True IDC Chromebook มาอยู่ในมือเราแล้ว โดยครั้งนี้ True IDC จับมือกับ Google เปิดตัว True IDC Chromebook คอมพิวเตอร์สายพันธุ์ใหม่ ที่ Google ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งาน Cloud Computing เต็มรูปแบบ ในยุคที่พวกเราส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อต่อเชื่อมและทำงานบนอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก
Chromebook ได้รับความนิยมเพิ่มสูงมากในอเมริกาในปีที่ผ่านมา ด้วยราคาที่ประหยัดและตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ดี แม้หน้าตา Chromebook จะเหมือน Notebook แต่มันไม่ใช่ Notebook เพราะ Chromebook ทำงานด้วย Chrome OS ระบบปฏิบัติการที่สร้างโดย Google เพื่อให้เป็น Cloud operating system ตัวแรกของโลก สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบเพื่อใช้งานออนไลน์โดยเฉพาะ ในยุค cloud computing
แล้ว Cloud computing คืออะไร?
ถ้าคุณใช้ Gmail, Google Drive, Google Docs, Google+, facebook, dropbox หรือ Web-based applications ต่างๆ คุณกำลังใช้ บริการ Cloud computing นั่นเอง ซึ่ง Cloud computing ก็คือการที่เราใช้กำลังประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆจากผู้ให้บริการ เพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายเอง ซึ่งก็มีทั้งแบบบริการฟรีและแบบเก็บเงิน
หากตีความหมายง่ายๆ คือการที่เราใช้ซอฟต์แวร์, ระบบ, และทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆเช่น นาฬิกา กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเกม ทีวี ฯลฯ เป็นต้น เรียกใช้ข้อมูลได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ มีความปลอดภัย
ทำไมต้อง Cloud computing?
Cloud Computing ทำให้เราทำงานได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware และ Software เองทั้งระบบ ไม่ต้องวางระบบเครือข่ายเอง ลดความรับผิดชอบในการดูแลระบบลง (เพราะผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลให้เอง) แถมตอนอัพเกรดระบบยังทำได้ง่ายกว่า
ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบ ข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถจัดการ บริหารทรัพยากรของระบบ ผ่านเครือข่าย และมีการแบ่งใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ด้วย สามารถใช้บริการฟรีบนอินเตอร์เน็ต หรือจ่ายเงินเพื่อเช่าระบบ ตามการใช้งานจริง ดังนั้นธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง รวมไปถึงสถาบันการศึกษา จึงหันมาใช้บริการ Cloud Computing ที่ทั้งช่วยลดต้นทุนและลดความยุ่งยากในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่บทความ Cloud Computing คืออะไร? ดีอย่างไร?
Chrome OS คืออะไร?
Chrome OS เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบและสร้างโดย Google สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านออนไลน์และใช้เข้าเว็บ ทำงานบนเว็บเป็นหลัก เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 โดยระบบปฏิบัติการนี้พัฒนาต่อจากเว็บเบราวเซอร์ Chrome และ Linux ให้ตัว chrome ที่จากเดิมเคยเป็นโปรแกรมเว็บเบราวเซอร์ของระบบปฏิบัติการอื่นๆอย่าง Windows , OS X กลายเป็นระบบปฏิบัติการเอง
ถ้าดูหน้าตาของ Chrome OS ก็เหมือน Chrome ที่เป็น Web Browsers มาก มีระบบจัดการไฟล์ที่เชื่อมต่อกับ Google drive โดยตรง โปรแกรมส่วนใหญ่ที่เราจะใช้บน Chrome OS ก็คือ เหล่าเว็บแอปพลิเคชัน (แอปพลิเคชันที่พัฒนาด้วยเว็บเทคโนโลยีสามารถทำงานได้เหมือนโปรแกรมและจะทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์) ผู้ที่ใช้ Google Chrome เป็นประจำก็จะไม่มีปัญหาการปรับตัวใช้งานกับ Chromebook
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่ทำงานได้บน Chrome OS นั้นมีหลายประเภท หากไปดูที่ Chrome web store ก็จะมีโปรแกรมให้เลือกติดตั้งได้ ประกอบด้วย Apps และ Extension ซึ่ง Apps จะแบ่งเป็น Chrome apps และ Websites ซึ่ง Apps ประเภท Chrome apps นั้นจะมีความสามารถมากกว่าเว็บแอปพลิเคชันทั่วไป เช่น สามารถใช้ความสามารถต่างๆของ OS ได้ โดยเรียกใช้ Chrome API สามารถเชื่อมต่อใช้งานอุปกรณ์ภายนอกได้ ทำงานได้รวดเร็วแบบ native apps ปรับแต่งหน้าต่างแสดงผลได้เป็นต้น และจะมีการติดตั้ง component บางส่วนหรือทั้งหมดลงบน Chromebook อีกด้วย …… ส่วน Apps ประเภท Websites ก็คือ เว็บแอปพลิเคชันที่ host อยู่บน server และสามารถใช้งานบน browser อื่นๆได้แทบไม่ต่างกันกับ Chrome …….สำหรับ Extension คือส่วนเสริมที่เพิ่ม features บางอย่างให้ตัว Chrome browser ….. และล่าสุด Google ยังออก ARC Welder (App Runtime for Chrome) Developer tool ที่ทำให้ Chrome OS รัน Android Apps (ไฟล์ APK) ได้อีกด้วย สำหรับรายละเอียดมากกว่านี้ เราขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ แต่นี่ก็แสดงให้เห็นว่า Chrome OS กำลังมีวิวัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ และคงจะมีทางเลือกที่ต่างออกไปได้อีกในอนาคต
แล้วตกลง Chromebook คืออะไร?
Chromebook คือคอมพิวเตอร์ประเภทใหม่ เป็นอุปกรณ์ cloud era device โดยออกแบบเพื่อเป็น client ของ cloud โดยเฉพาะ ให้เข้าถึงเว็บได้อย่างรวดเร็วที่สุด ใช้งานง่าย การเก็บไฟล์งานส่วนใหญ่จะไม่เก็บบนตัวเครื่อง Chromebook แต่จะเก็บบน Cloud แทน เรียกง่ายๆว่าข้อมูลของคุณจะถูกเก็บไว้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวบนโลกอินเทอร์เน็ต และสามารถเรียกใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต โดย Chromebook ทุกรุ่น ทำงานกับระบบปฏิบัติการ Chrome OS เป็นหลัก คิดง่ายๆคือทุกสิ่งทุกอย่างทำงานผ่านทางเบราว์เซอร์ Chrome ทั้งหมด และมีซอฟต์แวร์หลักแค่ Chrome เพียงตัวเดียว ส่วนซอฟต์แวร์อื่นๆ จะเป็นเวบแอพที่ใช้งานผ่าน Chrome ซึ่งแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการอื่นๆ อย่าง Windows , Mac , Linux ที่มีซอฟต์แวร์ติดตั้งและทำงานภายในตัวคอมหลายตัว
ประโยชน์จากการใช้งาน Chromebook
- เปิดเครื่องแล้วรอเพียง 7 วินาที ก็พร้อมใช้งานทันที และทำงานเร็วแบบเสมอต้นเสมอปลาย
- แทบจะไม่มีโอกาสเจอปัญหาไวรัส มัลแวร์ ในตัว Chromebook เพราะมัลแวร์ไม่สามารถ install ตัวเองลงบน Chromebookได้ และทันทีที่เข้าเว็บที่เป็นเว็บอันตราย Chrome จะแจ้งเตือนทันที และแม้เข้าถึงเว็บอันตราย ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับรายการอื่นๆ ในเครื่องของคุณ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็อาจมีปัญหาความปลอดภัยได้จากการที่ผู้ใช้ไปเลือกติดตั้ง Chrome apps และextension ที่ไม่น่าเชื่อถือ มีเคสตัวอย่างที่โรงเรียนนำไปใช้แล้วทำให้คุณครูลดเวลาที่จะต้องเสียไปกับการดูแลเรื่องมัลแวร์ได้อย่างมาก
- ทุกวันนี้ก็มีแอพให้เลือกมากมายจากทุกหมวดให้โหลดได้ทาง Chrome Web Store ซึ่งส่วนมากจะติดตั้งแบบเว็บแอพ ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ลงเครื่อง ทำให้ระบบมีความเสถียร ไม่เกิดปัญหา เครื่องแฮงค์หรือ crash จากความผิดพลาดของการทำงานของซอฟต์แวร์ที่เราลงไว้ในเครื่องอย่างระบบอื่น
- รองรับการทำงานทั้งแบบ Online และแบบ Offline แม้ไม่ได้ต่อเน็ต หรือเน็ตถูกตัด ก็ยังสามารถใช้งานผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่นได้อย่างต่อเนื่อง หากเว็บแอพพลิเคชั่นนั้นรองรับการทำงานแบบ Offline เช่น Google docs , sheets , slide เป็นต้น
- เนื่องด้วยหลักการของCloud computing จะประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลบน Cloud เป็นหลัก ไม่ใช่บนเครื่องของเรา ดังนั้น Chromebook จึงไม่จำเป็นต้องใช้ CPU ที่มีกำลังสูงและไม่ต้องการ Ram และ Harddisk ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ Chromebook ประหยัดพลังงาน สามารถใช้แบตเตอรี่ได้นานกว่า Notebook ทั่วไปที่มีความจุแบตเตอรี่เท่าๆกัน และที่สำคัญที่สุดคือยังทำให้ราคาเครื่องถูกกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป
ข้อจำกัดที่จะพบจากการใช้ Chromebook
- แม้ว่าเว็บแอพพลิเคชั่นหลายตัวจะรองรับการทำงานแบบ Offline แต่การใช้งาน Chromebook ให้ได้เต็มประสิทธิภาพจะต้องมีอินเตอร์เนตเชื่อมต่อตลอดเวลา และต้องมีความเร็วพอสมควรอีกด้วย ไม่เช่นนั้นเราก็คงจะต้องหงุดหงิดอย่างมากกับการรอการรับส่งข้อมูล Chromebook บางรุ่นในอเมริกาสามารถใส่ sim เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เนตผ่าน 4G ได้ แต่ True IDC Chromebook รุ่นที่รีวิวนี้ใส่ sim ไม่ได้ แต่หากใส่ได้ผู้ใช้ก็ต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรับส่งดาต้าจำนวนมากตลอดเวลา
- ข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดคือ Chromebook ไม่สามารถลงโปรแกรมแบบดั้งเดิมที่เราเคยรันบน windows ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีเว็บแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้งานแทบทุกประเภทบน Chrome web store ก็ตาม แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ software บางอย่างที่เคยใช้เป็นประจำเช่น Photoshop หรือ software เฉพาะขององค์กรที่เคยใช้งานบน Windows ล่ะก็ Chromebook ไม่เหมาะจะเป็นคอมเครื่องหลักของคุณ แต่อาจจะเหมาะเป็นคอมเครื่องที่ 2 สำหรับพกพาและใช้งานอื่นๆมากกว่า แต่ถ้าจำเป็น ก็สามารถใช้แอพ Chrome remote desktop บน Chromebook เชื่อมต่อเข้าไปควบคุมและใช้งานเครื่องที่บ้านหรือเครื่องที่ทำงานผ่านอินเตอร์เนตได้ (ซึ่งเราได้ทดลองดูแล้ว ใช้งานได้เวิร์คทีเดียว)
แกะกล่อง True IDC Chromebook
รู้จักกับ Chromebook กันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว มาลองแกะกล่อง True IDC Chromebook กันเลย…..
เมื่อเปิดกล่องจะพบกับอุปกรณ์ภายในกล่อง คือ ตัวเครื่อง True IDC Chromebook, Adaptor ปลั๊กชาร์จไฟ, และ หนังสือคู่มือใช้งาน True IDC Chromebook
สเปคของ True IDC Chromebook
• หน้าจอ 11.6 นิ้ว (1366 x768 ) LCD • ระบบภาพ ARM Mail-T764 GPU • น้ำหนัก 1.15 กิโลกรัม • ขนาด 290 x 205 x 21 mm • ซีพียู Rockchip RK3288 Quad-Core 1.8 GHz • RAM 2GB DDR3L • SSD ความจุ 16 GB eMMC + Google Drive 100 GB 2ปี • ระบบเสียง ลำโพงภายใน 2 ตัว / ไมโครโฟนภายใน 1 ตัว / ช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน ขนาด 3.5 mm |
• กล้องเว็บแคม คมชัดระดับ HD 720P • ช่องเสียบ USB 2 พอร์ต • ช่องเสียบ HDMI 1 พอร์ต • ช่องอ่าน SD Card 1 ช่อง • แบตเตอรี่ 31.08 WH ลิเธียมแบตเตอรี่ • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi Dual band 802.11 a/b/g/n/ac Bluetooth 4.0 • ระบบปฏิบัติการ Chrome OS • ไฟฟ้า 12 โวลต์ 2 แอมป์ |
ตัวเครื่องภายนอก True IDC Chromebook จัดว่าดูดีน่าใช้ทีเดียว และยังกันกระแทกอีกด้วย …. ส่วนซีพียูประมวลผลจะเห็นว่าไม่ได้ใช้สเปคแบบสูงๆ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น Chromebook ไม่จำเป็นต้องสเปคสูงมาก เพราะการประมวลผลหนักๆไม่ได้ประมวลผลที่เครื่องนี้ แต่ทำบน cloud ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องมาก เพราะเราจะเก็บบน cloud ….ทำให้ราคาเครื่องถูกลงได้ น้ำหนักเบา พกพาง่ายและประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับฮาร์ดดิสก์ SSD ขนาด 16 GB นี้เป็นขนาดมาตรฐานของ Chromebook โดยทั่วไป และมีจุดประสงค์หลักไว้ให้ Chrome OS ใช้ทำงาน และจัดเก็บไฟล์แบบชั่วคราวมากกว่าจะใช้เก็บข้อมูลแบบถาวร ดังนั้นในการใช้งาน Chromebook ผู้ใช้ควรจะต้องมี Cloud storage ของตัวเอง ซึ่งTrue IDC Chromebook เครื่องนี้มาพร้อมโปรโมชั่นให้พื้นที่ Google Drive ฟรีสูงถึง 100 GB นาน 2 ปี (พื้นที่ขนาดนี้ ปกติราคาเดือนละ 1.99 USD) โดยเข้าไป Redeem เพื่อขอรับพื้นที่โดยดูรายละเอียดได้ ที่นี่ และสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ แต่หากคุณเป็นนักศึกษาที่มีบัญชี Google Apps for Education ซึ่งได้รับแจกจากมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว หรือเป็นผู้ใช้ Google Apps for Work คุณจะมีพื้นที่ Google Drive แบบไม่จำกัด และ File manager ของ Chromebook จะต่อเชื่อมกับ Google Drive นี้โดยตรง ใช้ได้เหมือนว่าไดรฟ์อยู่บนเครื่องเราแต่มีพื้นที่จัดเก็บไม่จำกัด ราวกับกระเป๋าโดเรมอนยังไงยังงั้น และเพราะข้อมูลอยู่บนอินเทอร์เน็ตทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าหากเครื่องพังหรือหายแล้วข้อมูลเราจะหายไปด้วยอีกต่อไป (ก็เราเอากระเป๋ามิติที่4 อันสำรองมาใช้ได้นี่) แต่ทั้งนี้ password ทั้งหลายต้องตั้งให้ปลอดภัยและรักษาให้ดีด้วย อีกทางเลือกของ cloud storage ที่เชื่อมกับ Chromebook ได้แบบ native ไม่ผ่าน browser คือ box.com และน่าจะมีเพิ่มเติมอีกในอนาคต ส่วนการใช้งาน External HDD, USB Drive, SD Card สามารถเสียบใช้ได้เลยเหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป
ก่อนที่จะเริ่มใช้ตัว Chromebook สิ่งสำคัญที่ต้องมีไว้คือ อินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ผ่านทาง Wifi ที่บ้าน , Wifi ที่ทำงาน หรือ wifi สาธารณะเช่นตามห้าง ตามโรงเรียนหรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อเข้ากับ สมาร์ทโฟนที่ปล่อยสัญญาณ Personal Wifi Hotspotได้ด้วย ยังไงต้องรอดู วันเปิดตัวว่าจะมี package อะไรของ Truemove H 3G 4G wifi หรือเปล่า แต่คาดว่าจะมี package เนตที่น่าสนใจมาด้วย ซึ่งสำหรับราคาของ True IDC Chromebook เครื่องนี้ จะราคาเท่าไหร่ ก็ต้องรอทราบชัดเจนในวันเปิดตัวเช่นเดียวกัน
เริ่มใช้งาน เปิดเครื่อง True IDC Chromebook ขึ้นมา เท่าที่ทดสอบจะเห็นว่า Chromebook เปิดเครื่องใช้เวลาประมาณ 7 วินาที ก็พร้อมใช้งานในการตั้งค่าครั้งแรกทันที
โดยขั้นตอนนี้ให้เราทำการเชื่อมต่อ internet ผ่านทาง Wi-fi หรือ personal wifi ของเรา
เสร็จแล้วให้เราคลิกตกลง ยอมรับและดำเนินการต่อ ตามข้อกำหนดของ Chrome OS
จากนั้นให้ทำการ sign in ด้วยบัญชี Google เลย หากไม่มีก็คลิกที่สร้างบัญชี Google ทาง Google ก็จะเปิดเบราว์เซอร์ Chrome เพื่อให้คุณเข้าไปสมัครบัญชี Google ให้ฟรี
โดยคู่มือการใช้งาน Chromebook จะอยู่ในไอคอน รับความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นภาษาไทยด้วย หากสงสัยก็คลิกไอคอนนั้นเพื่อดูวิธีใช้งานได้ทันที และตรงแถบด้านมุมซ้ายล่างจะมีแอพต่างๆของ Google เช่น Chrome , Gmail , Google search, Docs และ Youtube เมื่อคลิกแล้ว จะเปิดเบราว์เซอร์ Chrome เข้าสู่แอพนั้นๆ
ส่วนไอคอนมุมซ้ายล่างสุดเมื่อคลิกจะเห็นแอพต่างๆทั้งหมดบน Chromebook ซึ่งตอนแรกจะเป็นบริการต่างๆของ Google และสามารถลบแอพได้จากหน้าต่างนี้ทันที
ส่วนการติดตั้งแอพเพิ่มเติมนั้น ให้คลิกที่ ร้านค้าบนเว็บ เข้าสู่ Chrome Web Store และเลือกติดตั้งตามต้องการ
ส่วนการใช้พิมพ์งานที่หลายคนขาดไม่ได้ ก็คลิกที่ ไอคอน Google docs ซึ่งจะเปิดเว็บไซต์ Google docs หน้าพิมพ์เอกสารให้คุณพิมพ์ได้ทันทีและจะบันทึกลงบน Google drive ของคุณด้วย
การสลับการพิมพ์ภาษาระหว่างไทยกับอังกฤษ ให้กดแป้น ctrl + spacebar ก็จะสามารถสลับพิมพ์อังกฤษ – ไทย ได้แล้ว ซึ่งการใช้ Google docs เมื่อออนไลน์แล้วจะไม่ต้อง save ลงเครื่อง เพราะจะบันทึกบน Google drive โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังรองรับการค้นหาด้วยเสียงด้วย เพียงแตะที่ไอคอนไมค์แล้วพูดในสิ่งที่ต้องการค้นหา
ในกรณีต่อ HDMI ตัวเครื่อง Chromebook จะแสดงผลออกจอทีวี หรือจอคอมโดยอัตโนมัติ ทำงานแบบ Plug and Play พร้อมใช้งานได้ทันที
สำหรับการเพิ่มผู้ใช้ และแชร์สลับผู้ใช้เครื่อง Chromebook ก็ทำได้ง่าย โดยไม่ต้องห่วงเรื่องข้อมูลส่วนตัว เพียงแค่ต่างคนต่าง login ด้วยบัญชี Google ของตัวเอง (แต่คุณก็อย่าเผย password ของคุณให้คนอื่นทราบล่ะ)
จะทำงานต่างๆในชีวิตประจำวันด้วย Chromebook อย่างไร?
- ทำงานสร้างเอกสาร และแก้ไขเอกสาร
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราก็สามารถใช้บริการฟรีๆได้ทันที อย่าง Google Docs , Sheet , Slide ซึ่งงานเอกสารต่างๆที่ทำด้วย Google Docs ก็สามารถ export เป็นไฟล์ สกุลเดียวกันกับ Microsoft Office เพื่อใช้ทดแทนหรือใช้ร่วมกับ Microsoft Word , Excel , PowerPoint ได้ (ทำความ รู้จักกับ Google Docs บริการฟรี ให้ทำงานเอกสารได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ คลิ๊ก) โดยเมื่อเราจะใช้งาน ก็สามารถคลิ๊กที่ไอคอน Google docs บนเครื่องได้เลย หรือจะเลือกใช้ MS Office 365 ของทาง Microsoft ผ่านเว็บแอพพลิเคชั่นก็ได้เช่นเดียวกัน
- ตกแต่งภาพ
ก็มีบริการแต่งภาพฟรีๆ ไม่ต้องซื้อซอฟต์แวร์แต่งภาพเลย เช่น แอพ Google+ Photo ซึ่งเป็นบริการ backup ข้อมูลรูปภาพ พร้อมระบบแต่งจัดการทำเป็นวีดีโอไฮไลท์โดยอัตโนมัติ , Pixlr ที่ให้คุณสามารถใช้เครื่องมือแต่งภาพใกล้เคียงกับ Photoshop โดยไม่ต้องติดตั้ง Software และใช้งานได้ฟรี หากเป็นไฟล์ภาพบน google drive จะมีชุดเครื่องมือแต่งภาพให้ทันที เพียงคลิกขวาที่รูปภาพแล้วเลือกแอพที่ต้องการ
- ตัดต่อวีดีโอ
ดูสเปค Chromebook แล้ว อาจจะคิดว่า ตัดต่อวีดีโอไม่น่าจะลื่นไหล แต่เมื่อทดสอบแล้ว Chromebook สามารถตัดต่อได้ และทำได้ดีทีเดียว โดยสามารถใช้การตัดต่อผ่าน Cloud ไปเลย ซึ่งการ render คลิปของ Chromebook จะใช้การประมวลผลบน Cloud เราสามารถใช้เว็บไซต์ WeVideo ในการตัดต่อ และดึงคลิปผ่านทาง google drive , onedrive , dropbox มาตัดต่อวีดีโอบนตัวเบราว์เซอร์ เป็นต้น (สามารถโหลด WeVideo ทาง Chrome Web Store ได้ด้วย)
การตัดต่อผ่าน ChromeBook ด้วย WeVideo นี้ สามารถตัดต่อได้แบบไม่ต้องใช้คอมสเปคแรงเลย เพียงแค่ขอให้มีเน็ตแรงๆในการต่ออินเทอร์เน็ตก็พอ และไฟล์วีดีโอบนพื้นที่ Cloud ส่วนตัว (เช่น Google Drive กับ Cloud Drive ที่เตรียมสำหรับดึงมาตัดต่อ และขณะ render ก็ไม่ต้องรอจนเสร็จ สามารถปิดหน้าต่างและทำงานคลิปโปรเจคใหม่ หรือทำงานอื่นได้ทันที และการเรนเดอร์นั้น สามารถโพสต์ขึ้น facebook , youtube หรือจะดาวน์โหลดเป็นไฟล์วีดีโอได้ด้วย
- สั่งปริ้นท์งานได้ทุกที่
ด้วยบริการ Google Cloud Print ถ้า printer เป็นรุ่นที่ระบุว่า Cloud ready จะสามารถสั่งปริ้นท์ผ่านออินเทอร์เน็ตได้ทันทีจากที่ไหนก็ได้ โดย printer ไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมแต่เชื่อมกับ Internetโดยตรง แต่ถ้าเป็น printer รุ่นเดิมจะสั่งผ่านเครื่องคอมที่เชื่อมต่อ printer นั้นอยู่โดยอาศัย Chrome extension
นอกจากนี้ ยังมีแอพฟรีและแอพราคาถูกอีกมากให้เลือกใน Chrome Web Store ไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมเถื่อน ส่วนเรื่องการใช้งาน Social Network ก็ สามารถใช้งานผ่านทางเว็บปกติเช่น facebook, twitter เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว จากที่เราได้ทดสอบ True IDC Chromebook แล้ว พบว่า ตัวเครื่องดูดี น่าใช้ทีเดียว แถมกันกระแทก ขนาดเครื่องกะทัดรัด พกง่าย น้ำหนักเบา และทำงานเงียบมาก เพราะไม่ใช้พัดลมเลย และแม้ไม่ได้ใช้พัดลมตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนแต่อย่างใดและสามารถใช้งานได้ทั้งวัน แบตไม่หมด ท่องเว็บรวดเร็ว การทำงานทั่วๆไป ก็มีโปรแกรมฟรีให้ใช้อย่างถูกลิขสิทธิ์มากมาย ส่วนเรื่องราคา หลังจากเปิดตัวและเผยราคาออกมาแล้ว อันนี้คงต้องแล้วผู้ซื้อจะพิจารณากัน
ข้อสรุป True IDC Chromebook เหมาะกับใคร?
ผู้ใช้ทั่วไป
- ใช้ได้ทั้งคนทำงาน นักเรียนนักศึกษา เพียงแต่จะทำงานให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องพึ่งพา Internet (แต่ด้วยยุคนี้ การหา internet ใช้ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะสถานที่จำนวนมากก็มี internet ให้ใช้ หรือเราสามารถใช้ผ่าน 3G/4G ได้)
- นักเรียนนักศึกษาที่มี account Google Apps for Eduction หรือ ผู้ที่มี Google Apps for work Chromebook จะทำให้คุณใช้ประโยชน์จาก account คุณได้อย่างเต็มที่
- Chromebook เหมาะจะเป็นคอมเครื่องที่ 2 สำหรับหลายๆบ้านที่จะมี PC ไว้ใช้ร่วมกันในครอบครัว Chromebook จะเหมาะกับเป็นคอมเครื่องที่ 2 ให้เด็กเอาไปเรียน หรือ เราเอาไว้ใช้เดินทาง โดยใช้ข้อมูลบน cloud ร่วมกับเครื่องที่บ้าน ด้วยราคาที่ไม่แพง ผู้ปกครองก็ซื้อให้ลูกๆไว้ใช้งานได้ไม่ยาก และตัวเครื่องมีความทนทาน ไม่ต้องเป็นห่วงมาก
- Chromebook เหมาะกับผู้สูงอายุและเด็กเล็กเพราะใช้ง่าย ไม่ซับซ้อนและไม่ต้องดูแลมาก ปลอดภัยจากไวรัส มัลแวร์ต่างๆ และมีระบบ Parental control บล๊อคไม่ให้เด็กเล็กเข้าถึงเว็บไม่พึงประสงค์ต่างๆได้ด้วย
ผู้ใช้องค์กร
- สำหรับ SME หรือ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรที่ใช้หรือสนใจจะใช้บริการระบบ Cloud computing ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Google Apps, Office 365 หรือบริการ cloud ประเภทอื่นๆ เช่นบริการ cloud จาก True IDC และใช้ Notebook, PC เป็น Client เพื่อเชื่อมต่อเข้าไปใช้งานเท่านั้น Chromebook ดูจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า ด้วยราคาที่ประหยัดและแทบไม่ต้องการการดูแลจากฝ่ายไอที ไม่ต้องอัพเกรดบ่อยๆ ลดเวลาการดูแลแก้ปัญหาเรื่องไวรัสลงไปได้มาก สามารถใช้งบประมาณที่เหลือไปเช่าใช้บริการ Cloud ต่างๆเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร ซึ่งอันที่จริงศักยภาพของ Chromebook อยู่ที่ Cloud ดังนั้น Chromebook + Cloud คือโซลูชั่นที่องค์กรน่าจะพิจารณาเมื่อนำไปเทียบกับงบประมาณการจัดซื้อ PC/Notebook + Software
- ถ้าคุณเป็น โรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษา คุณทราบหรือไม่ว่า Google Apps for Education นั้น ฟรี!