สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)(สดร.) ชวนทุกท่านอย่าพลาดที่จะชมสุริยุปราคาบางส่วน ในช่วงเช้าตรู่พุธที่ 9 มีนาคม 2559 หากพลาดแล้วต้องรออีกทีสามปีข้างหน้า
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ทาง สดร.ได้เตรียมพร้อมตั้งจุดสังเกตุการณ์จุดใหญ่ 5 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ที่สวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก ติดศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์/ เชียงใหม่ ที่ดาดฟ้าศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่/ ฉะเชิงเทรา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา อำเภอแปลงยาว/ นครราชสีมา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ สงขลา ที่ลานชมวิวนางเงือก หาดสมิหลา อำเภอเมือง ซึ่งเป็นจุดสังเกตการณ์ที่จะได้เห็นคราสการบังมากที่สุดในห้าจุดนี้ ซึ่งมีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 06.00-10.00 น. เข้าร่วมฟรี
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ท้องฟ้าที่มนุษย์สามารถคำนวณเวลาและสถานที่เกิดล่วงหน้าได้มานานหลายร้อยปีแล้ว และเรายังคำนวณล่วงหน้าจากนี้ไปได้นับแสนปี เพราะสุริยุปราคา เกิดจากดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้ามาบดบัง ดวงอาทิตย์ หากดวงจันทร์มีขนาดปรากฏใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อย ดวงจันทร์จะบดบังดวงอาทิตย์ทั้งดวง ดังเช่นครั้งนี้ เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงในชุดซารอสที่ 130 แนวคราสเต็มดวงพาดผ่านมหาสมุทรอินเดีย ผ่านประเทศอินโดนีเซีย สู่มหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศไทยจะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน เห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากที่สุดทางภาคใต้ ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประมาณร้อยละ 69 และค่อย ๆ เห็นน้อยลงจากใต้ขึ้นเหนือ กรุงเทพมหานครเห็นประมาณร้อยละ 41 และเชียงใหม่ ประมาณร้อยละ 27
ภาพจำลองการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา
(ซ้าย) แผนที่แสดงแนวคราสสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 9 มีนาคม 2559 (ขวา) แผนที่แสดงบริเวณที่สามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาในประเทศไทย วันที่ 9 มีนาคม 2559
ดร. ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สดร. วางแผนเดินทางไปสำรวจและเก็บข้อมูลปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ณ เมืองเตอร์นาเต หมู่เกาะโมลุกกะ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย พร้อมถ่ายทอดสดภาพการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงและเก็บภาพปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงมาฝากชาวไทยด้วย ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระราชหฤทัยและกำหนดเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในวันที่ 9 มีนาคม 2559 ทั้งนี้ทีม สดร. ได้จัดเตรียมกล้องโทรทรรศน์ติดฟิลเตอร์กรองแสงพร้อมอุปกรณ์สังเกตการณ์ ถวายพระองค์ท่านด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่วงการดาราศาสตร์ไทยเป็นล้นพ้น
ทั้งนี้ผู้ชมที่จะชมปรากฎการณ์สุริยุปราคา ต้องใช้อุปกรณ์โดยเฉพาะเท่านั้น ห้ามสังเกตการณ์ด้วยตาเปล่าหรือแว่นกันแดดเด็ดขาด เพราะแสงอาทิตย์จะทำลายเซลส์ประสาทตาจนตาบอดถาวรได้ ห้ามสังเกตการณ์ผ่านกล้องทุกชนิด ทั้งกล้องถ่ายรูป กล้องโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องโทรทรรศน์ที่ไม่ติดฟิลเตอร์ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีเลนส์รวมแสง ยิ่งทวีกำลังของแสงอาทิตย์มากขึ้น นอกจากอันตรายแก่ดวงตาแล้ว อุปกรณ์ดังกล่าวจะเสียหายด้วย
วิธีสังเกตสุริยุปราคาที่ถูกต้องและปลอดภัย หากสังเกตทางตรงต้องใช้กล้องโทรทรรศน์สำหรับดูดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ หรือกล้องโทรทรรศน์ที่ติดฟิลเตอร์กรองแสง หรือสังเกตทางอ้อมโดยใช้ฉากรับแสง สังเกตรูปร่างของเงาที่ทาบลงบนฉากนั้น สามารถใช้อุปกรณ์ที่หาได้ใกล้ตัวเช่น กระดาษทึบ เจาะรูเล็ก ๆ ให้แสงลอดผ่าน แล้วทาบเงาลงบนพื้นผิวอื่น จะเห็นเงาที่ทอดลงเป็นวงกลมเว้าไปบางส่วน สัดส่วนเท่ากับขนาดของคราสในเวลานั้น เรียกว่าหลักการของ “กล้องรูเข็ม” กระชอนคั้นกะทิที่มีรูเล็ก ๆ ลำไผ่เจาะรู หรือแม้แต่ร่มไม้ที่มีแสงแดดลอดลงมาเป็นจุดเล็ก ๆ ก็ใช้เป็นจุดสังเกตการณ์ได้ หรือเดินทางไปที่จุดสังเกตการณ์ของ สดร. และเครือข่ายดาราศาสตร์ทั่วประเทศ ก็จะได้สังเกตเงาคมชัด ฉายผ่านกล้องโทรทรรศน์ และยังมีแผ่นฟิล์มพอลิเมอร์ดำ หรือฟิล์มไมลาร์ ซึ่งเป็นฟิล์มสีดำทึบ ใช้กรองแสงเพื่อสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ได้โดยตรง นอกจากนี้ สดร. ยังผลิต “แว่นตาดูดวงอาทิตย์” กว่าหมื่นชิ้น เพื่อให้ประชาชนใช้สังเกตสุริยุปราคาครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย ณ จุดสังเกตการณ์ทั่วประเทศ
ปรากฎการณ์การเกิดสุริยุปราคาบางส่วนครั้งนี้ ถ้าพลาดแล้วจะต้องรออีกเกือบสี่ปี คือวันที่ 26 ธันวาคม 2562 และเมืองไทยจะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงอีกครั้งในอีก 54 ปี ข้างหน้า วันที่ 11 เมษายน 2613
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกที่จะชมสุริยุปราคาด้วยตนเอง สามารถชมถ่ายทอดสดผ่านทางเว็บไซต์ www.narit.or.th