใช้ในระบบการขนส่งหรือ logistic ที่ช่วยให้ทราบตำแหน่งของรถและติดตามได้ว่าออกนอกเส้นทางหรือไม่ ช่วยคำนวณด้วยว่าจะไปถึงจุดหมายเมื่อไหร่ หรือนำไปใช้ติดรถยนต์เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถเพราะหากถูก ขโมยไปก็สามารถระบุตำแหน่งเพื่อติดตามคืนมาก่อนจะออกนอกประเทศไปได้ทันท่วงที ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีอุปกรณ์ GPS กันขโมยรถแบบนี้จำหน่ายอยู่มากมาย
ในต่างประเทศก็ใช้อุปกรณ์ GPS เล็กๆ นำไปผูกคอสัตว์ไว้ถ้าหายไปไหนก็จะได้หาเจอ หรือจะนำมาใช้กรณีเดินเข้าป่า นำติดตัวไปด้วยเครื่องก็จะส่งพิกัดมาบอกได้ว่าอยู่ที่ไหนในกรณีหลงป่าจะได้ตามหากันถูก , คุณแม่บ้านจะแอบเอาใส่กระเป๋าคุณพ่อบ้านไว้เพื่อแอบติดตามดูว่าหลงไปไหนบ้างก็ได้ เดี๋ยวนี้ก็สามารถดูถึงขั้นติดตามเพื่อนๆว่าอยู่ที่ไหนแบบฟรีๆไม่เสียตังค์เช่น Google Latitude ที่ติดมากับ Google Maps บนมือถือ ซึ่งจะรายงานผ่าน GPS แบบ Realtime เกาะติดเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ใช้ช่วยในการคำนวณเพื่อระบุเวลาที่รถโดยสารประจำทางจะมาถึงป้ายรถโดยสารประจำทางและแสดงเวลาบนป้ายอัจฉริยะให้ผู้ที่รอรถอยู่ได้ทราบว่ารถแต่ละสายจะมาถึงเมื่อใด ดังเช่นหลายประเทศในยุโรป ทั้งนี้มีการนำมาใช้กับรถแท๊กซี่และการทำ logistic หรือรถของบริการไปรษณีย์เช่นเดียวกัน
ประโยชน์ของ GPS มีมากมายหลากหลาย ขึ้นกับว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ในทางใดทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและในเชิงธุรกิจ อีกทั้งอุปกรณ์ GPS ยังสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย หลากหลายรุ่น หลากหลายราคา (ซึ่งปัจจุบันก็มีราคาที่ถูกลงมาก) และหลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน ตามความต้องการที่จะนำไป ประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย จึงเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวและช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆ
หากสนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPS พร้อมข้อมูลประวัติอย่างลึก ได้ที่ Wikipedia ประเทศไทย
ข้อมูลจาก GPSTHAIONLINE , GLOBAL5Thailand