ช่วงกันยายนที่ผ่านมา 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการมือถือสมาร์ทโฟน อย่าง Apple และ Samsung ต่างก็เปิดตัว smartphone จอใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน หลายคนบอกว่า กินกันไม่ลง…..ฟาก Apple ก็เปิดตัว iPhone 6 Plus ซึ่งเป็น iPhone ที่จอใหญ่ที่สุด ส่วน Samsung ก็เปิดตัว Galaxy Note 4 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ระดับเรือธงที่มาพร้อมปากกา S-Pen ที่ให้คุณใช้งานเขียนและวาดบนมือถือที่มีลูกเล่นมากมาย
ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ…..แค่อยากจะถามว่า คุณ ชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน ระหว่าง Galaxy Note4 กับ iPhone 6 Plus?
คุณผู้อ่านกรุณาช่วยโหวตได้ที่ ด้านล่างของบทความนี้นะคะ
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะอ่านรายละเอียดการเปรียบเทียบ 2 รุ่นนี้ดูก่อน ลองอ่านดู แล้วค่อยโหวตกันก็ได้ค่ะ^_^
หรืออาจจะ >> คลิกที่นี่ เพื่อข้ามบทความไปโหวตกันเลยก็ได้เช่นกันค่ะ
มาลองเปรียบเทียบคุณสมบัติของทั้ง 2 ตัวนี้กัน…..
วัสดุตัวเครื่อง
ภาพข้อมูลขนาด iPhone 6 Plus
- iPhone 6 Plus ทำด้วยโลหะอลูมิเนียม
- Galaxy Note 4 ทำด้วย Faux Leather ส่วนตัวฝาปิดด้านหลังยังทำด้วยพลาสติก
จากที่ได้ลองจับ iPhone 6 Plus แล้ว แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบตัวเครื่องที่สวย แต่การจับแล้วค่อนข้างลื่น ซึ่งถ้า iPhone 6 Plus ลื่นหลุดมือ มีโอกาสตกพื้นสูง ในขณะที่ Galaxy Note 4 นั้นฝาหลังทำจากพลาสติก บุด้วยหนังเทียม ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน และการจับมือถือเหมือนจับวัสดุหนัง
ขนาดตัวเครื่อง
- ความบางของเครื่อง iPhone 6 Plus บาง 7.1 mm ซึ่งบางกว่า Galaxy Note 4 ที่มีความบาง 8.5mm
- น้ำหนักของ iPhone 6 Plus หนัก 172 กรัม ส่วนน้ำหนักของ Galaxy Note 4 หนัก 176 กรัม
- ขนาดหน้าจอ iPhone 6 plus 5.5” ส่วน Galaxy Note 4 ขนาด 5.7” จึงทำให้การแสดงผลของ Galaxy Note 4 จะแสดงได้เต็มตากว่า iPhone 6 Plus เล็กน้อย
- สีของตัวเครื่อง iPhone 6 Plus มีสีเงิน , สีทอง และ สีเทา space gray , ส่วน Galaxy Note 4 มีสีดำ (Charcoal Black), สีขาว (Frost White), สีทอง (Bronze Gold) และสีชมพู (Blossom Pink)
ความละเอียดหน้าจอ
iPhone 6 Plus เป็น iPhone รุ่นแรก ที่แสดงผลแบบ Full HD 1920×1080 401 PPI ซึ่งชัดกว่า iPhone 6 ที่ความคมชัดระดับ HD ( ไม่ใช่ Full HD ) ทั้งนี้ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ IPS
Galaxy Note 4 มีความละเอียดแบบ Quad HD (2560×1440 515 ppi ) หน้าจอ Super AMOLED ซึ่งโดยรวมแล้ว Galaxy Note 4 มีความละเอียดสูงกว่า iPhone 6 Plus
ปากกา
iPhone 6 Plus ไม่มีปากกา แต่ Samsung Galaxy Note 4 มีปากกา sPen ไว้สำหรับจด วาด เขียน และเสริมลูกเล่นในการเรียกคำสั่งด้วย Air Command ซึ่งมีมาตั้งแต่ Galaxy Note 3 แล้ว และ Galaxy Note4 สามารถใช้ปากกาในการแบ่งควบคุมหน้าต่าง Multi Windows ได้ ซึ่งปากกา sPen ที่มีความแม่นยำในการเขียน ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นไม่น้อย เช่นสามารถใช้เซ็นเอกสารแล้วส่งแบบ electronic ได้ง่ายๆ ใช้ลากเส้น วาด เขียน หรือเขียนตัวอักษรด้วยลายมือ แล้วระบบแปลงเป็นตัวพิมพ์ให้เป็นต้น
เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ
Touch ID ของ iPhone 6 Plus
การสแกนลายนิ้วมือ Galaxy Note 4
ด้านเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ iPhone 6 Plus มี Touch ID ส่วน Note 4 ก็มีเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือเช่นกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ออกแบบไว้สำหรับรักษาความปลอดภัยในการปลดล็อคหน้าจอ แต่วิธีการสแกนจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยการสแกนด้วย Touch ID ของ iPhone6 plus เพียงแค่กดปุ่ม home ค้างไว้สักครู่ครั้งเดียว ตัวเครื่องก็สามารถแสกนลายนิ้วมือไปด้วยพร้อมกัน ในการปลดล๊อกเครื่อง แต่สำหรับ Galaxy Note4 เป็นการแสกนโดยแตะแล้วปาดลงข้างล่าง (Swipe ) ผ่านปุ่ม Home เพื่ออ่าน นอกจากนี้ Apple ใช้ Touch ID ในการซื้อแอปพลิเคชั่นได้ รวมถึงใช้ร่วมกับ Apple Pay ในขณะที่ Note 4 สามารถใช้ชำระเงินผ่านทาง Paypal ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
เทคโนโลยี NFC กับการใช้งานจริง
iPhone 6 Plus และ Note 4 มี NFC ทั้งคู่ แต่การนำไปใช้งานนั้นแตกต่างกัน
iPhone 6 Plus ใช้ NFC สำหรับ Apple Pay ในการชำระสินค้า โดยยื่น iPhone 6 Plus ที่เครื่องอ่าน Reader พร้อมกับ กด touch id ในการ confirm การจ่าย ซึ่งมีความปลอดภัยกว่า nfc ใน มือถือAndroid แต่ขณะนี้ยังใช้ได้แค่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ใช้ในไทยไม่ได้ เพราะ Apple Pay ยังไม่เปิดให้บริการในไทย
Galaxy Note 4 และ Android ที่รองรับ NFC นั้น สามารถประยุกต์ใช้ได้มากกว่า คือ แตะเพื่อส่งภาพหรือวีดีโอไปยังสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง , ใช้สำหรับการโดยสารรถไฟฟ้า , ชำระสินค้าและบริการ ซึ่งในไทยก็สามารถใช้ได้แล้ว และหนึ่งในนั้นคือ Note 4 ก็สามารถใช้ได้จริงในไทย
แบตเตอรี่
- Note 4 มีความจุสูง ถึง 3220 mAh ซึ่งมากกว่า iPhone 6 Plus ที่มีความจุถึง 2,915 mAh แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานมือถือของคุณ โอกาสแบตหมดเร็วก็มีพอๆกัน
- แต่ในด้านการจัดการพลังงานแบตนั้น Note 4 มีระบบจัดการพลังงานพร้อมกว่า iPhone 6 Plus ทั้ง Power Saving Mode ที่ทำให้ Note 4 เป็นขาวดำ และใช้มือถือได้นานขึ้นเป็นวัน แม้แบตเตอรี่เหลือ 10% อีกทั้ง Note 4 มีเทคโนโลยี Fast Charging ให้ชาร์จแบตเต็มเร็วขึ้น ซึ่ง iPhone 6 Plus ไม่มี
- เรื่องสายสำหรับโอนข้อมูล และชาร์จมือถือนั้น Note 4สามารถใช้สายชาร์จที่เป็น Micro USB ได้ หาง่ายในท้องตลาด ส่วน iPhone 6 Plus นั้น ต้องใช้สายแบบ lightning
- และอีกความต่างนึงก็คือ iPhone 6 Plus แบตเตอรี่ติดกับตัวเครื่องเลยถอดแบตไม่ได้ ส่วน Note 4 สามารถถอดเปลี่ยนแบตใหม่ได้
กล้องมือถือ
Galaxy Note 4 มีความละเอียด 16 Megapixel กล้องหน้า 3.7 Megapixel ซึ่งสูงกว่า iPhone 6 Plus ที่มีความละเอียด 8 Megapixel และ กล้องหน้า 1.2 Megapixel
แต่ถึงแม้ Galaxy Note4 จะมีความละเอียดกว่า แต่ผู้ใช้หลายรายอาจชอบภาพถ่ายที่ถ่ายด้วย iPhone 6 Plus เพราะ iPhone6 plus มาพร้อมกล้อง iSigh รุ่นใหม่ที่แม้จะมีความละเอียดเท่ากับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ อีกทั้ง ปรับแสงความสว่างได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม Galaxy Note 4 ก็สามารถถ่ายภาพย้อนแสงด้วย HDR แต่ปรับระดับที่สว่างไปบ้าง
- iPhone 6 Plus และ Note 4 มาพร้อม OIS เพื่อระบบป้องกันภาพสั่นไหว ขณะถ่ายรูป
- Galaxy Note 4 มีลูกเล่น Wide Selfie ถ่ายรูป Selfie กับเพื่อนๆได้กว้างขึ้น ซึ่ง iPhone6 plus ไม่มีลูกเล่นนี้
- iPhone 6 Plus มีฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอทั้ง Slo-mo video และแบบ Time-lapse video และถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 30 fps or 60 fps
การทำงานแบบ Multi Tasking พร้อมๆกันหลายๆแอพ
iPhone 6 Plus ไม่สามารถแบ่งหน้าจอแบบเปิดหลายแอพแล้วแบ่งหน้าต่างได้ ได้แต่สลับเปลี่ยนแอปพลิเคชั่นเท่านั้น
แต่ Note 4 สามารถย่อหน้าต่างแอพ ให้ทำงานพร้อมกันบนหน้าจอเดียวได้ แถมสามารถใช้นิ้วหรือปากกา ลากไฟล์ภาพ ข้อความ หรือ รูปภาพ ระหว่างหน้าต่างกันได้ด้วย เรียกได้ว่าเหมือนกับ Windows บนคอมพิวเตอร์ไปเลย
หน่วยความจำ
- iPhone 6 Plus มีให้เลือก 3 ขนาด คือ 16GB, 64GB และ 128 GB ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วย micro SD
- Galaxy Note 4 มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 32GB และ 64GB เพิ่มหน่วยความจำได้ด้วย Micro SD
ซีพียู (CPU)
- iPhone 6 Plus ใช้ซีพียู A8 chip ใช้ชิพเดียวกันทั่วโลก
- ส่วน Samsung Galaxy Note 4 ในประเทศไทย Note 4 ใช้ชิพ Exynos octa-core 1.9GHz ของ Samsung แทน
ด้านการรองรับ นาฬิกาอัจฉริยะ และอุปกรณ์ Wearable
Galaxy Note 4 รองรับ ทั้ง Android Wear , Samsung Gear , Pebble ซึ่งมีจำหน่ายในท้องตลาดไทยอยู่แล้ว บวกกับความสามารถเล่น VR คู่กับ Google CardBoard และ Samsung Gear VR ได้ดีด้วย กลายเป็นมือถือที่รองรับรองรับ Wearable มากกว่า Apple iPhone 6 Plus ที่ต้องรอจำหน่าย Apple Watch ในปี 2015 และ นาฬิกา Pebble ที่มีจำหน่ายในไทยในบางแห่งเท่านั้น แต่ iPhone 6 Plus ก็สามารถใช้งานร่วม wearable ที่เป็นสายรัดข้อมือได้หลายตัว
Galaxy Note 4 สามารถดาวน์โหลดแอพได้ทั้งผ่านทาง Play Store สำหรับแอพ Android ซึ่งมีแอพดังๆมากมาย รวมถึงสามารถเลือกดูพวก e-book และ หนังภาพยนตร์จาก google play ได้ด้วย อีกทั้งยังมี Galaxy App สำหรับอุปกรณ์ Samsung และผู้ใช้มือถือ Samsung ซึ่งมีแอพเด็ด exclusive เฉพาะจาก Samsung ส่วน iPhone 6 Plus สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะทาง App Store แต่ใน App Store โดยทั่วไปแล้วจะมีแอพที่มีคุณภาพจำนวนมากกว่า เพราะมีนักพัฒนาพัฒนาแอพบน iOS เป็นจำนวนมาก และแอพปลอมมีน้อย เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการระบบปิด
ราคา iPhone 6 Plus ในไทยทั้ง 3 รุ่น จาก Apple Store Thailand
ราคา
Samsung Galaxy Note 4 ได้ประกาศวางจำหน่ายในไทยไปได้ไม่นาน ราคาจะแอบแรงอยู่ 25,900 บาท (แต่ได้หน่วยความจำ 32GB ) ส่วน iPhone 6 Plus นั้น เว็บ Apple Strore เผยราคาเครื่องเปล่าที่ขายในไทย อยู่ที่ 28,900 บาท ( สำหรับหน่วยความจำ 16GB ) หากมาเทียบกันทั้ง 2 รุ่นนี้แล้วละก็ ยังไง Galaxy Note 4 ก็ยังถูกกว่าอยู่ไม่น้อยเลย
มาลองสรุปเป็นตารางสั้นๆกันดู iPhone 6 Plus และ Galaxy Note 4
iPhone 6 Plus | Samsung Galaxy Note 4 | |
จุดเด่น |
|
|
จุดอ่อน |
|
|
โดยสรุปแล้ว iPhone 6 Plus และ Galaxy Note 4 เป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากมือถือไซด์มาตรฐาน ต่างก็มีข้อดี/ข้อเสีย และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป คนที่ให้คำตอบได้ว่ารุ่นไหนดีสุด ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณ ที่จะเลือกว่า สมาร์ทโฟนรุ่นไหน สามารถใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์เหมาะกับตัวเรามากที่สุด
คุณหล่ะ ชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน? ระหว่าง iPhone6 plus กับ Samsung Galaxy Note 4 ? หากยังไม่ได้กดโหวด ก็ขอเชิญชวนมาลองโหวตกันค่ะ! 🙂
[poll id=”2″] |
ขณะนี้ปิดโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจร่วมโหวตกันนะคะ