สมาร์ทโฟนที่หลายท่านอยากได้เป็นอันดับต้นๆ หรือท่านได้ซื้อสิ่งนี้มาด้วยความยากลำบาก เพราะราคาก็กว่า 2 หมื่นบาท เกือบ 3 หมื่นบาทแล้ว และด้วยเป็นสมาร์ทโฟนที่มีแอปพลิเคชั่นมากมายตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย นั่นคือ iPhone นั่นเอง ไหนๆก็ซื้อมาแพงแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกเช่นกันคือข้อมูลภายในตัวสมาร์ทโฟนด้วย บทความนี้จะบอกการตั้งค่า iPhone ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยวิธีง่ายๆถึง 8 ข้อด้วยกัน
1. ตั้งรหัส PASSCODE ล็อคเครื่อง รหัสยาวยิ่งปลอดภัย
โดยไปที่แอป Settings >> เลือก Touch ID and Passcode >>แล้วเลือก Turn Passcode On แล้วตั้งรหัส Passcode 6 ตัวอักษรขึ้นไป ทั้งนี้คุณต้องจำรหัสผ่าน PASSCODE ของ iPhone หรือ iOS ให้ได้ด้วย เพราะถ้าลืมโอกาสปลดล็อคก็ยากมาก การตั้งรหัสนั้นเน้นให้แฮกเกอร์คาดเดารหัสยาก แต่เราต้องจำได้
2. ปิดการแจ้งเตือน ไม่ให้คนอื่นเห็นข้อมูลส่วนตัวผ่าน Lock Screen
โดยไปที่แอป Settings >> เลือก Touch ID and Passcode >> รายการต่างๆใต้หมวด Allow Access When Locked ให้ตั้งค่าเป็น OFF ตรง Today , Notifications View, Reply with Message, Wallet เพื่อให้ปิดแจ้งเตือนต่างปรากฎบนหน้า Lock Screen
3. เปิดใช้งาน Find My iPhone ตามหามือถือ กรณีมือถือหายหรือถูกโจรขโมย
เข้าไปที่ “Settings”เลือกที่ ‘iCloud’ (หากคุณไม่ได้เปิด iCloud ควรเปิดใช้งาน iCloud บนอุปกรณ์ของคุณด้วย ) จากนั้นเช็คที่รายการ “Find My iPhone” ว่าเปิดอยู่หรือไม่ ?
4. ใช้ iCloud หรือ ใช้คอม Backups ข้อมูล
โดยไปที่ “Settings”แล้วไปที่ ‘iCloud’ เช็คตรงรายการ backup ว่า ON หรือไม่
แต่อย่าลืมว่าการ backup ข้อมูลขึ้น icloud นั้นมีข้อจำกัดคือ อินเทอร์เน็ตที่อัปโหลดข้อมูลใช้เวลานาน และ อีกอย่างคือพื้นที่ icloud นั้นให้เพียงแค่ 5GB เท่านั้น แต่ในเครื่อง backup นี้ส่วนใหญ่รวมทั้งหมดแล้วใหญ่กว่า 5GB ด้วย ซึ่งหากต้องการพื้นที่มากกว่า 5GB ก็ต้องซื้อพื้นที่ออนไลน์เพิ่ม ยอมเสียเงินแบบรายเดือนกันไป
อีกวิธีที่ทีมงานแนะนำคือ นำอุปกรณ์ iOS พร้อมสาย Lightning มาเสียบกับพอร์ต USB คอมส่วนตัว เพื่อทำการ Backup ลงเครื่องคอมผ่านทาง iTunes จะดีกว่า ไม่ต้องใช้เน็ต ใช้เวลาเร็วกว่า ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และที่สำคัญ สามารถกู้เครื่อง iOS ในกรณีฉุกเฉินเช่น ลืมรหัสปลดล็อค PASSCODE ได้ด้วย
5.เปิดตั้งค่ายืนยันการตรวจสอบ 2 ขั้นตอน
วิธีนี้ คนร้ายจะ Hack ลำบากขึ้น เพราะทันที่ที่จะ Login เข้าสู่ระบบสำเร็จนั้นต้องมีรหัสที่ 2 ซึ่งรหัสผ่านที่ 2 นั้นจะส่งให้เจ้าของบัญชีผ่านทาง SMS รายละเอียดอ่านที่บทความ วิธีป้องกันการถูกขโมย Apple ID ด้วยการเปิดใช้ 2-step verification
6. ควบคุมความเป็นส่วนตัว Pivacy บนเครื่อง
การควบคุมความเป็นส่วนตัวบน iOS ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าแอพใดที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนอุปกรณ์ iOS ของคุณ เช่น คุณสามารถอนุญาตแอพเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้ใช้กล้องของคุณ เพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดภาพได้ เป็นต้น ซึ่งก็มีบางแอปที่ขอสิทธิ์เข้าถึงมากเกินไป ทั้งๆที่หน้าที่ของแอปที่ใช้ ไม่ใช่ข้อมูลบนเครื่องแบบนั้น
คุณสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัว Privacy ได้ที่ แอป ‘Settings’ แล้วเลือก “Privacy”
แล้วลองค้นหาแอปที่สงสัยในแต่ละหมวดเช่น หมวด“Location Services” รายชื่อ , รูปภาพ , ไมค์โครโฟน และ กล้อง หากเจอแอปที่น่าสงใสให้ทำการ OFF แอปนั้นไม่ให้เข้าถึงข้อมูลในเครื่องได้
7.อย่า Jailbreak เพื่อลงแอปนอก Store
การ Jailbreak นี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้มัลแวร์ระบาดอยู่บนอุปกรณ์ iOS และเสี่ยงทำให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญรั่วไหลได้ ไม่ปลอดภัย
8.อัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อความปลอดภัยที่ยิ่งขึ้น
โดยตรวจสอบและอัปเดตไปยังเวอร์ชั่นใหม่ โดยเข้าไปที่ “Settings” แล้วเลือกที่ “Software Update” ถ้ามีรายการอัปเดตล่าสุดแล้ว ให้แตะที่ Install เพื่ออัปเดตไปยังเวอร์ชั่นใหม่ แค่นี้เครื่องของคุณก็จะปลอดภัยขึ้น และมีฟีเจอร์เยอะขึ้นด้วย
หากตั้งค่า iPhone โดยทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะทำให้ iPhone ของคุณมีความปลอดภัยขึ้น