เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน คุณสนธิยา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย ( Intel Thailand ) ได้เผยวิสัยทัศน์ เทรนด์เทคโนโลยีไอทีปี 2015 ว่าอนาคตที่จะต้องเจอในปีใหม่ 2015 นี้ไอทีจะเติบโตในทิศทางใดบ้างซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
Era of Integration ยุคผสมผสานเทคโนโลยีเป็นหนึ่งเดียว
ด้วยโลกเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราไม่อาจพึ่งพาแค่อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวคู่กับการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้อีกต่อไป เราก็ใช้อุปกรณ์ไอทีมากมายหลายแบบเช่น อุปกรณ์ไอทีสวมใส่ Wearable , สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ล้วนเชื่อมต่อถึงกันเป็นหนึ่งเดียวเกิดประสบการณ์ใช้งานปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้งาน
เราอยู่ในยุคใช้ Screen เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นคอม สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และก็พวก Smartwatch ก็ยังแสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาดต่างๆกันไป ยังสื่อสารด้วย Screen แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือ อุปกรณ์แบบไร้จอ “ non screen “ จะมาอยู่กับเรามากขึ้น เช่น นาฬิการะบบGPS เครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน และสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์มีจอ โดย feed ข้อมูลที่จำเป็น ทำให้เราได้รับทราบและใช้ประโยชน์ข้อมูลอย่างเต็มที่ สรุปแล้ว การทำงานแบบมีจอ (Screen) และ ไม่มีจอ ( Non-Screen ) จะทำงานผสมผสานกัน บูรณาการร่วมกัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในพวก Wearable + Internet Of Thing
ยุคแห่ง Internet of Thing
โลกที่อุปกรณ์ทุกอย่างคุยกันเองได้หมด ซึ่งต้องมี gateway , network , datacenter , cloud , big data ด้วย คาดอุปกรณ์ที่เป็น Connected Device ภายในปี 2020 อยู่ที่ 50 ล้านตัว แต่ถ้ารวมกับ Internet of Things ด้วย ก็มาถึงจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านตัว โดย IDC คาดการณ์ว่า ตลาด Internet of Thing ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้น จากเดิม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2013 เป็น 7.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 (โตขึ้นถึง 3.7 เท่าภายใน 7 ปี )
สิ่งที่ทำให้ Internet of Thing เด่นขึ้นในช่วงนี้ เพราะ มันเป็นการผสมผสานบูรณาการของเทคโนโลยีทุกอย่าง ทำให้ชีวิตดีขึ้น ผลผลิตดีขึ้น บริการดีขึ้น และลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
บุกเบิกก้าวสู่โลกใหม่
ยกตัวอย่างเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ที่ประกาศตัวเป็นเมือง Smart City จัดการปัญหาจราจร ดังนั้น Smart city จะเป็นเทรนด์อีกเทรนด์ที่ประเทศไทยกำลังตามมา ซึ่งหน่วยงานภาครัฐจะใช้ IOT เข้าช่วย ซึ่งเราจะได้รับบริการจากภาครัฐได้อย่างรวดเร็วและดีขึ้น และตอนนี้ไทยกำลังเข้าสู่แผน Digital Economy มีผลทำให้ Internet of Thing ยิ่งมีบทบาทอย่างรวดเร็วมากขึ้น อุปกรณ์ไอทีจะสามารถรับรู้จากผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องมานั่งจิ้ม นั่งพิมพ์ รองรับสั่งงานด้วยเสียง หรือท่าทางของเราแล้ว คอมพิวเตอร์จะเข้าใจและปฏิบัติคำสั่งได้ทันที
อุปกรณ์ที่จัดเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจจับตามองในปีหน้า คืออุปกรณ์ชิ้นนี้ มีชื่อวา Compute Stick ใช้ซีพียู Atom โดยหัวพอร์ตเป็น HDMI ไว้เสียบกับทีวี โดยเมื่อเสียบกับทีวีแล้ว ทีวีจะกลายเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ไปเลยทันที
เตรียมความพร้อมในด้านทักษะการใช้ไอที
การที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ให้ได้ผล ก็ขึ้นอยู่กับทักษะความรู้และการใช้เครื่องมือใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ หลังจากผลสำรวจในเอเชียจากคำถามที่ว่า ทำไมบริษัทจัดหางาน หาคนมาแทนตำแหน่งงานเดิมไม่ได้ ก็พบว่า 45% ของบริษัทจัดหางาน ตอบมาว่า เพราะทักษะไม่ตรงกัน Skill ที่ต้องการไม่มี ซึ่งไม่ใช่แค่ skill ด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่รวมถึง Skillด้านอื่นๆที่ไม่ใช่เทคโนโลยีด้วย แต่อย่าลืมว่า เทคโนโลยี คือพื้นฐานแห่งการสร้างทักษะอื่นๆมากมาย เพราะเป็นพื้นฐานสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
การศึกษาและการเชื่อมต่อบอร์ดแบนด์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อผลักดันให้ไทยสู่ยุคเทคโนโลยีใหม่ที่ก้าวหน้าขึ้น ตามเทรน์ดเทคโนโลยี
โดยสรุปแล้ว ทิศทางเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2015 คือ เทคโนโลยีทั้งหมดในปี 2014 ที่เห็นมานี้ มาร่วมกันบูรณาการ ทำให้เราได้เทคโนโลยี ซึ่งช่วยให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลผลิตธุรกิจดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีกระบวนการทางด้านนโยบายและกฎหมายมารองรับด้วย